สองจังหวะกับการขึ้นเขา

[Porrr]

หลายท่านบอกสองจังหวะขึ้นเขาสู้สี่จังหวะไม่ได้

จากประสบการณ์ของผมนะครับ
ผมว่ามันเหมือนหรือพอๆกันนะ

เพียงแค่เราต้องเปลี่ยนเกียร์ให้ได้รอบแรงบิดสูงสุด
ซึ่งเราต้องเปลี่ยนเกียร์เล่นรอบให้อยู่ที่หกพันขึ้นไป
รถสองจว.ที่ว่าแรงบิดน้อย ก้อจะกลายเป็นรถทรงพลังขึ้นมาทันที

เขาที่ผมขึ้นทุกอาทิตย์ ชันขนาดที่รถเก๋งรึกระบะทุกคันต้องขึ้นด้วยเกียร์1

มันอาการเดียวกะเครื่องโรตารี่ที่รอบแรงบิดสูงกว่ารถลูกสูบสี่จว.ครับ

รึถ้าใครเคยดูหนัง Initial D ตอนหลังที่ทาคุมิเปลี่ยนเครื่องใหม่
ต้องเลี้ยงรอบให้อยู่ที่ 8000-10000 รอบ
ต่างจากเครื่องตัวเก่าที่เปลี่ยนที่ 7000 แล้วรอบตกมาที่ 4500

เอาง่ายๆคือ ถ้าขึ้นเขา ลองเปลี่ยนเกียร์ที่ 9000หรือ10000รอบครับ
จะรู้สึกได้ชัดเลยว่า รถสองจว.ขึ้นได้ทุกเขาแบบสบายๆไปได้ยันยอดหิมาลัยชัวร์ๆ

[เดช..ไอ้เสื้อทอง]

คือ...เอาในแง่ การใช้งานจริง  4 จังหวะ มันไม่ต้องลำบากยากเย็น ไล่เกียร์เลี้ยงรอบเหมือน 2 จังหวะ อ่ะครับ

เหมือน  โซนิค ขึ้นเขา  ยังไง  ก็ทิ้ง เอนโปร -เซอร์ปิโก้  ขาดลอย 


.

[aek_j]

ถ้าลากขนาดนั้น แป๊ยเดวจอดครับ ขนาดผมขึ้น " ภูขี้ฟ้า " ลากแค่ 5-6000 รอบโลสองโลต้องจอดเพราะความร้อนขึ้นครับ เจอเวฟซ้อน 3 แซงเฉย - -"

[เดช..ไอ้เสื้อทอง]

ถ้าลากขนาดนั้น แป๊ยเดวจอดครับ ขนาดผมขึ้น " ภูขี้ฟ้า " ลากแค่ 5-6000 รอบโลสองโลต้องจอดเพราะความร้อนขึ้นครับ เจอเวฟซ้อน 3 แซงเฉย - -"

เอก.....ลอง  มโนภาพ  ดู  หาก ผม โดนเด็กแว้น  มัน ขับเวฟ ซ้อน 3 ชะลอ มาใกล้   ตบหัว เรา แล้ว บิดขึ้นดอยหนี ...

เรา ขับ   สองจังหวะ ตัวอื่น  ๆ ไต่ดอยไล่มันไป  ....ยังไง  ก็ ไม่ทันมันอ่ะครับ 


ใกล้จะทัน  จะทัน  ... เหมือนจะพอ เอื้อมมือ ไปตบคืนได้   ...เดี๋ยว  มัน ก็ บิดเครื่อง  เร่งหนี  ไป อีก  ให้เจ็บใจ เล่น ๆ ซะงั้น 


.

;)

[aoaaued]

หลายท่านบอกสองจังหวะขึ้นเขาสู้สี่จังหวะไม่ได้

จากประสบการณ์ของผมนะครับ
ผมว่ามันเหมือนหรือพอๆกันนะ

เพียงแค่เราต้องเปลี่ยนเกียร์ให้ได้รอบแรงบิดสูงสุด
ซึ่งเราต้องเปลี่ยนเกียร์เล่นรอบให้อยู่ที่หกพันขึ้นไป
รถสองจว.ที่ว่าแรงบิดน้อย ก้อจะกลายเป็นรถทรงพลังขึ้นมาทันที

เขาที่ผมขึ้นทุกอาทิตย์ ชันขนาดที่รถเก๋งรึกระบะทุกคันต้องขึ้นด้วยเกียร์1

มันอาการเดียวกะเครื่องโรตารี่ที่รอบแรงบิดสูงกว่ารถลูกสูบสี่จว.ครับ

รึถ้าใครเคยดูหนัง Initial D ตอนหลังที่ทาคุมิเปลี่ยนเครื่องใหม่
ต้องเลี้ยงรอบให้อยู่ที่ 8000-10000 รอบ
ต่างจากเครื่องตัวเก่าที่เปลี่ยนที่ 7000 แล้วรอบตกมาที่ 4500

เอาง่ายๆคือ ถ้าขึ้นเขา ลองเปลี่ยนเกียร์ที่ 9000หรือ10000รอบครับ
จะรู้สึกได้ชัดเลยว่า รถสองจว.ขึ้นได้ทุกเขาแบบสบายๆไปได้ยันยอดหิมาลัยชัวร์ๆ

จริงของท่าน   ส่วนมากจะใช้รอบเครื่องกันแบบ4จังหวะ แรงมันก็ถดถอยซิครับ

[Franesae]

ความหมายของเครื่อง 4 จังหวะขึ้นเขาดีกว่า เครื่อง 2 จังหวะเพราะว่า เครื่อง 4 จังหวะ ไม่ต้องใช้รอบสูง ก็สามารถเรียกแรงบิดมาได้ครับ ไม่ต้องลดเกียร์ต่ำหรือเรียกรอบสูง
มันจะขี่ง่ายกว่าเครื่อง 2 จังหวะครับ

[Tong_2T_150]

ขึ้นได้แต่เหนื่อย ต้องรีดรอบ รีดแรงบิด+แรงม้า (NSR)เกียร์1 รอบเครื่องหมุนอยู่6,000-8000รอบถึงจะขึ้นใหว  สงสารเครื่องมาก
ความร้อนก็ขึ้นไว รอบสูงแต่ค่อยๆไต่ ลมผ่านน้อย ความร้อนระบายไม่ค่อยทัน บวกกับความกดอากาศต่ำเมื่อขึ้นที่สูง น้ำเดือดง่ายขึ้น
ปล.ท่อเดิมช่วยทั่นได้!

[landomking]

ปัญหาที่ว่ามานี้ผมจบได้ง่สยมากครับปกติผมขัยทางเรียบใช่เสตอร์15-42เวลาท่าจะไปออกทริปขึ้นเขาก็ลดมาเหลือ14กำลังเหลือเพียบแล้วอีกอย่างเรื่องความร้อนที่บอกว่าความร้อนขึ้นท่าเปลี่ยนเกียร์ที่8-9พันนั้นผมเปลี่ยนที่10-11ตลอดครับไม่เคยมีปัญหายังไงลองเช็คidใหม่ให้มันเหมาะสมกับความต้องการคับอย่าให้แห้งเกินไม่ต้องไปกลัวเปลืองหากต้องการรถที่สมบูรณ์และเช็คหม้อน้ำให้ดีเท่านี้จบคับอิอิความคิดส่วนตัวที่ใช้เวลาขึ้นเขายังไงรองดูท่านอื่นต่อไปขอบพระคุณครับ

[{{ boyy555 }}]

ขึ้นได้น่ะได้ครับ แต่เหนื่อยกว่า 4 จังหวะแบบ ฟ้า กะ เหวครับ   แต่ทำไงได้ไม่มี 4 จังหวะ มันก็ต้องเอา  เคอานี่แหละ แว้นนนน   แว้รนนนนนนนนน   

[landomking]

ขึ้นได้น่ะได้ครับ แต่เหนื่อยกว่า 4 จังหวะแบบ ฟ้า กะ เหวครับ   แต่ทำไงได้ไม่มี 4 จังหวะ มันก็ต้องเอา  เคอานี่แหละ แว้นนนน   แว้รนนนนนนนนน   

ขึ้นแบบเสียงเร้าใจอิอิ

[boonchu]

น่ารักจังเรยยยย
คนไม่มีลูกสาวก็เปนเงี้ย :(

[KenJi]

4 จังหวะ แรงบิด แรงม้า มันเรียกออกมาในรอบต่ำได้เยอะกว่า 2 จังหวะ มันจึงขึ้นสะพานชันๆ เนินชัน หรือเขา ได้ดีกว่า
2 จังหวะ แรงบิด แรงม้า ส่วนใหญ่มันอยู่ในรอบสูงเวลาขึ้นสะพานชันๆ เนินชัน หรือเขา มันจึงต้องบิดรอบให้สูงหน่อยเพื่อเรียกแรงมันออกมา เวลารอบมันสูงแรงมันออกมามันถึงจะขึ้นได้สบายๆ ถ้ารอบมันต่ำมันจะไม่มีแรง

แต่ถ้าคุณพูดถึง Initial D นี่ผมมีครบเลยนะ 4 ภาค แต่ภาค 5 รอมันออกซับไทยอยู่อิอิ...

[fluke32]

4 จังหวะ แรงบิด แรงม้า มันเรียกออกมาในรอบต่ำได้เยอะกว่า 2 จังหวะ มันจึงขึ้นสะพานชันๆ เนินชัน หรือเขา ได้ดีกว่า
2 จังหวะ แรงบิด แรงม้า ส่วนใหญ่มันอยู่ในรอบสูงเวลาขึ้นสะพานชันๆ เนินชัน หรือเขา มันจึงต้องบิดรอบให้สูงหน่อยเพื่อเรียกแรงมันออกมา เวลารอบมันสูงแรงมันออกมามันถึงจะขึ้นได้สบายๆ ถ้ารอบมันต่ำมันจะไม่มีแรง

แต่ถ้าคุณพูดถึง Initial D นี่ผมมีครบเลยนะ 4 ภาค แต่ภาค 5 รอมันออกซับไทยอยู่อิอิ...

Initial D  หลายๆภาค พอมีเว็ปดูหรือโหลดไหมคับผมหาอยู่ไม่เจอสักที

[Porrr]

ผมตั้งประเด็นมาไม่ได้มีเจตนาเปรียบเทียบครับ
แค่ว่ารถสองจว.ขึ้นเขามันก้อไม่ได้เลวร้ายไรมากขนาดนั้น
เครื่องยนต์แต่ละแบบมันก้อมีสันดารของมันน่ะ
แบบเครื่องดีเซลอันนี้รอบแรงบิดมาต่ำฝุดๆ

ว่าแต่ทำให้นึกเล่นๆว่าคนเขียน Initial D น่าจะเขียนตอน แข่งขึ้นเขา โรตารี่แล้วของพระรองน่าจะโดนกระบะวีโก้ชาวไทยสวนกระจายเลยนะนั่น 555555

[Mtz]

ผมตั้งประเด็นมาไม่ได้มีเจตนาเปรียบเทียบครับ
แค่ว่ารถสองจว.ขึ้นเขามันก้อไม่ได้เลวร้ายไรมากขนาดนั้น
เครื่องยนต์แต่ละแบบมันก้อมีสันดารของมันน่ะ
แบบเครื่องดีเซลอันนี้รอบแรงบิดมาต่ำฝุดๆ

ว่าแต่ทำให้นึกเล่นๆว่าคนเขียน Initial D น่าจะเขียนตอน แข่งขึ้นเขา โรตารี่แล้วของพระรองน่าจะโดนกระบะวีโก้ชาวไทยสวนกระจายเลยนะนั่น 555555

ว่างๆลองซ้อนสองขึ้นเขาดูนะครับ จะรู้ความต่างทันที  รถมีมีสองคัน NSR กะTZM ซึ่งเป็นรถที่มีแรงบิดที่รอบกลางถึงปลาย ต่่างกับKR ซึ่งเป็นรถที่มีแรงบิดดีตั้งแต่รอบต้น  การขึ้นเนินความลำบาก  คนขี่คาวา จะรู้สึกน้อยกว่ายามาฮ่าและฮอนด้า  ขึ้นภูทับเบิก(ใครไปจะรู้ว่า ไปทีนี้ เขาเรียกกันว่า ทริปพังรถ)  ไปคนเดียวนี้ สบายๆอยู่ แต่ก้เหนื่อย เพระาต้องเข้าโค้งที่ความเร็วเพื่อรักษาแรงเฉื่อยไว้ไม่ให้รถหมดกำลัง (เข่าแทบเช็ดพื้น เฮ๊อ....เหนื่อย แต่มันส์ ได้ฝึกทักษะไปในตัว    )
       ไปสองคนนี้ขึ้นไปเรื่อยๆพอไหว  แต่พอเจอรถคันนี้ แม่งเบรค  ตอนอยู่กึ่งกลางเนิน ทีนี้แหละ นรกถามหาแล้ว  เพระาเราต้องเบรคเพื่อหยุดรถตอนกำลังขึ้นเนิน  เพราะเราคงไม่ได้ใช้รอบที่รถเรามีแรงม้าสูงๆออกมาแน่นอน  ท่าจะต้องขึ้นด้วยรอบเครื่อง2-4000รอบ  หุหุ ทีนี้แหละ รอบแค่นั้น  อย่าว่าแต่แรงม้าเลย  เหลือแต่แรงแมวแล้วเราทีนี้
     ทีนี้แหละอยู่ที่เทคนิคเอาตัวรอดแล้วว่าจะโดขึ้นเขายังไง (ผมใช้วิธีทำให้รถโดดแบบมอเตอร์ครอส คือ กำครัชเบิลเครื่องแล้วปล่อยให้รถกระตุก ทำแบบนี้ จะว่าจะขึ้นถึงทางที่พอจะทำความเร็วได้  พอถึงช่วงที่ทำความเร็วได้ ก็อัดเข้าโค้งขึ้นเขาไปเลย แทบไม่ต้องเบรค เพระาพอเจอช่วงขึ้นเนินรถเราจะเสียความเร็วไปเอง  เราก็พับรถเข้าโค้ง )

[{{ boyy555 }}]

ขึ้นได้น่ะได้ครับ แต่เหนื่อยกว่า 4 จังหวะแบบ ฟ้า กะ เหวครับ   แต่ทำไงได้ไม่มี 4 จังหวะ มันก็ต้องเอา  เคอานี่แหละ แว้นนนน   แว้รนนนนนนนนน    

ขึ้นแบบเสียงเร้าใจอิอิ

:( :( :( :( :( :( :(   :P :P :P :P  แล้วเข็มความร้อนก็  ตั้งเด่   :( :(

[{{ boyy555 }}]

ผมตั้งประเด็นมาไม่ได้มีเจตนาเปรียบเทียบครับ
แค่ว่ารถสองจว.ขึ้นเขามันก้อไม่ได้เลวร้ายไรมากขนาดนั้น
เครื่องยนต์แต่ละแบบมันก้อมีสันดารของมันน่ะ
แบบเครื่องดีเซลอันนี้รอบแรงบิดมาต่ำฝุดๆ

ว่าแต่ทำให้นึกเล่นๆว่าคนเขียน Initial D น่าจะเขียนตอน แข่งขึ้นเขา โรตารี่แล้วของพระรองน่าจะโดนกระบะวีโก้ชาวไทยสวนกระจายเลยนะนั่น 555555

ว่างๆลองซ้อนสองขึ้นเขาดูนะครับ จะรู้ความต่างทันที  รถมีมีสองคัน NSR กะTZM ซึ่งเป็นรถที่มีแรงบิดที่รอบกลางถึงปลาย ต่่างกับKR ซึ่งเป็นรถที่มีแรงบิดดีตั้งแต่รอบต้น  การขึ้นเนินความลำบาก  คนขี่คาวา จะรู้สึกน้อยกว่ายามาฮ่าและฮอนด้า  ขึ้นภูทับเบิก(ใครไปจะรู้ว่า ไปทีนี้ เขาเรียกกันว่า ทริปพังรถ)  ไปคนเดียวนี้ สบายๆอยู่ แต่ก้เหนื่อย เพระาต้องเข้าโค้งที่ความเร็วเพื่อรักษาแรงเฉื่อยไว้ไม่ให้รถหมดกำลัง (เข่าแทบเช็ดพื้น เฮ๊อ....เหนื่อย แต่มันส์ ได้ฝึกทักษะไปในตัว    )
       ไปสองคนนี้ขึ้นไปเรื่อยๆพอไหว  แต่พอเจอรถคันนี้ แม่งเบรค  ตอนอยู่กึ่งกลางเนิน ทีนี้แหละ นรกถามหาแล้ว  เพระาเราต้องเบรคเพื่อหยุดรถตอนกำลังขึ้นเนิน  เพราะเราคงไม่ได้ใช้รอบที่รถเรามีแรงม้าสูงๆออกมาแน่นอน  ท่าจะต้องขึ้นด้วยรอบเครื่อง2-4000รอบ  หุหุ ทีนี้แหละ รอบแค่นั้น  อย่าว่าแต่แรงม้าเลย  เหลือแต่แรงแมวแล้วเราทีนี้
     ทีนี้แหละอยู่ที่เทคนิคเอาตัวรอดแล้วว่าจะโดขึ้นเขายังไง (ผมใช้วิธีทำให้รถโดดแบบมอเตอร์ครอส คือ กำครัชเบิลเครื่องแล้วปล่อยให้รถกระตุก ทำแบบนี้ จะว่าจะขึ้นถึงทางที่พอจะทำความเร็วได้  พอถึงช่วงที่ทำความเร็วได้ ก็อัดเข้าโค้งขึ้นเขาไปเลย แทบไม่ต้องเบรค เพระาพอเจอช่วงขึ้นเนินรถเราจะเสียความเร็วไปเอง  เราก็พับรถเข้าโค้ง )

เหมือนกันเลยเห็นภาพ  เจอมาแล้วเหตุการแบบนี้ครับ  เรากำลังส่ง  ข้างหน้าเบรค   โอ้ววว   นรกมาเยือนอีกละ     :( :( ;) ;) 


.

[Hunterzero]

ผมตั้งประเด็นมาไม่ได้มีเจตนาเปรียบเทียบครับ
แค่ว่ารถสองจว.ขึ้นเขามันก้อไม่ได้เลวร้ายไรมากขนาดนั้น
เครื่องยนต์แต่ละแบบมันก้อมีสันดารของมันน่ะ
แบบเครื่องดีเซลอันนี้รอบแรงบิดมาต่ำฝุดๆ

ว่าแต่ทำให้นึกเล่นๆว่าคนเขียน Initial D น่าจะเขียนตอน แข่งขึ้นเขา โรตารี่แล้วของพระรองน่าจะโดนกระบะวีโก้ชาวไทยสวนกระจายเลยนะนั่น 555555

ว่างๆลองซ้อนสองขึ้นเขาดูนะครับ จะรู้ความต่างทันที  รถมีมีสองคัน NSR กะTZM ซึ่งเป็นรถที่มีแรงบิดที่รอบกลางถึงปลาย ต่่างกับKR ซึ่งเป็นรถที่มีแรงบิดดีตั้งแต่รอบต้น  การขึ้นเนินความลำบาก  คนขี่คาวา จะรู้สึกน้อยกว่ายามาฮ่าและฮอนด้า  ขึ้นภูทับเบิก(ใครไปจะรู้ว่า ไปทีนี้ เขาเรียกกันว่า ทริปพังรถ)  ไปคนเดียวนี้ สบายๆอยู่ แต่ก้เหนื่อย เพระาต้องเข้าโค้งที่ความเร็วเพื่อรักษาแรงเฉื่อยไว้ไม่ให้รถหมดกำลัง (เข่าแทบเช็ดพื้น เฮ๊อ....เหนื่อย แต่มันส์ ได้ฝึกทักษะไปในตัว    )
      ไปสองคนนี้ขึ้นไปเรื่อยๆพอไหว  แต่พอเจอรถคันนี้ แม่งเบรค  ตอนอยู่กึ่งกลางเนิน ทีนี้แหละ นรกถามหาแล้ว  เพระาเราต้องเบรคเพื่อหยุดรถตอนกำลังขึ้นเนิน  เพราะเราคงไม่ได้ใช้รอบที่รถเรามีแรงม้าสูงๆออกมาแน่นอน  ท่าจะต้องขึ้นด้วยรอบเครื่อง2-4000รอบ  หุหุ ทีนี้แหละ รอบแค่นั้น  อย่าว่าแต่แรงม้าเลย  เหลือแต่แรงแมวแล้วเราทีนี้
    ทีนี้แหละอยู่ที่เทคนิคเอาตัวรอดแล้วว่าจะโดขึ้นเขายังไง (ผมใช้วิธีทำให้รถโดดแบบมอเตอร์ครอส คือ กำครัชเบิลเครื่องแล้วปล่อยให้รถกระตุก ทำแบบนี้ จะว่าจะขึ้นถึงทางที่พอจะทำความเร็วได้  พอถึงช่วงที่ทำความเร็วได้ ก็อัดเข้าโค้งขึ้นเขาไปเลย แทบไม่ต้องเบรค เพระาพอเจอช่วงขึ้นเนินรถเราจะเสียความเร็วไปเอง  เราก็พับรถเข้าโค้ง )

ขอโทษนะครับไอ้เนินพังรถที่คุณพี่เจอ  รีดครัชเกียร์1 6พันรอบยังเกือบขึ้นไม่ได้เลย  เจอจุดนั้นจุดเดียวรู้เลย ทำไมพี่วินผ้าครัชหมด เกือบเอาตัวไม่รอด

คือเอาจริงๆมันขึ้นได้ครับ แต่ทำไมถึงบอก ทริปพังรถ เพราะรถแต่ละคน(ยกเว้นคนที่ขึ้นเขาบ่อยๆนะ) อาจจะไม่เคยรู้ ตัวตนที่แท้จริงของรถตัวเอง
พอขึ้นเขาเท่านั้นแหละแม่เจ้าประคุณออกอาการทุกอย่างเสร็จสรรพ  ใครรถพร้อมก็ขึ้นชิวๆ ใครเน่า ก็เน่าคาเขานั้นแหละ
เพราะปกติเราขี่ทางราบโหลดกำลังรถมีไม่มาก การขี่ชิวๆที่รอบ7-8พันนั้นเป็นไปตามสภาพปกติอยู่แล้วไม่เกิดอะไร
แต่พอมาเจอโหลดตอนขึ้นเขาซึ่งเยอะมาก ในการพาตัวคนขี่ ตัวรถขึ้นเนินทางชัน ไหนจะอากาศที่แตกต่างจากพื้นราบ เบาบางขึ้นเรื่อย (ใครจูนบางเทพแดกน้ำมันน้อย
ตอนอยู่ทางราบเนี้ยแหละขึ้นเขา เรียกว่าฆ่าตัวตายชัดๆ พวกหนาเทพก็สะดุดกลางเขาเช่นกัน) ลมที่อากาศจะหนาวเย็นก็จริงแต่มีปริมาณที่ผ่านหม้อน้ำน้อยกว่า
ตอนวิ่งความเร็ว100 เพราะคลานขึ้นเขาเกียร์ต่ำๆให้เต็มที่60ครับ แต่รอบที่ใช้กันนั้นอยู่ที่ระดับ6-7000รอบซึ่งถ้าขี่ตอนปกติปริมาณอากาศ จะวิ่งผ่านหม้อน้ำเยอะ
กว่า ขึ้นเขา ก็ตัวไม่ร้อน พอขึ้นเขา สาเหตุที่ว่ามาข้างต้นนี้ทำให้เกิดอาการ ตัวร้อน พอร้อนๆมากๆก็ตามระเบียบนะครับ
2จังหวะไม่ต้องคิดอะไรมากแค่ซ้อนสองก็เป็ดดีๆนิเอง

[Arm TZ]

อย่างที่ จขกท บอกมามันก็จริงอยู่รักษารอบให้อยู่ในรอบแรงบิด 2t มันก็ขึ้นปรี๊ดๆได้

แต่รอบเครื่องมันสูงทรมานเครื่องมากๆ ถ้าเอาไปขึ้นเขาบ่อยๆนี่อายุสั้นพังก่อนวัยอันควรแน่

ไม่เหมือน 4t ไม่ต้องรีดรอบขี่ธรรมดาๆก็ขึ้นได้ชิว ผมมีทั้ง tzm และ sonic

เคยขี่ขึ้นเขาทั้งคู่ี่ sonic มันชิวกว่ามากครับซ้อน 2 ยังชิวๆเหมือนไม่หนักเท่าไหร่

ขี่ tzm ต้องรีดรอบลงเกียร์บ่อย ยิ่งซ้อน 2 อย่างเหนื่อย

[geenee]

สองจังหวะใช้ในชีวิตประจำวันเหนื่อยหน่อยร้อนง่าย แรงม้ารอบต่ำๆแย่ เจอรถหน้าเบรคนี้ตอนขึ้นเขานรกจริงๆต้องรีบตบเกียร์ลงเรียกรอบสูงๆไว้ ร้อนมากๆสูบฝืดแรงตก

แต่ถ้าพูดถึงว่ามันห่วยเลยก็ไม่ใช่แรงม้ามันเยอะกว่า เบากว่า ปรูดปราดกว่าตอนเร่งแซง อีกอย่างรถมอเตอร์ครอสก็ยังนิยมสองจังหวะ เพราะเบาแรงม้าเยอะ  ขึ้นเขาดีกว่า แต่อันนั้นรถแข่งไม่ใช่รถใช้งานประจำวัน เข้าใจรถมากขึ้นจะได้รักษามันได้นานๆ