หลายท่านบอกสองจังหวะขึ้นเขาสู้สี่จังหวะไม่ได้
จากประสบการณ์ของผมนะครับ
ผมว่ามันเหมือนหรือพอๆกันนะ
เพียงแค่เราต้องเปลี่ยนเกียร์ให้ได้รอบแรงบิดสูงสุด
ซึ่งเราต้องเปลี่ยนเกียร์เล่นรอบให้อยู่ที่หกพันขึ้นไป
รถสองจว.ที่ว่าแรงบิดน้อย ก้อจะกลายเป็นรถทรงพลังขึ้นมาทันที
เขาที่ผมขึ้นทุกอาทิตย์ ชันขนาดที่รถเก๋งรึกระบะทุกคันต้องขึ้นด้วยเกียร์1
มันอาการเดียวกะเครื่องโรตารี่ที่รอบแรงบิดสูงกว่ารถลูกสูบสี่จว.ครับ
รึถ้าใครเคยดูหนัง Initial D ตอนหลังที่ทาคุมิเปลี่ยนเครื่องใหม่
ต้องเลี้ยงรอบให้อยู่ที่ 8000-10000 รอบ
ต่างจากเครื่องตัวเก่าที่เปลี่ยนที่ 7000 แล้วรอบตกมาที่ 4500
เอาง่ายๆคือ ถ้าขึ้นเขา ลองเปลี่ยนเกียร์ที่ 9000หรือ10000รอบครับ
จะรู้สึกได้ชัดเลยว่า รถสองจว.ขึ้นได้ทุกเขาแบบสบายๆไปได้ยันยอดหิมาลัยชัวร์ๆ
คือ...เอาในแง่ การใช้งานจริง 4 จังหวะ มันไม่ต้องลำบากยากเย็น ไล่เกียร์เลี้ยงรอบเหมือน 2 จังหวะ อ่ะครับ
เหมือน โซนิค ขึ้นเขา ยังไง ก็ทิ้ง เอนโปร -เซอร์ปิโก้ ขาดลอย
.
ถ้าลากขนาดนั้น แป๊ยเดวจอดครับ ขนาดผมขึ้น " ภูขี้ฟ้า " ลากแค่ 5-6000 รอบโลสองโลต้องจอดเพราะความร้อนขึ้นครับ เจอเวฟซ้อน 3 แซงเฉย - -"
อ้างจาก: aek_j เมื่อ พฤศจิกายน 01, 2013, 09:33:12 ก่อนเที่ยง
ถ้าลากขนาดนั้น แป๊ยเดวจอดครับ ขนาดผมขึ้น " ภูขี้ฟ้า " ลากแค่ 5-6000 รอบโลสองโลต้องจอดเพราะความร้อนขึ้นครับ เจอเวฟซ้อน 3 แซงเฉย - -"
เอก.....ลอง มโนภาพ ดู หาก ผม โดนเด็กแว้น มัน ขับเวฟ ซ้อน 3 ชะลอ มาใกล้ ตบหัว เรา แล้ว บิดขึ้นดอยหนี ...
เรา ขับ สองจังหวะ ตัวอื่น ๆ ไต่ดอยไล่มันไป ....ยังไง ก็ ไม่ทันมันอ่ะครับ
ใกล้จะทัน จะทัน ... เหมือนจะพอ เอื้อมมือ ไปตบคืนได้ ...เดี๋ยว มัน ก็ บิดเครื่อง เร่งหนี ไป อีก ให้เจ็บใจ เล่น ๆ ซะงั้น
.
;)
อ้างจาก: Porrr เมื่อ พฤศจิกายน 01, 2013, 04:59:28 ก่อนเที่ยง
หลายท่านบอกสองจังหวะขึ้นเขาสู้สี่จังหวะไม่ได้
จากประสบการณ์ของผมนะครับ
ผมว่ามันเหมือนหรือพอๆกันนะ
เพียงแค่เราต้องเปลี่ยนเกียร์ให้ได้รอบแรงบิดสูงสุด
ซึ่งเราต้องเปลี่ยนเกียร์เล่นรอบให้อยู่ที่หกพันขึ้นไป
รถสองจว.ที่ว่าแรงบิดน้อย ก้อจะกลายเป็นรถทรงพลังขึ้นมาทันที
เขาที่ผมขึ้นทุกอาทิตย์ ชันขนาดที่รถเก๋งรึกระบะทุกคันต้องขึ้นด้วยเกียร์1
มันอาการเดียวกะเครื่องโรตารี่ที่รอบแรงบิดสูงกว่ารถลูกสูบสี่จว.ครับ
รึถ้าใครเคยดูหนัง Initial D ตอนหลังที่ทาคุมิเปลี่ยนเครื่องใหม่
ต้องเลี้ยงรอบให้อยู่ที่ 8000-10000 รอบ
ต่างจากเครื่องตัวเก่าที่เปลี่ยนที่ 7000 แล้วรอบตกมาที่ 4500
เอาง่ายๆคือ ถ้าขึ้นเขา ลองเปลี่ยนเกียร์ที่ 9000หรือ10000รอบครับ
จะรู้สึกได้ชัดเลยว่า รถสองจว.ขึ้นได้ทุกเขาแบบสบายๆไปได้ยันยอดหิมาลัยชัวร์ๆ
จริงของท่าน ส่วนมากจะใช้รอบเครื่องกันแบบ4จังหวะ แรงมันก็ถดถอยซิครับ
ความหมายของเครื่อง 4 จังหวะขึ้นเขาดีกว่า เครื่อง 2 จังหวะเพราะว่า เครื่อง 4 จังหวะ ไม่ต้องใช้รอบสูง ก็สามารถเรียกแรงบิดมาได้ครับ ไม่ต้องลดเกียร์ต่ำหรือเรียกรอบสูง
มันจะขี่ง่ายกว่าเครื่อง 2 จังหวะครับ
ขึ้นได้แต่เหนื่อย ต้องรีดรอบ รีดแรงบิด+แรงม้า (NSR)เกียร์1 รอบเครื่องหมุนอยู่6,000-8000รอบถึงจะขึ้นใหว สงสารเครื่องมาก
ความร้อนก็ขึ้นไว รอบสูงแต่ค่อยๆไต่ ลมผ่านน้อย ความร้อนระบายไม่ค่อยทัน บวกกับความกดอากาศต่ำเมื่อขึ้นที่สูง น้ำเดือดง่ายขึ้น
ปล.ท่อเดิมช่วยทั่นได้!
ปัญหาที่ว่ามานี้ผมจบได้ง่สยมากครับปกติผมขัยทางเรียบใช่เสตอร์15-42เวลาท่าจะไปออกทริปขึ้นเขาก็ลดมาเหลือ14กำลังเหลือเพียบแล้วอีกอย่างเรื่องความร้อนที่บอกว่าความร้อนขึ้นท่าเปลี่ยนเกียร์ที่8-9พันนั้นผมเปลี่ยนที่10-11ตลอดครับไม่เคยมีปัญหายังไงลองเช็คidใหม่ให้มันเหมาะสมกับความต้องการคับอย่าให้แห้งเกินไม่ต้องไปกลัวเปลืองหากต้องการรถที่สมบูรณ์และเช็คหม้อน้ำให้ดีเท่านี้จบคับอิอิความคิดส่วนตัวที่ใช้เวลาขึ้นเขายังไงรองดูท่านอื่นต่อไปขอบพระคุณครับ
ขึ้นได้น่ะได้ครับ แต่เหนื่อยกว่า 4 จังหวะแบบ ฟ้า กะ เหวครับ แต่ทำไงได้ไม่มี 4 จังหวะ มันก็ต้องเอา เคอานี่แหละ แว้นนนน แว้รนนนนนนนนน
อ้างจาก: {{ boyy555 }} เมื่อ พฤศจิกายน 01, 2013, 05:31:19 หลังเที่ยง
ขึ้นได้น่ะได้ครับ แต่เหนื่อยกว่า 4 จังหวะแบบ ฟ้า กะ เหวครับ แต่ทำไงได้ไม่มี 4 จังหวะ มันก็ต้องเอา เคอานี่แหละ แว้นนนน แว้รนนนนนนนนน
ขึ้นแบบเสียงเร้าใจอิอิ
น่ารักจังเรยยยย(http://upic.me/i/v5/sgjyfk.jpg) (http://upic.me/show/47928831)
คนไม่มีลูกสาวก็เปนเงี้ย :(
4 จังหวะ แรงบิด แรงม้า มันเรียกออกมาในรอบต่ำได้เยอะกว่า 2 จังหวะ มันจึงขึ้นสะพานชันๆ เนินชัน หรือเขา ได้ดีกว่า
2 จังหวะ แรงบิด แรงม้า ส่วนใหญ่มันอยู่ในรอบสูงเวลาขึ้นสะพานชันๆ เนินชัน หรือเขา มันจึงต้องบิดรอบให้สูงหน่อยเพื่อเรียกแรงมันออกมา เวลารอบมันสูงแรงมันออกมามันถึงจะขึ้นได้สบายๆ ถ้ารอบมันต่ำมันจะไม่มีแรง
แต่ถ้าคุณพูดถึง Initial D นี่ผมมีครบเลยนะ 4 ภาค แต่ภาค 5 รอมันออกซับไทยอยู่อิอิ...
อ้างจาก: KenJi เมื่อ พฤศจิกายน 01, 2013, 11:29:39 หลังเที่ยง
4 จังหวะ แรงบิด แรงม้า มันเรียกออกมาในรอบต่ำได้เยอะกว่า 2 จังหวะ มันจึงขึ้นสะพานชันๆ เนินชัน หรือเขา ได้ดีกว่า
2 จังหวะ แรงบิด แรงม้า ส่วนใหญ่มันอยู่ในรอบสูงเวลาขึ้นสะพานชันๆ เนินชัน หรือเขา มันจึงต้องบิดรอบให้สูงหน่อยเพื่อเรียกแรงมันออกมา เวลารอบมันสูงแรงมันออกมามันถึงจะขึ้นได้สบายๆ ถ้ารอบมันต่ำมันจะไม่มีแรง
แต่ถ้าคุณพูดถึง Initial D นี่ผมมีครบเลยนะ 4 ภาค แต่ภาค 5 รอมันออกซับไทยอยู่อิอิ...
Initial D หลายๆภาค พอมีเว็ปดูหรือโหลดไหมคับผมหาอยู่ไม่เจอสักที
ผมตั้งประเด็นมาไม่ได้มีเจตนาเปรียบเทียบครับ
แค่ว่ารถสองจว.ขึ้นเขามันก้อไม่ได้เลวร้ายไรมากขนาดนั้น
เครื่องยนต์แต่ละแบบมันก้อมีสันดารของมันน่ะ
แบบเครื่องดีเซลอันนี้รอบแรงบิดมาต่ำฝุดๆ
ว่าแต่ทำให้นึกเล่นๆว่าคนเขียน Initial D น่าจะเขียนตอน แข่งขึ้นเขา โรตารี่แล้วของพระรองน่าจะโดนกระบะวีโก้ชาวไทยสวนกระจายเลยนะนั่น 555555
อ้างจาก: Porrr เมื่อ พฤศจิกายน 02, 2013, 01:59:28 ก่อนเที่ยง
ผมตั้งประเด็นมาไม่ได้มีเจตนาเปรียบเทียบครับ
แค่ว่ารถสองจว.ขึ้นเขามันก้อไม่ได้เลวร้ายไรมากขนาดนั้น
เครื่องยนต์แต่ละแบบมันก้อมีสันดารของมันน่ะ
แบบเครื่องดีเซลอันนี้รอบแรงบิดมาต่ำฝุดๆ
ว่าแต่ทำให้นึกเล่นๆว่าคนเขียน Initial D น่าจะเขียนตอน แข่งขึ้นเขา โรตารี่แล้วของพระรองน่าจะโดนกระบะวีโก้ชาวไทยสวนกระจายเลยนะนั่น 555555
ว่างๆลองซ้อนสองขึ้นเขาดูนะครับ จะรู้ความต่างทันที รถมีมีสองคัน NSR กะTZM ซึ่งเป็นรถที่มีแรงบิดที่รอบกลางถึงปลาย ต่่างกับKR ซึ่งเป็นรถที่มีแรงบิดดีตั้งแต่รอบต้น การขึ้นเนินความลำบาก คนขี่คาวา จะรู้สึกน้อยกว่ายามาฮ่าและฮอนด้า ขึ้นภูทับเบิก(ใครไปจะรู้ว่า ไปทีนี้ เขาเรียกกันว่า ทริปพังรถ) ไปคนเดียวนี้ สบายๆอยู่ แต่ก้เหนื่อย เพระาต้องเข้าโค้งที่ความเร็วเพื่อรักษาแรงเฉื่อยไว้ไม่ให้รถหมดกำลัง (เข่าแทบเช็ดพื้น เฮ๊อ....เหนื่อย แต่มันส์ ได้ฝึกทักษะไปในตัว )
ไปสองคนนี้ขึ้นไปเรื่อยๆพอไหว แต่พอเจอรถคันนี้ แม่งเบรค ตอนอยู่กึ่งกลางเนิน ทีนี้แหละ นรกถามหาแล้ว เพระาเราต้องเบรคเพื่อหยุดรถตอนกำลังขึ้นเนิน เพราะเราคงไม่ได้ใช้รอบที่รถเรามีแรงม้าสูงๆออกมาแน่นอน ท่าจะต้องขึ้นด้วยรอบเครื่อง2-4000รอบ หุหุ ทีนี้แหละ รอบแค่นั้น อย่าว่าแต่แรงม้าเลย เหลือแต่แรงแมวแล้วเราทีนี้
ทีนี้แหละอยู่ที่เทคนิคเอาตัวรอดแล้วว่าจะโดขึ้นเขายังไง (ผมใช้วิธีทำให้รถโดดแบบมอเตอร์ครอส คือ กำครัชเบิลเครื่องแล้วปล่อยให้รถกระตุก ทำแบบนี้ จะว่าจะขึ้นถึงทางที่พอจะทำความเร็วได้ พอถึงช่วงที่ทำความเร็วได้ ก็อัดเข้าโค้งขึ้นเขาไปเลย แทบไม่ต้องเบรค เพระาพอเจอช่วงขึ้นเนินรถเราจะเสียความเร็วไปเอง เราก็พับรถเข้าโค้ง )
อ้างจาก: landomking เมื่อ พฤศจิกายน 01, 2013, 05:59:56 หลังเที่ยง
อ้างจาก: {{ boyy555 }} เมื่อ พฤศจิกายน 01, 2013, 05:31:19 หลังเที่ยง
ขึ้นได้น่ะได้ครับ แต่เหนื่อยกว่า 4 จังหวะแบบ ฟ้า กะ เหวครับ แต่ทำไงได้ไม่มี 4 จังหวะ มันก็ต้องเอา เคอานี่แหละ แว้นนนน แว้รนนนนนนนนน
ขึ้นแบบเสียงเร้าใจอิอิ
:( :( :( :( :( :( :( :P :P :P :P แล้วเข็มความร้อนก็ ตั้งเด่ :( :(
อ้างจาก: Mtz เมื่อ พฤศจิกายน 02, 2013, 07:39:04 ก่อนเที่ยง
อ้างจาก: Porrr เมื่อ พฤศจิกายน 02, 2013, 01:59:28 ก่อนเที่ยง
ผมตั้งประเด็นมาไม่ได้มีเจตนาเปรียบเทียบครับ
แค่ว่ารถสองจว.ขึ้นเขามันก้อไม่ได้เลวร้ายไรมากขนาดนั้น
เครื่องยนต์แต่ละแบบมันก้อมีสันดารของมันน่ะ
แบบเครื่องดีเซลอันนี้รอบแรงบิดมาต่ำฝุดๆ
ว่าแต่ทำให้นึกเล่นๆว่าคนเขียน Initial D น่าจะเขียนตอน แข่งขึ้นเขา โรตารี่แล้วของพระรองน่าจะโดนกระบะวีโก้ชาวไทยสวนกระจายเลยนะนั่น 555555
ว่างๆลองซ้อนสองขึ้นเขาดูนะครับ จะรู้ความต่างทันที รถมีมีสองคัน NSR กะTZM ซึ่งเป็นรถที่มีแรงบิดที่รอบกลางถึงปลาย ต่่างกับKR ซึ่งเป็นรถที่มีแรงบิดดีตั้งแต่รอบต้น การขึ้นเนินความลำบาก คนขี่คาวา จะรู้สึกน้อยกว่ายามาฮ่าและฮอนด้า ขึ้นภูทับเบิก(ใครไปจะรู้ว่า ไปทีนี้ เขาเรียกกันว่า ทริปพังรถ) ไปคนเดียวนี้ สบายๆอยู่ แต่ก้เหนื่อย เพระาต้องเข้าโค้งที่ความเร็วเพื่อรักษาแรงเฉื่อยไว้ไม่ให้รถหมดกำลัง (เข่าแทบเช็ดพื้น เฮ๊อ....เหนื่อย แต่มันส์ ได้ฝึกทักษะไปในตัว )
ไปสองคนนี้ขึ้นไปเรื่อยๆพอไหว แต่พอเจอรถคันนี้ แม่งเบรค ตอนอยู่กึ่งกลางเนิน ทีนี้แหละ นรกถามหาแล้ว เพระาเราต้องเบรคเพื่อหยุดรถตอนกำลังขึ้นเนิน เพราะเราคงไม่ได้ใช้รอบที่รถเรามีแรงม้าสูงๆออกมาแน่นอน ท่าจะต้องขึ้นด้วยรอบเครื่อง2-4000รอบ หุหุ ทีนี้แหละ รอบแค่นั้น อย่าว่าแต่แรงม้าเลย เหลือแต่แรงแมวแล้วเราทีนี้
ทีนี้แหละอยู่ที่เทคนิคเอาตัวรอดแล้วว่าจะโดขึ้นเขายังไง (ผมใช้วิธีทำให้รถโดดแบบมอเตอร์ครอส คือ กำครัชเบิลเครื่องแล้วปล่อยให้รถกระตุก ทำแบบนี้ จะว่าจะขึ้นถึงทางที่พอจะทำความเร็วได้ พอถึงช่วงที่ทำความเร็วได้ ก็อัดเข้าโค้งขึ้นเขาไปเลย แทบไม่ต้องเบรค เพระาพอเจอช่วงขึ้นเนินรถเราจะเสียความเร็วไปเอง เราก็พับรถเข้าโค้ง )
เหมือนกันเลยเห็นภาพ เจอมาแล้วเหตุการแบบนี้ครับ เรากำลังส่ง ข้างหน้าเบรค โอ้ววว นรกมาเยือนอีกละ :( :( ;) ;)
.
อ้างจาก: Mtz เมื่อ พฤศจิกายน 02, 2013, 07:39:04 ก่อนเที่ยง
อ้างจาก: Porrr เมื่อ พฤศจิกายน 02, 2013, 01:59:28 ก่อนเที่ยง
ผมตั้งประเด็นมาไม่ได้มีเจตนาเปรียบเทียบครับ
แค่ว่ารถสองจว.ขึ้นเขามันก้อไม่ได้เลวร้ายไรมากขนาดนั้น
เครื่องยนต์แต่ละแบบมันก้อมีสันดารของมันน่ะ
แบบเครื่องดีเซลอันนี้รอบแรงบิดมาต่ำฝุดๆ
ว่าแต่ทำให้นึกเล่นๆว่าคนเขียน Initial D น่าจะเขียนตอน แข่งขึ้นเขา โรตารี่แล้วของพระรองน่าจะโดนกระบะวีโก้ชาวไทยสวนกระจายเลยนะนั่น 555555
ว่างๆลองซ้อนสองขึ้นเขาดูนะครับ จะรู้ความต่างทันที รถมีมีสองคัน NSR กะTZM ซึ่งเป็นรถที่มีแรงบิดที่รอบกลางถึงปลาย ต่่างกับKR ซึ่งเป็นรถที่มีแรงบิดดีตั้งแต่รอบต้น การขึ้นเนินความลำบาก คนขี่คาวา จะรู้สึกน้อยกว่ายามาฮ่าและฮอนด้า ขึ้นภูทับเบิก(ใครไปจะรู้ว่า ไปทีนี้ เขาเรียกกันว่า ทริปพังรถ) ไปคนเดียวนี้ สบายๆอยู่ แต่ก้เหนื่อย เพระาต้องเข้าโค้งที่ความเร็วเพื่อรักษาแรงเฉื่อยไว้ไม่ให้รถหมดกำลัง (เข่าแทบเช็ดพื้น เฮ๊อ....เหนื่อย แต่มันส์ ได้ฝึกทักษะไปในตัว )
ไปสองคนนี้ขึ้นไปเรื่อยๆพอไหว แต่พอเจอรถคันนี้ แม่งเบรค ตอนอยู่กึ่งกลางเนิน ทีนี้แหละ นรกถามหาแล้ว เพระาเราต้องเบรคเพื่อหยุดรถตอนกำลังขึ้นเนิน เพราะเราคงไม่ได้ใช้รอบที่รถเรามีแรงม้าสูงๆออกมาแน่นอน ท่าจะต้องขึ้นด้วยรอบเครื่อง2-4000รอบ หุหุ ทีนี้แหละ รอบแค่นั้น อย่าว่าแต่แรงม้าเลย เหลือแต่แรงแมวแล้วเราทีนี้
ทีนี้แหละอยู่ที่เทคนิคเอาตัวรอดแล้วว่าจะโดขึ้นเขายังไง (ผมใช้วิธีทำให้รถโดดแบบมอเตอร์ครอส คือ กำครัชเบิลเครื่องแล้วปล่อยให้รถกระตุก ทำแบบนี้ จะว่าจะขึ้นถึงทางที่พอจะทำความเร็วได้ พอถึงช่วงที่ทำความเร็วได้ ก็อัดเข้าโค้งขึ้นเขาไปเลย แทบไม่ต้องเบรค เพระาพอเจอช่วงขึ้นเนินรถเราจะเสียความเร็วไปเอง เราก็พับรถเข้าโค้ง )
ขอโทษนะครับไอ้เนินพังรถที่คุณพี่เจอ รีดครัชเกียร์1 6พันรอบยังเกือบขึ้นไม่ได้เลย เจอจุดนั้นจุดเดียวรู้เลย ทำไมพี่วินผ้าครัชหมด เกือบเอาตัวไม่รอด
คือเอาจริงๆมันขึ้นได้ครับ แต่ทำไมถึงบอก ทริปพังรถ เพราะรถแต่ละคน(ยกเว้นคนที่ขึ้นเขาบ่อยๆนะ) อาจจะไม่เคยรู้ ตัวตนที่แท้จริงของรถตัวเอง
พอขึ้นเขาเท่านั้นแหละแม่เจ้าประคุณออกอาการทุกอย่างเสร็จสรรพ ใครรถพร้อมก็ขึ้นชิวๆ ใครเน่า ก็เน่าคาเขานั้นแหละ
เพราะปกติเราขี่ทางราบโหลดกำลังรถมีไม่มาก การขี่ชิวๆที่รอบ7-8พันนั้นเป็นไปตามสภาพปกติอยู่แล้วไม่เกิดอะไร
แต่พอมาเจอโหลดตอนขึ้นเขาซึ่งเยอะมาก ในการพาตัวคนขี่ ตัวรถขึ้นเนินทางชัน ไหนจะอากาศที่แตกต่างจากพื้นราบ เบาบางขึ้นเรื่อย (ใครจูนบางเทพแดกน้ำมันน้อย
ตอนอยู่ทางราบเนี้ยแหละขึ้นเขา เรียกว่าฆ่าตัวตายชัดๆ พวกหนาเทพก็สะดุดกลางเขาเช่นกัน) ลมที่อากาศจะหนาวเย็นก็จริงแต่มีปริมาณที่ผ่านหม้อน้ำน้อยกว่า
ตอนวิ่งความเร็ว100 เพราะคลานขึ้นเขาเกียร์ต่ำๆให้เต็มที่60ครับ แต่รอบที่ใช้กันนั้นอยู่ที่ระดับ6-7000รอบซึ่งถ้าขี่ตอนปกติปริมาณอากาศ จะวิ่งผ่านหม้อน้ำเยอะ
กว่า ขึ้นเขา ก็ตัวไม่ร้อน พอขึ้นเขา สาเหตุที่ว่ามาข้างต้นนี้ทำให้เกิดอาการ ตัวร้อน พอร้อนๆมากๆก็ตามระเบียบนะครับ
2จังหวะไม่ต้องคิดอะไรมากแค่ซ้อนสองก็เป็ดดีๆนิเอง
อย่างที่ จขกท บอกมามันก็จริงอยู่รักษารอบให้อยู่ในรอบแรงบิด 2t มันก็ขึ้นปรี๊ดๆได้
แต่รอบเครื่องมันสูงทรมานเครื่องมากๆ ถ้าเอาไปขึ้นเขาบ่อยๆนี่อายุสั้นพังก่อนวัยอันควรแน่
ไม่เหมือน 4t ไม่ต้องรีดรอบขี่ธรรมดาๆก็ขึ้นได้ชิว ผมมีทั้ง tzm และ sonic
เคยขี่ขึ้นเขาทั้งคู่ี่ sonic มันชิวกว่ามากครับซ้อน 2 ยังชิวๆเหมือนไม่หนักเท่าไหร่
ขี่ tzm ต้องรีดรอบลงเกียร์บ่อย ยิ่งซ้อน 2 อย่างเหนื่อย
สองจังหวะใช้ในชีวิตประจำวันเหนื่อยหน่อยร้อนง่าย แรงม้ารอบต่ำๆแย่ เจอรถหน้าเบรคนี้ตอนขึ้นเขานรกจริงๆต้องรีบตบเกียร์ลงเรียกรอบสูงๆไว้ ร้อนมากๆสูบฝืดแรงตก
แต่ถ้าพูดถึงว่ามันห่วยเลยก็ไม่ใช่แรงม้ามันเยอะกว่า เบากว่า ปรูดปราดกว่าตอนเร่งแซง อีกอย่างรถมอเตอร์ครอสก็ยังนิยมสองจังหวะ เพราะเบาแรงม้าเยอะ ขึ้นเขาดีกว่า แต่อันนั้นรถแข่งไม่ใช่รถใช้งานประจำวัน เข้าใจรถมากขึ้นจะได้รักษามันได้นานๆ
:D :D :D
เด๋วลองเอาไปขึ้นเขาดูมั่ง อิอิ
ขี่สองจังหวะ ขึ้นเขา ท่านจะตั้งคำถามกับคันข้างหน้า ว่า "มิงจะเบรคทำไมครับ"
"เข้าใจไหมครับ ฉันกำลังลอยลำมา ฟิ้วๆๆๆ ผัดนะครับ มิงเบรค"
จริงๆ ผมอยากจะบ่น ทั้งตอนขับกระบะ และมอไซด์นั่นหล่ะครับ ชอบกันจริง ขี่กินลมชมวิว แหม..... รถเก๋ง เกียร์ออโต้ ดุ๊ย ดุ่ย ขึ้นเขา ด้วยความเร็ว ซัก 10-20 กิโลเมตร ต่อชม. เฮ้อออ ไม่อยากจะพูด ขับตาม เครียด ครับ
น่าจะมีการทำ ใบขับขี่แยกประเภท ไปเลยเนาะ เลเวลนี้ ห้ามขึ้นเขา เลเวลนี้ ขึ้นเขาระดับความยากเท่านี้ได้ แล้วปัญหา ตกเขา พังบนเขา จะหายไป ทีเดียวเชียว
กลับๆๆๆๆ ในหลืบเขา เลาะเขา ขึ้นเนิน คนจะขี่ สองจังหวะ บนนั้นฝีมือ ควรจะจัดพอสมควร นะ ถึงจะไปได้เร็ว คำว่าจัดนี่คือ ทักษะการขี่ รวมถึง ทักษะการประเมินรถ ได้ด้วยว่า รถตัวเองย่านกำลังอยู่ กงไหน จะต้องวิ่ง ด้วยความเร็วรอบเท่าไหร่ ถึงจะลากคนและสัมภารก ขึ้นไปได้
ไม่ใช่แค่สักแต่ว่า บิดคันเร่ง แล้วจะมาบอกว่า ตูขี่รถเป็น อันนี้ คง ไม่ใช่หล่ะมั้ง คนนะครับ ไม่ใช่ลิง คิๆ
ในกรณี ที่ไปกันเป็นกลุ่ม ฝีมือ คนในกลุ่มนั้นๆ จะต้องเท่าๆ กัน หรือคนที่เก่ง กว่า ต้องลดระดับ ลงมา ในเท่าๆเพื่อน
เพราะถ้าฝีมือ ไม่เท่ากัน คนนี้ เร็วมาก คนนั้น คลานเป็นเต่า ตกเขา หน่ะคงไม่ตก แต่รถอาจจะพัง ในเขา ก็ว่ากันไป คือถ้าสมมติว่า ผมบังเอิญได้ไป ด้วย แล้วเจอคนช้า นี่ ผมทิ้งจริงๆ นะ อย่าว่าผมเห็นแก่ตัว ไม่รักเพื่อน เลยนะครับ เพราะแทนที่จะพัง สองคัน มันจะพัง แค่คันเดียว ยังเหลือที่ซ้อน พาท่านกับบ้านได้
จะไปทริปให้ปลอดภัย รถต้องวิ่งได้ดี เท่าๆกัน ฝีมือคนขี่ต้องเท่าๆ กัน และการสื่อสาร การพูดคุย ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง
แล้วมันจะไปได้เร็ว ตัดปัญหารถพัง คามือ กันไปอีกเยอะ
ปล. คนขี่ฝีมือจัด + รถสองจังหวะ แรงดีๆ ขี่ดีๆ = ความเร็วระเบิดระเบ้อ
สองจังหวะเนี่ย พอเราพยายามลากรอบสูงเพื่อจะขึ้นเขา ก้อยิ่งทำให้กินน้ำมันขึ้นไปอีกด้วย
ไอ้ครั้นจะบิดชิวๆ ก้อขึ้นม่ายไหวอีก เฮ้อออออ
ไปเกาะช้างมาขึ้นเขาทีนึงขอบอกเหนื่อยสุดๆ :)
เห็นด้วยกับกระทู้นี้นะครับ ต้องยอมแพ้4จังหวะเค้าจริงๆครับ เวลาอัดแช่ก็อัดได้ยาวกว่า2จังหวะไม่ต้องกลัวใส้แตกเหมือน2จังหวะด้วยครับ.....
คนขับก็มีส่วนเยอะนะ ดังที่ท่านเด็กชาย โหน่ง ว่านั่นแหล่ะ ถ้าเจ้าถิ่นรถอะไรมันไปได้หมด จะว่าพวกไทรอัลยี่ห้อดังๆส่วนใหญ่ก็เครื่องสองจังหวะนะแปลกไหม แล้วที่ด่านซ้าย ช่วงรอยตะเข็บขึ้นไปอำเภอภูเรือ ชาวบ้านใช้แต่สองจังหวะขึ้นเขาที่ชันมากๆ และเป้นทางลูกรังป่าโดยเอาขาช่วยพายเขาบอกว่าเวฟไปไม่ไหว งงกับเขามั้ย รถที่เห้นมีแต่เมทบ้างเบลบ้าง อากิร่า อยู่ข้างล่างมองขึ้นไปมันชันอย่างกับ 45 องศาอย่างนั้นเลย
ปัญหาใหญ่ของเรา แต่ปัญหาเล็กของเค้า เบรคที ฮามีใส้แตก
งงว่ารถเบลล์กับอากิร่า ลากรอบสูง ขึ้นเขา ใส้ไม่แตกบ้างเหรอ หรือเพราะเสื้อสูบระบายความร้อนด้วยอากาศ
รถพวก อากิร่า เบลล์ โนวา คลิสตัล เอาง่ายๆรถแม่บ้านและกระเทย 2t ทั้งหลาย พวกนี้แรงม้าแรงบิดมันมาที่รอบต่ำกว่า สปอร์ต 150 อีกนะครับ
ออกตัวแบบปกตินี่บิดพุ่งๆเลยล่ะ ส่วนที่ท่านบอกมาว่า "ลากรอบสูง ขึ้นเขา ใส้ไม่แตกบ้างเหรอ หรือเพราะเสื้อสูบระบายความร้อนด้วยอากาศ"
ในความคิดของผมนะ คือรถพวกนี้เป็นเครื่องที่รอบไม่จัดจ้านมากรอบแรงมาแรงบิดมาไว 8000-9000 รอบนี่ก็เลยรอบแรงม้าสูงสุดแล้ว
พอรอบไม่จัดนี่ความร้อนสะสมก็จะน้อย แล้ววัสดุที่ใช้ทำชิ้นส่วนต่างๆของเครื่องยนต์ผมว่าบริษัทผู้ผลิตรถในประเทศไทย
มันคงจะไม่แบ่งเกรดว่าจะใช้กับรุ่นไหนหรอกครับ ยี่ห้อเดียวกันแทบทุกรุ่นคงใช้วัสดุชนิดเดียวกันหมด ผลออกมารถที่มีกำลังน้อยๆทนทานมากกว่า
ยกตัวอย่างเอาง่ายๆที่ผมเห็นมา อย่างตระกูล VR TZR TZM มันก็ 150 เหมือนกันแต่มันมีกำลังที่ต่างกัน เจ้า TZR TZM เค้นหนักๆอัดแช่ยาวๆ ไส้แตกเอาง่ายๆ
แต่ VR นี่สิ เห็นเค้นแล้วเค้นอีกแช่ยาวๆ ไส้ไม่ค่อยจะแตกเหมือน R/M แฮะ
อย่าเชื่อผมมาก ผมตอบตามที่คิดและที่เห็นมาครับ
อ้างจาก: The Mach Team เมื่อ พฤศจิกายน 05, 2013, 10:44:22 ก่อนเที่ยง
ไปเกาะช้างมาขึ้นเขาทีนึงขอบอกเหนื่อยสุดๆ :)
ฮ่าาา ที่นี่ละครับ ผมขี่ทุกวันกะเอ็นตากลม
ไม่มีปัญหาไรเลย จะเวฟเด็กแว้นเขมรตัวไหนก้อไม่ได้กินผมหรอก 5555
สมัยเรียนปวส.ขี่yamaha mate100เน่าๆ ไต่เนินขึ้นเขาชันๆแบบสบายๆเลยครับ
ถูกแล้วครับ ทางชันมากๆเป็นลูกรังรถไม่มีแรงส่งอาศัียแรงเครื่องเองล้วนๆ ไปค่อยๆไต่ไปดุกดิกๆ เครื่องมันเร่งไม่ได้เลยคือเร่งไปมันก็ไม่มีแรงรอบมันปั้นไม่ได้อาศัยรอบสูงกว่ารอบเดินเบานิดเดียว ซึ่งพวกเวฟดรีมเครื่องจะดับเมื่อใช้จังหวะแบบนี้ (เหมือนมันจุดระเบิดไม่ทัน ในขณะที่ล้อก็มีภาระกรรมอยู่) แต่สองจังหวะมันจุดระเบิดถี่กว่าก็เลยขึ้นๆไปเนิบๆได้
มีอีกเรื่องแปลกมาก การขึ้นเขาลงเขาปกติเรามักจะได้รับการสอนว่าอย่าดับเครื่องให้ใช้เกียร์ช่วยเบรคไช่ไหมครับ ซึ่งมันก็ถูกส่วนหนึ่งในเขาที่ไหลลื่นมีแรงส่ง แต่ชาวบ้านแถวนั้นเขาบอกว่าทางเส้นนี้เวลาลงเขาต้องดับเครื่องแล้วค่อยๆเบรค ปล่อยเบรคไปเรื่อยๆ ผมก็คิดดูถูกชาวบ้านในใจว่ามันเป็นไปได้อย่างไร พวกนี้ไม่รู้เรื่องมันผิดหลักเขาต้องใช้แรงเครื่องชาวยเบรคซิ ขืนดับเครื่องก็อันตรายตาย ่า พอผมขึ้นไปได้เที่ยวจนได้เวลาแล้วขากลับ ผมใช้เกียร์ 1 แล้วใช้แรงเครื่องปล่อยไหลลง พร้อมเบรคหน้าหลังช่วย ปรากฏว่าควบคุมรถไม่ได้ครับ พอเบรคมากๆ เครื่องมันจะกระตุกแล้วดับ คว้าครัชไม่ทันแต่ถ้ากำครัชทันรถมันจะไหลพุ่งไปอีก อันตรายมาก รถควำ่ไม่เป็นท่าเหลือเชื่อจริงๆ คือว่าความเร็วแม้จะเกียร์ 1 แต่มันก็ยังเร็วเกินไปสำหรับทางชันแบบนี้รถมันไหลเกินกว่าจะควบคุมได้ สุดท้ายต้องใช้วิธีที่ชาวบ้านใช้คือต้องดับเครื่องแล้วใช้เบรคควบคุมอย่างเดียวปล่อยเบรคๆ อย่างระมัดระวังเป็นที่สุด ใช้เท่าทั้งสองช่วยประคองตลอดแล้วก็ลงมาจนได้แฮะ เขาชันๆ ทางลูกรังป่า ต้องลืมทฤษฎีให้หมดครับ ไม่งั้นอาจมีขนหัวลุกได้
กลัวที่ใหนครับเขา ผมปีนเป็นประจำ โค้งก็ชอบ กลัวแต่ไม่มีเงินเติมน้ำมัน อย่างเดียว อิอิ หากชอบแนวขึ้นเขาเราก็เตรียมรถในแนวนี้มาพิชิตมัน ครับ
อ้างจาก: ip-man เมื่อ พฤศจิกายน 06, 2013, 09:59:02 ก่อนเที่ยง
ถูกแล้วครับ ทางชันมากๆเป็นลูกรังรถไม่มีแรงส่งอาศัียแรงเครื่องเองล้วนๆ ไปค่อยๆไต่ไปดุกดิกๆ เครื่องมันเร่งไม่ได้เลยคือเร่งไปมันก็ไม่มีแรงรอบมันปั้นไม่ได้อาศัยรอบสูงกว่ารอบเดินเบานิดเดียว ซึ่งพวกเวฟดรีมเครื่องจะดับเมื่อใช้จังหวะแบบนี้ (เหมือนมันจุดระเบิดไม่ทัน ในขณะที่ล้อก็มีภาระกรรมอยู่) แต่สองจังหวะมันจุดระเบิดถี่กว่าก็เลยขึ้นๆไปเนิบๆได้
มีอีกเรื่องแปลกมาก การขึ้นเขาลงเขาปกติเรามักจะได้รับการสอนว่าอย่าดับเครื่องให้ใช้เกียร์ช่วยเบรคไช่ไหมครับ ซึ่งมันก็ถูกส่วนหนึ่งในเขาที่ไหลลื่นมีแรงส่ง แต่ชาวบ้านแถวนั้นเขาบอกว่าทางเส้นนี้เวลาลงเขาต้องดับเครื่องแล้วค่อยๆเบรค ปล่อยเบรคไปเรื่อยๆ ผมก็คิดดูถูกชาวบ้านในใจว่ามันเป็นไปได้อย่างไร พวกนี้ไม่รู้เรื่องมันผิดหลักเขาต้องใช้แรงเครื่องชาวยเบรคซิ ขืนดับเครื่องก็อันตรายตาย ่า พอผมขึ้นไปได้เที่ยวจนได้เวลาแล้วขากลับ ผมใช้เกียร์ 1 แล้วใช้แรงเครื่องปล่อยไหลลง พร้อมเบรคหน้าหลังช่วย ปรากฏว่าควบคุมรถไม่ได้ครับ พอเบรคมากๆ เครื่องมันจะกระตุกแล้วดับ คว้าครัชไม่ทันแต่ถ้ากำครัชทันรถมันจะไหลพุ่งไปอีก อันตรายมาก รถควำ่ไม่เป็นท่าเหลือเชื่อจริงๆ คือว่าความเร็วแม้จะเกียร์ 1 แต่มันก็ยังเร็วเกินไปสำหรับทางชันแบบนี้รถมันไหลเกินกว่าจะควบคุมได้ สุดท้ายต้องใช้วิธีที่ชาวบ้านใช้คือต้องดับเครื่องแล้วใช้เบรคควบคุมอย่างเดียวปล่อยเบรคๆ อย่างระมัดระวังเป็นที่สุด ใช้เท่าทั้งสองช่วยประคองตลอดแล้วก็ลงมาจนได้แฮะ เขาชันๆ ทางลูกรังป่า ต้องลืมทฤษฎีให้หมดครับ ไม่งั้นอาจมีขนหัวลุกได้
ตามนั้นครับ ทางลงอะน่ากลัวก่าขาขึ้นเยอะๆๆ
ยิ่งลงมากๆ ผมคาไว้เกียร์สอง กำคลัตช์ แล้วเบรกอย่างเดียว
อย่าแม้แต่จะคิดว่าใช้เกียร์รอบเครื่องอย่าแม้แต่จะคิดว่าใช้เกียร์รอบเครื่องช่วย มันจะเป็นอย่างที่ท่านว่ามาครับ
สิ่งที่ต้องชัวร์ๆๆๆพัน%คือระบบเบรกมากกว่า
ส่วนผม
ผมติดพัดลมหม้อน้ำไว้1 ตัว (dash) คงจะช่วยได้นิดเดียว แต่ไม่เคยลองขึ้นเขาแบบจริงๆจังๆ เลยประมวลผลไม่ได้ (เอา dream ขึ้น)
+ตัวผมเบาด้วย ชิวๆเลยทีนี้ dash ก็ขึ้นดีไม่แพ้กัน(ถ้ามีแรงส่ง) แต่มัน ขึ้น-ลงเกียรบ่อยๆ
ถ้าเป็นตระกลู rc 100 110 อกิร่า ขึ้นเขา สี่จังหวะไม่เกิน 125 หนาวเลยครับ แรงบิดมาตั้งแต่รอบตำแป๊ดๆเลย
อู๊ย อย่าว่า อย่างนู้นอย่างนี้เลยครับ แค่ทางเข้าบ้านเพื่อนผม เทพื้นสูง ซ้อน 2 N pro สเตอร์เดิมยังต้องเร่งส่งมาก่อน บางครั้งขึ้นไม่ได้ ต้องลงไปคนนึง
ส่วน N RR อีกคันผมใส่สเตอร์ 15-38 เอาไปลองขึ้นดู ไม่รอดครับ เลยใส่เป็น 15-42 คราวนี้พอขึ้นไหว
:( เดี๋ยวไปหาเขาขึ้นก่อน
อ้างจาก: fluke32 เมื่อ พฤศจิกายน 02, 2013, 12:15:39 ก่อนเที่ยง
อ้างจาก: KenJi เมื่อ พฤศจิกายน 01, 2013, 11:29:39 หลังเที่ยง
4 จังหวะ แรงบิด แรงม้า มันเรียกออกมาในรอบต่ำได้เยอะกว่า 2 จังหวะ มันจึงขึ้นสะพานชันๆ เนินชัน หรือเขา ได้ดีกว่า
2 จังหวะ แรงบิด แรงม้า ส่วนใหญ่มันอยู่ในรอบสูงเวลาขึ้นสะพานชันๆ เนินชัน หรือเขา มันจึงต้องบิดรอบให้สูงหน่อยเพื่อเรียกแรงมันออกมา เวลารอบมันสูงแรงมันออกมามันถึงจะขึ้นได้สบายๆ ถ้ารอบมันต่ำมันจะไม่มีแรง
แต่ถ้าคุณพูดถึง Initial D นี่ผมมีครบเลยนะ 4 ภาค แต่ภาค 5 รอมันออกซับไทยอยู่อิอิ...
Initial D หลายๆภาค พอมีเว็ปดูหรือโหลดไหมคับผมหาอยู่ไม่เจอสักที
ดูออนไลท์ก็มีนะครับ แต่หาส่วนใหญ่จะเป็นซับไทย
ผมโหลดเก็บครบ 5 ภาคแล้ว แต่โหลดเสร็จแล้วเว็บที่โหลดมันดันโดนบล็อกไปซะแล้วอ่าครับ
เรื่องแรงบิดนี่ต้องยอมเขาครับ กำลังอัดมันมีมากกว่าเราเท่านึง เราแค่ 6.8:1
ของเขา 12.x:1 เลยครับ ขึ้นเขาผิวปากฮัมเพลงกันชิลๆ ส่วนเราน่ะเหรอเบ่งขี้เบ่งตดช่วยยังขึ้นลำบากเลย 555
อ้างจาก: KenJi เมื่อ สิงหาคม 04, 2014, 04:52:58 หลังเที่ยง
อ้างจาก: fluke32 เมื่อ พฤศจิกายน 02, 2013, 12:15:39 ก่อนเที่ยง
อ้างจาก: KenJi เมื่อ พฤศจิกายน 01, 2013, 11:29:39 หลังเที่ยง
4 จังหวะ แรงบิด แรงม้า มันเรียกออกมาในรอบต่ำได้เยอะกว่า 2 จังหวะ มันจึงขึ้นสะพานชันๆ เนินชัน หรือเขา ได้ดีกว่า
2 จังหวะ แรงบิด แรงม้า ส่วนใหญ่มันอยู่ในรอบสูงเวลาขึ้นสะพานชันๆ เนินชัน หรือเขา มันจึงต้องบิดรอบให้สูงหน่อยเพื่อเรียกแรงมันออกมา เวลารอบมันสูงแรงมันออกมามันถึงจะขึ้นได้สบายๆ ถ้ารอบมันต่ำมันจะไม่มีแรง
แต่ถ้าคุณพูดถึง Initial D นี่ผมมีครบเลยนะ 4 ภาค แต่ภาค 5 รอมันออกซับไทยอยู่อิอิ...
Initial D หลายๆภาค พอมีเว็ปดูหรือโหลดไหมคับผมหาอยู่ไม่เจอสักที
ดูออนไลท์ก็มีนะครับ แต่หาส่วนใหญ่จะเป็นซับไทย
ผมโหลดเก็บครบ 5 ภาคแล้ว แต่โหลดเสร็จแล้วเว็บที่โหลดมันดันโดนบล็อกไปซะแล้วอ่าครับ
อะ อะ อะไร นะ
อินี่เสียว ดี เหรอ
คิกๆ เมือก่อน เคยดูออนไลน์ทางอยู่ตูบ โรสเขาเข้ามาลบเกลี้ยงเบย
ซิก ซิก ซิก
อ้างจาก: เด็กชาย_โหน่ง_ เมื่อ สิงหาคม 05, 2014, 09:48:40 ก่อนเที่ยง
อ้างจาก: KenJi เมื่อ สิงหาคม 04, 2014, 04:52:58 หลังเที่ยง
อ้างจาก: fluke32 เมื่อ พฤศจิกายน 02, 2013, 12:15:39 ก่อนเที่ยง
อ้างจาก: KenJi เมื่อ พฤศจิกายน 01, 2013, 11:29:39 หลังเที่ยง
4 จังหวะ แรงบิด แรงม้า มันเรียกออกมาในรอบต่ำได้เยอะกว่า 2 จังหวะ มันจึงขึ้นสะพานชันๆ เนินชัน หรือเขา ได้ดีกว่า
2 จังหวะ แรงบิด แรงม้า ส่วนใหญ่มันอยู่ในรอบสูงเวลาขึ้นสะพานชันๆ เนินชัน หรือเขา มันจึงต้องบิดรอบให้สูงหน่อยเพื่อเรียกแรงมันออกมา เวลารอบมันสูงแรงมันออกมามันถึงจะขึ้นได้สบายๆ ถ้ารอบมันต่ำมันจะไม่มีแรง
แต่ถ้าคุณพูดถึง Initial D นี่ผมมีครบเลยนะ 4 ภาค แต่ภาค 5 รอมันออกซับไทยอยู่อิอิ...
Initial D หลายๆภาค พอมีเว็ปดูหรือโหลดไหมคับผมหาอยู่ไม่เจอสักที
ดูออนไลท์ก็มีนะครับ แต่หาส่วนใหญ่จะเป็นซับไทย
ผมโหลดเก็บครบ 5 ภาคแล้ว แต่โหลดเสร็จแล้วเว็บที่โหลดมันดันโดนบล็อกไปซะแล้วอ่าครับ
อะ อะ อะไร นะ
อินี่เสียว ดี เหรอ
คิกๆ เมือก่อน เคยดูออนไลน์ทางอยู่ตูบ โรสเขาเข้ามาลบเกลี้ยงเบย
ซิก ซิก ซิก
ตอนนี้ภาค 1 - 4 หาโหลดยากครับเพราะการ์ตูนมันเก่ามาแล้ว แต่ภ่ค 5 เพิ่งออกมาได้ไม่นาน ยังมีให้โหลดเยอะอยู่....
ถ้าจะเอารถไปซิ่งขึ้นเขาเล่นบ้าง ไม่ทราบเส้นทางไหน ไกล้กทม.ที่สุดครับ เอาแบบไป-กลับในวันเดียวเลยนะ(ถ้าไม่อัดจนรถพัง อิอิ) เวลาหยุดงานไม่ค่อยมี อยากลองออกทริปไปไกล้ๆดูก่อนน่ะครับ ท่านใดพอรู้ ขอคำชี้แนะหน่อยครับ ขอบคุณครับ
ปล.อยากได้ initial-D ภาค 3-4-5 อิอิ
อ้างจาก: pikky_team เมื่อ สิงหาคม 06, 2014, 11:54:03 หลังเที่ยง
ถ้าจะเอารถไปซิ่งขึ้นเขาเล่นบ้าง ไม่ทราบเส้นทางไหน ไกล้กทม.ที่สุดครับ เอาแบบไป-กลับในวันเดียวเลยนะ(ถ้าไม่อัดจนรถพัง อิอิ) เวลาหยุดงานไม่ค่อยมี อยากลองออกทริปไปไกล้ๆดูก่อนน่ะครับ ท่านใดพอรู้ ขอคำชี้แนะหน่อยครับ ขอบคุณครับ
ปล.อยากได้ initial-D ภาค 3-4-5 อิอิ
เขาใหญ่ครับ เขาด้วยโค้งด้วย
..มาเก็บความรู้ บ้านผมไม่ค่อยมีภูให้ขึ้น.. ;D ;D
ยืมของพี่เค้ามาให้ดูครับ ดูๆเหมือนเค้าจะขึ้นสบายๆเลยนะครับ55
http://youtu.be/QAiA5AJjeXw (http://youtu.be/QAiA5AJjeXw)