Main Menu

อากาศร้อนกับน้ำมัน

เริ่มโดย RCS_MAN.PEA, มีนาคม 18, 2013, 12:34:25 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 2 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

RCS_MAN.PEA


ข้อมูล  Ser_SS กล่องใหญ่ + น้ำมันแก็ซโซฮอล์ 91 + คาร์บูเดิมติดรถ

ตอนเช้า ใช้โช็คตอนสตาร์ทนิดหน่อย การใช้งานปกติ วิ่งดี อัตราเร่ง ความเร็วปกติ

ตอนบ่าย เลิกงาน 16.30 น. จอดในร่ม แต่ว่าช่วงนี้อากาศช่วงกลางวัน+บ่าย ร้อนจริงๆ

         เลิกงานกลับบ้านสังเกต พบว่า ผิดปกติ เครื่องดังเหมือนเสียงเขกนิดๆ  เร่งแล้วอืดกว่าเดิมแบบรู็สึกได้ ความเร็วปลายลดลง
         
          มี 2 ครั้ง วอดดับกลางอากาศไปเลย  เลยมารบกวนเพื่อนๆสมาชิกว่า อากาศร้อนส่งผลต่อน้ำมันในรถ

          แล้วทำให้เกิดอาการดังที่กล่าวมาใช้มั๊ยคับ หรือว่าเป็นที่ส่วนอื่น สังเกตมาอย่างครั้งแล้วครับ

         เพิ่งมาเป็นช่วงอากาศร้อนๆนี่แหละคับ ผมควรจะแก้ไขยังงัยดีครับ

         ขอบคุณทุกคำตอบและข้อเสนอแนะครับผม

vios3455

ของผม ss กล่องไหญ่ เหมือนกัน ตอนเช้ารอบมาดีมาก ลื่นๆๆ  ตอนเย็นกลับจากทำงาน ไม่ค่อยปรี้ดปราด
เหมือนตอนเช้า ผมคิดว่า ออกซิเจนตอนเช้ามันคงบริสุท เลยทำไห้อากาศที่ผสมกับน้ำมัน มันดีกว่า
คิดไปเองนะ เมื่อก่อนคิดมากแต่ตอนนี้ไม่คิดแระ


นาย ณรงค์ สำเส็น 
382 ม1. ต.อ่าวนาง อ.เมือง กระบี่ 81000

RCS_MAN.PEA


ASENAL

น้ำมันหนาไปนิด

พอร้อน ๆ อากาศลอยตัว เบาบาง

มันเลยไม่สมดุล

แนะนำ E20 นมหนูเดิม อากาศ ประมาณ 1 รอบ + นิดหน่อย

รับประกัน เร่งมันกว่า ถูกว่า ในเมือง ได้ 27-30 กม./ลิตร ตลอดที่ใช้มา


KenJi

#4
แก๊สฯ 91 รอบต้นจนถึงกลาง ปกติครับ แต่ปลายอาจจะออกตื้อนิดๆ หรือไม่ก็มาก

แก๊สฯ 95 รอบบิดมาปกติเหมือนเติมเบนซิน 91 95 รอบปลายไหลกว่าเบนซิน 91 95 นิดหน่อย


แก๊สฯ 91 95 ถ้าจะให้ดีปิดสกรูอากาศเข้าประมาณสักครึ่งรอบไว้หน่อยก็ดีครับกันน้ำมันบาง (แต่ส่วนใหญ่ไม่ต้องทำอะไรเพราะสักส่วนเอทานอลแค่ 10% เพี้ยนไม่มาก แต่รถผมเติมแล้วมันบางเลยต้องปิดสกรูลงมาครึ่งรอบ)

ส่วน E20 แนะนำเลยครับ จี้ดกว่าเบนซิน 91 95 และแก๊สฯ 91 95 แน่นอนแถมราคาถูกกว่าด้วย วิธีจูนลองไปอ่านในบอร์ด Gassohol Club เลย
http://www.2strokeclub.com/smf/index.php?board=53.0

ตอนที่ผมเติม E20 ผมดูดน้ำมันเก่าในถังออกมาให้หมดก่อนแล้วจึงค่อยใส่ E20 ลงไปเพราะว่าถ้ามันไปปนกับน้ำมันตัวอื่นมันจะจับอากาศในการจูนยางนิดหนึ่ง รถผมเติม E20 ใช้นมหนูเดิม ปิดสกรูอากาศสุดแล้วคลายออกมา 1 รอบ หรือ 1 1/2 รอบ (แล้วแต่รถนะครับเพราะว่าแต่ละคันมันจูนไม่เหมือนกันแต่แนวทางในการจูนจะคล้ายๆกัน) วิ่งปกติแถมดีกว่าเดิมด้วยรอบมาเร็วทั้งต้นและปลายส่วนน้ำมันบางหรือหนานั้นผมดูสีหัวเทียนเอา

สีหัวเทียนลองเข้าไปดูในกระทู้นี้เลยครับ
http://www.2strokeclub.com/smf/index.php?topic=550.0


ส่วน E85 นั้นไม่เคยลองครับเพราะจูนนั้นยุ่งยากกว่า E20 มากแถมหาเติมยากด้วย (แต่บางจากแถวบ้านผมมีนะ)

จากที่เขียนมานี้ก็จากประสบการณ์ที่ผมประสบมาโดยตรงทั้งสิ้นครับ ถ้าผิดตรงไหนก็ขออภัยด้วยนะครับผม...




nuttakit

#5
    ไม่รู่ว่าจะเกี่ยวกับการยืด หด ตัวของน้ำมันหรือป่าว เพราะถ้าอากาศเย็นน้ำมันจะมีการหดตัว เเละถ้าอากาศร้อนน้ำมันจะยืดตัวฟูขึ้น
           ปล.ข้อมูลนี้คือการยืด หดตัวของน้ำมันตามอุณหภูมิ อุณหภูมิไม่นิ่ง ค่า api ก็จะเปลี่ยนไปด้วยครับ ไม่รู้จะเกี่ยวกับ จขกท หรือป่าว
                            เเค่เอาข้อมูลมาเเชร์กันครับ  ???

ser ตัวเเรก กะ ตัวสุดท้าย

งูเห่าโหด.

อาการเดียวกันเลยครับ  ตอนเครื่องเย็น ตอนเช้า วิ่งนิ่งมาก

พอเครื่องร้อนตอนบ่ายๆวิ่งไม่ออก  วิ่งสะดุด   สำลัก ผมก็นึกว่าเป็นที่คาร์บู

สกปรก เลยล้างไปทีนึง  ดีขึ้นมาหน่อย  สงสัยช่างเขาคงปรับรอบให้ใหม่

เติมเบนซิน95 ตลอด  เพราะจอดมากกว่าขับ

ผมมี4จังหวะอีกคัน ไม่เห็นมันอาการใดๆเลยครับ ไม่ว่าจะร้อน จะเย็น

มันวิ่งฉิวๆ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย  หรือว่ามันเป็นเฉพาะ2จังหวะครับ

{{ boyy555 }}

เข้ามา งง ด้วยคน  :( :( 

ของผม  ตอนนี้ปกติแล้วครับ หลังจากใส้แตก  เพราะเส้นผมบังภูเขาแท้ๆ  รถอะไรวิ่งอยู่ที่ 100 แล้วเร่งไม่ออก  แต่หลังจากใส้แตก ทีนี้วิ่งปร๋อเลย  :( :(
ตำนานหนึ่งอวสาน...อีกตำนาน..ก็เริ่มขึ้น


087-7642131 บอย

KenJi

FSX ผมตอนนี้เติม E20 มาได้ 2 เดือนแล้ว ถ้าเครื่องเย็นล่ะก็รอบนี่วิ่งไม่ค่อยจะนิ่งเลย แต่ถ้าเครื่องอุ่นๆ ร้อนๆ หน่อยวิ่งฉิวเลยสบายๆ

:'(




nuttakit

อ้างจาก: KenJi เมื่อ มีนาคม 20, 2013, 09:07:55 หลังเที่ยง
FSX ผมตอนนี้เติม E20 มาได้ 2 เดือนแล้ว ถ้าเครื่องเย็นล่ะก็รอบนี่วิ่งไม่ค่อยจะนิ่งเลย แต่ถ้าเครื่องอุ่นๆ ร้อนๆ หน่อยวิ่งฉิวเลยสบายๆ

:'(
ใช้e20   ตอนเช้าสตาท   เเล้วออกตัวมีวอดนิดๆ เเต่อุณหภูมิอุ่นหน่อย ก็ปกติครับ :'( :'( :'(

ser ตัวเเรก กะ ตัวสุดท้าย

ASENAL

ทิ้งคำถามไว้นิดนึงเกี่ยวกับเรื่องนี้แหละ

ว่าืำทำไม เทอโบ ถึงต้องมี อินเตอร์คูลเลอร์ ?

PRATEEP

อ้างจาก: ASENAL เมื่อ มีนาคม 22, 2013, 05:13:09 หลังเที่ยง
ทิ้งคำถามไว้นิดนึงเกี่ยวกับเรื่องนี้แหละ

ว่าืำทำไม เทอโบ ถึงต้องมี อินเตอร์คูลเลอร์ ?
พอรู้นิดหน่อยนะครับ อินเตอร์คูลเลอร์มีหน้าที่ระบายความร้อนของอากาศเพื่อให้มีโมเลกุลอากาศที่มากขึ้นทำให้เกิดการเผาไหม้ที่สมบูรณ์มากขึ้นในห้องเผาไหม้ ถ้าไม่มีการระบายความร้อนของอากาศจะทำให้มวลหรือโมเลกุลอากาศเข้าไปในห้องไอดีน้อยเกิดการเผาไหม้ปกติ แต่จะเห็นผลได้ชัดเจนกับรถที่แต่งมาครับ ถูกไม่ถูกขออภัยด้วยครับอิอิ...

Hunterzero

พึ่งมาได้อ่าน  มิได้ขัดข้างบนแต่จากอาการน้ำมัน บางครับ พออากาศร้อนทำให้ ส่วนผสมเพี้ยนลงหนัก  ทางแก้จูนใหม่ไม่ก็เติมแกส95
เพราะตามที่อ่านด้านบน มีการชี้แจงคุณสมบัติของน้ำมันไว้แล้ว ถ้าจะเติมE20ก็ต้องจูนเพิ่มไปอีก สรุปคือลองจูนคาบูก่อนครับ

ฅนดี ไร้ที่ฝัง ก็มีคนสรรเสริญ
Heart Under Blade

@@TaJung@@

รถใส่ท่อสูตร  ยังไงก็ต้องจูนให้เข้ารถด้วย....
จรุง นามสถิตพงษ์
309/1 หมู่ 8 ถ.เหล่านาดี ต.เมืองเก่า
อ.เมือง จ.ขอนแก่น 40000

บัญชี ธ.กสิกรไทย 491-2-20805-8

รถเก่าๆ...คนขี่แก่ๆ...

ASENAL

อ้างจาก: Hunterzero เมื่อ มีนาคม 22, 2013, 05:40:15 หลังเที่ยง
พึ่งมาได้อ่าน  มิได้ขัดข้างบนแต่จากอาการน้ำมัน บางครับ พออากาศร้อนทำให้ ส่วนผสมเพี้ยนลงหนัก  ทางแก้จูนใหม่ไม่ก็เติมแกส95
เพราะตามที่อ่านด้านบน มีการชี้แจงคุณสมบัติของน้ำมันไว้แล้ว ถ้าจะเติมE20ก็ต้องจูนเพิ่มไปอีก สรุปคือลองจูนคาบูก่อนครับ

ลองดูตามเซียนมัดก็ได้

เรามันสิงห์รถเดิม ไม่ค่อยสนใจแต่งรถเท่าไร

หริอไม่ก็ลองจูน อากาศดูก่อนก็ได้

KenJi

จูนคาร์บูดูก่อนครับแล้วถอดหัวเทียนออกมาดูว่าเป็นสีอะไร จะได้รู้ว่าส่วนผสมบางไปหรือหนาไปไหม

สีหัวเทียนลองเข้าไปดูในกระทู้นี้เลยครับผม...
http://www.2strokeclub.com/smf/index.php?topic=550.0




ratree


สิบปากว่าหรือจะเท่าตาเห็น สองตาเห็นมิอาจเท่ามือคลำ..น่า..จ๊ะ

Fastfirefly

ตรงนี้น่าะจะเป็นความต่างของหัวฉีดกับคาร์บูเรเตอร์น่ะครับ ตามบทความนี้นะครับ
"เพื่อนๆ เคยสงสัยกันบ้างไหมว่าทำไมรถที่ใช้งานการจ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีดอิเล็คทรอนิคส์ถึงได้แรงกว่ารถที่อาศัยคาร์บูเรเตอร์เป็นตัวจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง ? ถ้าเป็นการพุดคุยกันในวงกาแฟหรือการประชุมวินมอเตอร์ไซค์เกือบร้อยทั้งร้อยก็จะบอกว่ารถที่ใช้ระบบหัวฉีดอิเล็คทรอนิคส์จะแรงกว่า..

ทั้งๆ ที่หน้าที่หลักของหัวฉีดอิเล็คทรอนิคส์ก็คือ การฉีดเชื้อเพลิงเข้าห้องเผาไหม้ ถามว่ามันต่างกันอย่างไรจากคาร์บูเรเตอร์ตรงไหน ในส่วนของหน้าที่ ตอบได้เต็มๆ เลยว่า ไม่ต่างกัน เพียงแต่ว่าสัดส่วนของไอดีระหว่างน้ำมันเชื้อเพลิงกับอากาศระบบหัวฉีดอิเล็คทรอนิคส์นั้นจะมีความแม่นยำว่าที่สูงกว่าในทุกสภาพอากาศ ไม่ว่าร้อนระอุหรือเย็นยะเยือก ความชื้นในอากาศจะมากหรือน้อยขนาดไหน? หัวฉีดอิเล็คทรอนิคส์จะมีภาษีที่สูงกว่า

ส่วนคาร์บูเรเตอร์จะไม่มีเสถียรของส่วนผสมที่ตายตัว ถ้าอากาศร้อนมากๆ อาจจะเกิดอาการที่เรียกว่า ส่วนผสมบาง โอกาสการเสียหายจะเพิ่มขึ้นสูงและถ้าอากาศเย็นมากๆ ก็จะสวนทางกันคือ ส่วนผสมหนาเกินไปรถจะเหม็นกลิ่นน้ำมันฟุ้งออกมาเลย แต่ถ้าอยู่ในสภาวะที่มีความชื้นในอากาศที่สูงสัดส่วนสัดส่วนของการผสมก็จะเปลี่ยนไปแล้วแต่สภาพความชื้นในอากาศ ถามถึงสมรรถนะความแรง ? ที่เรามักจะพุดว่ารถหัวฉีดแรงกว่า...!!

บอกไว้ ณ ตรงนี้ว่า ไม่ถูกหากจะวัดกันที่สมรรถนะความเร็วระหว่างหัวฉีดอิเล็คทรอนิคส์ กับ คาร์บูเรเตอร์ จะต้องวัดกันที่สภาพเครื่องยนต์เท่ากันและไม่มีรายละเอียดข้อไหนที่ต่างกันเลย นอกจากระบบการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง จาก 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ไม่มีทางที่ระบบหัวฉีดจะทำได้เหนือกว่าคาร์บูเรเตอร์ และไม่มีทางคาร์บูเรเตอร์จะประหยัดมากว่าหัวฉีดถ้าจะวัดกันที่ค่าการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง เรียกว่ามีดีถูกใจผู้บริโภคกันไปคนระอย่าง

แต่สมัยนี้การพัฒนาเครื่องยนต์ให้เร็วและแรงเหมือนเหมือนเมื่อครั้งอดีตดุจะเป็นหนทางที่ไม่สวยงามสักเท่าไหร่สำหรับหลายๆคน เพราะน้ำมันเบนซินค่าอ๊อคเทน 91หนึ่งลิตรจะมีค่าใช้จ่ายที่เกินกว่า 40 บาท เข้าไปแล้ว กังวลอะไรเรื่องความแรงกังวลเรื่องไม่มีตังเติมน้ำมันดีกว่าครับ..."
ที่มา http://www.motorcycleclubthailand.com/index.php?topic=471.0
ปล. แวะมาเก็บข้อมูลครับ เพราะปกติขับแต่มอเตอร์ไซด์หัวฉีด ถ้าเครื่องแรงน้อยลง เร่งไม่ขึ้น แล้วหาสาเหตุไม่เจอ ก็จะเป็นปัญหาพวกหัวฉีดตันจากน้ำมันที่เติมที่อาจมีฝุ่นละอองปนเข้ามา สะดวกหน่อย ก้อไปล้างหัวฉีดกับช่างแถวบ้านครับ ร้านที่ผมเคยไป ใช้น้ำยาล้างหัวฉีดของ 3M ก้อโอเคเลยนะครับ เรื่องอัตรเร่งดีขึ้นทีเดียว แต่ของยี่ห้ออื่น ยังไม่เคยลอง ไว้รอบหน้าจะลองดู

smile2uza002

ผมก็เคยเปนนะ ตอนเช้า แดชรอบจัดมากคับ สับลอยๆ พอบ่ายๆ รอบไม่ค่อยขึ้นเลย

ASENAL

ตอนบ่าย อากาศมันหนาแน่นน้อยลง ( เบาบาง )

อย่างที่ผมเคยบอกว่่าทำมไม เทอโบร์ ส่วนใหญ่ต้องมี Inter Cooller

เพราะจะทำให้ อากาศมีความหนาแน่น ( เย็นลงด้วย ) ทำให้มีการ เผาใหม้ที่ สมบูรณ์กว่า

เหมือนหน้าหนาวอากาศหนาแน่น ปิดห้อง คุมโปง อยู่ได้

แต่หน้าร้อน ลองทำซิ แล้ว จะรู้ .....