โซนจังหวัดตรัง ..(สาระ+มิตรภาพ) 2T 2Wheel Trang Club

[jacky]

ีup....
.............................
26 November 2011 จัดมีตตึ้ง ควบไปงานศพ(วัดนาท่าม) * ;D *เสียอัน ซานโต้(ส)รำรวยเหลือเกิน....เเต่งจังรถ  ::)*สาวกตีนบวมลองเข้าไปเเล ns1http://2strokeclub.com/smf/index.php?topic=51080.0 *หลวงชาฝากรถ(ยนต์)....ใ้ว้กับวัด(วา) *บ่าวเปิล ใด้ของเล่น(เเต่ง)....ยินดีด้วยครับพี่น้อง
.*ใครใส่ท่อ(เลส) ใบละ75555...ยกมือขึ้น* >:(

รวมเเสดงครั้งนี้โดย บ่าวจุก/ pinyo/ หลวงกิติ/ อันซานโต(ส)/ment2007/tuk/post เเมน/เปิล(เด็กวัง)/boyy+น้องเมีย/ดอน(king)/jacky(chang)
9ล9
:o
คลิกเข้าไปดู (ล้อ)
http://2strokeclub.com/smf/index.php?topic=51080.0

[pinyo]

jacky(chang)แถลงข่าว : ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

กระทู้ครบ 1,000 จัดหนัก 1ลัง

(คอยติดตามความเคลื่อนไหว 1,000 กระทู้จัดหนัก 1ลัง เร็วๆ นี้)

[jacky]

jacky(chang)แถลงข่าว : ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

กระทู้ครบ 1,000 จัดหนัก 1ลัง

(คอยติดตามความเคลื่อนไหว 1,000 กระทู้จัดหนัก 1ลัง เร็วๆ นี้)

เหล้า - beer = D ลูกพี่ >:(

[jacky]

ฝนตกๆ  นอนดีกว่า555

project.......(ใหม่)เสร็จกี่เปอร์เซ็นต์เเล้วเฮีย
......................................................ฝนตกนอนตีขิมเลยนะ  ???555

ขาดแต่ถังลมครับราคาเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน  ต้องใช้อย่างน้อย 3 แรง ท่านนพเห็นของมือสองบ้างไหมหากเจอบอกกัน

หนักคับโก้ตู่...อิอิ
เสียดายท่านบอกช้าไป....ทีมงานเซ้งร้านปะยาง ขายแยกไปก่อนหน้านี้ สักเดือนกว่า
...........
เดี่ยวถามเพื่อน ร้านคาร์แคร์ที่พัทลุงให้ คับ มีข่าวคืบคลานแจ้งให้คับ
..................
เหรอว่าเอาของผมไปใช้ก่อนพรางๆคับ..อิอิ มี2เครื่อง 64ลิตรแต่มันไม่ค่อยดวก รื้อฝาตั่งอยู่ มันปั๊ม ทั่ง 2สูบ แต่แรงอัด ออกฝาเดียว(สรุปเป็นที่ฝา โดนสีน้ำมันตราเป็ดอุด เล่นเปิดกลองอากาศทิ้ง) เลยเอาโรตารีมาไว้ เบานิด แต่ดังโครต
เดี๋ยว มีข่าวจะแจ้งไปคับ 

ท่านเเม่น.....เรื่องถังลมผมไปบอกโกตู่ให้เเล้ว
................................................... ???

[jacky]

เข้ามาดัน.... ;D


ser....อารม์ R1

*เครดิต boy555

[jacky]

ล้อหลัง ns1
................................ทำสเปเซอร์ใส่จานเดิม



*เครดิต PETERR

[ช้างน้อย 115 ซี.ซี.]

น้ำท่วมของดีๆไหลมาตรังหมดแล้ว 555

[jacky]

รถในตำนานอย่าง TZR150cc  
...............................................ทำไมไม่นิยม?
โซนตรัง serpico ไหลมาเพียบ

 -ทำไมไม่มีคนเล่น TZR จอมทัพ2จังหวะ   ทั้งๆที่มันเป็นถึงรถในตำนาน   ( ทำไมยุดนี้เขาไม่นิยมเก็บหา )
 -TZR 150  หายไปไหนหมด แต่งสวยๆ ไม่มีเหลือเลย





TZR หัวโต ตัวลีบ  ไหลปลายทะลุ 200+ เสียงหวานสะท้านใจ

สิงห์ทางตรงในอดีตโดยแท้ :o

*ขออนุญาติเจ้าของรูปครับ
*เครดิต pantip

[wit66]

รถในตำนานอย่าง TZR150cc   
...............................................ทำไมไม่นิยม?
โซนตรัง serpico ไหลมาเพียบ

  -ทำไมไม่มีคนเล่น TZR จอมทัพ2จังหวะ   ทั้งๆที่มันเป็นถึงรถในตำนาน   ( ทำไมยุดนี้เขาไม่นิยมเก็บหา )
  -TZR 150  หายไปไหนหมด แต่งสวยๆ ไม่มีเหลือเลย





TZR หัวโต ตัวลีบ  ไหลปลายทะลุ 200+ เสียงหวานสะท้านใจ

สิงห์ทางตรงในอดีตโดยแท้ :o

*ขออนุญาติเจ้าของรูปครับ
*เครดิต pantip

นี่แหละตัวแรงวาลว์เปิดเป็นโดน เสียงไม่ต้องพูดถึง ติดแต่รูปโฉม

[jacky]

ของ Yamaha เรียก YPVS (Yamaha Power Valve System)

[jacky]

ของ honda เรียก RC-Value
ของ Kawa เรียก KIPS KIPS = Kawasaki integrated power valve system
ของ Suzuki เรียก AETC=Automatic Exhaust Timing Control
...
วาลืวไอเสียของทุกค่าย  ทำงานคล้ายๆกัน  คือปรับมุมองศาของพอร์ทไอเสียให้ได้ตามรอบ  เพื่อที่จะได้ให้กำลังสูงสุด  แต่การออกแบบ ก็ต่างกันไป  ชื่อต่างกัน  แต่วัตถุประสงค์เหมือนกัน

ฮอนด้า  RC VALVE   รูปทรงเหมือนสามเหลี่ยมปิดเปิดโดยใช้ด้านแบนในการควบคุมองศาของพอร์ทไอเสีย    รูปทรงของรุ่นเก่า กับรุ่นใหม่จะคล้ายๆกันแบบดั่งรูปที่แสดง  ข้อเสียก็คือ อาจต้องตั้งวาล์วบ่อย  เนื่องจากสายดึงวาล์วหย่อน  จะทำให้วาล์วทำงานไม่สมบูรณ์  



ยามาฮ่า   YPVS   ชื่อเต็ม   YAMAHA  POWER VALVE  SYSTEM   รูปทรงวาล์ว คล้ายๆ ทรงกระบอกฝานครึ่ง ทำงานด้วยการดึงของเซอร์โวจนมุมที่ฝานไปเปิดพอร์ทไอเสีย ให้ได้องศาสูงขึ้น    


ซูซุกิ   ก็ AETC    ของซูซุกิ เคยเห็นแต่จำไม่ค่อยได้   ก็เหมือนด้านบนที่ตอบไปแล้ว เป้น 2 ชิ้น  ทำงาน สองจังหว่ะ   รอบต่ำเปิดนิดนึง  พอรอบสูง ก็เปิดต่ออีกจนสุด    วาล์วของซูซุกิ  จะใช้รอบค่อนข้างสูง  ถ้าจำไม่ผิด  วาล์วจะเปิดสุดที่รอบ 9500  รอบเลยทีเดียว  
ข้อเสีย  เห็นว่าตัววาล์วเสียง่าย  เคยมีกะทู้ที่มีคนเอารูปวาล์วของแกมม่ามาให้ดุนี่หล่ะ  ว่ามันมักมีปัญหาบ่อยๆ


คาวาซากิ   แน่นอน  ระบบ KIPS  ในรุ่นแรก   SUPERKIPS ในรุ่น 2    ส่วน   HIKIPS  ของรุ่น 3  แ SUPERKIPS   กับ HIKIPS  ไม่ต่างกันนะ   เหมือนแค่เปลี่ยนชื่อเฉยๆ   แถมตรงฝาปิดวาล์ว  ก็ยังเป็นคำว่า  SUPERKIPS  มาตลอด  ไม่เห็นเปลี่ยนชื่อ เป้น HIKIPS  

ข้อดีของวาลฺว คาวาซากิ  คือใช้กลไก  ไม่ใช้ไฟฟ้า ก็เลยเสียยาก  การทำงานของวาล์ว คือเหมือนเป้นการเปิดพอร์ทไอเสียเสริม ที่ถูกยกสุงมาแล้ว 2 พอร์ท แต่ไอเสียหลัก ยังเท่าเดิม  ไม่เหมือนระบบวาล์วของ สามค่ายข้างบน ที่จะเน้นการเปิด พอร์ทไอเสียหลักมากกว่า




*วาล์วทนสุดก็คง คาวาซากิ   ส่วนวาล์วที่เปราะสุดน่าจะเป็น (suzuki)   แล้วเหตุอันใด suzuki rg gramma ถึงไม่ค่อยมีคนใช้ อะไหล่ทำไมถึงหายากมาก ไม่เหมือน คาวาซากิกับ ฮอนด้าซึ่งอะไหล่เยอะ

อ้างจาก pianorider!!!!:/เด็กชาย_โหน่ง_/krr150:


 :-*
 

[jacky]

AETC    ของซูซุกิ



เครดิตเจ้าของภาพ

[jacky]

ของขลังสาย....ซู
.....................ชุด vale



*เครดิตเจ้าของภาพ

[jacky]

การบำรุงรักษาเช็คระบบ RC VALE HONDA

****รถสปอร์ตตระกูล NSR 150 ของฮอนด้า ตั้งแต่รุ่นแรกที่วางจำหน่ายในเดือน กุมภาพันธ์ 1989เรื่อยมา จนกระทั่ง เป็น NSR 150 RR ซึ่งออกมาจำหน่ายครั้งแรกในเดือน  เมษายน  1993 
จนกระทั่งปัจจุบัน  สำหรับหน้าที่ของระบบ  RC  valve  เราจะไม่ขอพูด  แต่เราจะเริ่มที่ส่วนประกอบทั้งหมด  ของระบบ  ซึ่งก้อจะมีชุดควบคุม  เซอร์โวมอเตอร์  สายควบคุม  และวาล์วไอเสียกันเลย

     ในระหว่างที่เครื่องยนต์ทำงานนั้น  สัญญาณความเร็วรอบจะถูกส่งไปให้กับกล่อง  ซีดีไอ  และอีกส่วนหนึ่งจะถูกส่งมายัง  ชุดควบคุม  RC valve  เพื่อควบคุมการปิด-เปิด  ของวาล์วไอเสีย  ตามความเร็วรอบอย่างเหมาะสมโดยชุดควบคุมนี้จะจ่ายกระแสไฟให้กับ  เซอร์โวมอเตอร์  ตามที่ได้ออกแบบ  คือทันทีที่เปิดสวิทซ์กุญแจชุดควบคุมจะสั่งให้เซอร์โวมอเตอร์  หมุนวาล์วไปลงตำแหน่งต่ำสุด  ไม่ว่าก่อนหน้านั้นวาล์วจะอยู่ไนตำแหน่งใด(ถ้าอยู่ต่ำสุดอยู่แล้ว ก็จะสังเกตเห็นว่า  วาล์วจะกระดิกนิดนึง)  เมื่อทำการสตาร์ทเครื่องยนต์  จะเกิดกระแสไฟฟ้าจากขดลวดพัลเซอร์คอยล์  ตัดกับล้อแม่เหล็กจานไฟ  ส่งไปยังกล่องซีดีไอส่วนหนึ่ง  เพื่อทำการจุดระเบิดอีกส่วนหนึ่ง   จะสั่งให้ชุดควบคุมเปิดวาล์วให้สุด  เพื่อทำความสะอาดตัวเอง  ซึ่งหมายถึงวาล์วจะขยับ  เพื่อให้คราบเขม่าที่ติดอยู่หลุดออก  เนื่อจากในสภาพจราจรติดขัดบางครั้งผู้ขับขี่  ไม่สามารถใช้รอบเครื่องที่สูงจนวาล์วทำงาน  อันจะทำให้มีคราบเขม่าสะสมอยู่ที่ตัววาล์ว  นอกจากการขยับตัวของวาล์วแล้ว     วิศวกรของฮอนด้า  ยังได้ออกแบบให้มีรูเล็กๆที่วาล์ว  เพื่อให้ไอดีส่วนหนึ่งพุ่งผ่านรูนี้  ไปเจอกับคลื่นสะท้อนกลับจากท่อไอเสียก็จะตีกลับมายังด้านหลังวาล์ว  ไอน้ำมันเชื้อเพลิง  และน้ำมันออโต้ลู้ป  จะทำหน้าให้ด้านหลังวาล์วเปียกชื้น  เขม่าเกาะยาก หรือถ้ามี ก็จะหลุดออกได้ง่ายอีกด้วย

    วาล์วยังคงเปิดอยู่ในตำแหน่งกว้างสุด  ตั้งแต่เมื่อเครื่องยนต์ติดไปจนถึง 2,000 รอบต่อนาที  ซึ่งทันทีที่เกินชุดควบคุมจะสั่งให้เซอร์โวมอเตอร์ค่อยๆ เปิดวาล์วไอเสียสูงขึ้นเรื่อยๆ  ตามความเร็วรอบที่เพิ่มขึ้น จนกระทั่ง8,800 รอบต่อนาที  วาล์วไอเสียจะอยู่ในตำแหน่งเปิดสูงสุด  และค้างอยู่อย่างนั้น  จนกว่ารอบเครื่องจะต่ำลงมาในจังหวะที่เปิดค้างอยู่นี้  เพื่อป้องกันเซอร์โวมอเตอร์ไหม้  เนื่องจากต้องออกแรงดึงอยู่ตลอด  แต่ว่าวาล์วมันเปิดไปมากกว่านั้นไม่ได้แล้ว (เหมือนเบรคกับเร่งพร้อมๆกัน) จึงได้ออกแบบให้ชุดควบคุมตัดต่อไฟที่ส่งไปยังเซอร์โวมอเตอร์ทุกๆ 0.3 วินาที

     ส่วนในตัว  SP  นั้นการทำงานของวาล์วจะเปลี่ยนแปลงไปหมด  เนื่องมาจากพื้นฐานระบบไฟของ  NSR150SPได้มีการปรับปรุงครั้งใหญ่ทั้งระบบ  โดยการเปลี่ยนมาใช้สัญญาณดิจิตอล  เป็นข้อมูลสำหรับควบคุมระบบจุดระเบิดและระบบวาล์วไอเสียแทนสัญญาณอนาล็อก  ทำให้สามารถออกแบบสมองกลที่ ทำงานซับซ้อนขึ้น  เพื่อสามารถควบคุมระบบต่างๆได้อย่างแม่นยำ  เหมาะสม  และมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม  เป็นต้น ว่าระบบจุดระเบิดที่เคยเปลี่ยนแปลงจังหวะจุดระเบิดได้เพียง 5 จุด ในรุ่น RR  ก็จะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ถึง 12 จุด  เช่นเดียวกับระบบRC valve  ที่แต่เดิมสามารถควบคุมการทำงานให้สัมพันธ์กับรอบเครื่องได้เพียง 6 จุด  ก็สามารถกระจายระบบควบคุมให้ละเอียดมากขึ้นถึง 12 จุด  อีกทั้งยังมีการเปลี่ยนแปลงเซอร์โวมอเตอร์  ให้สามารถทำงานตามคำสั่งได้ฉับไวตามสัญญาณซึ่งจะเปลี่ยนแปลงบ่อยขึ้นด้วย  เครื่องยนต์จะตอบสนองได้ราบเรียบ นิ่มนวลขึ้นกว่าเดิมนอกจากนี้กล่องควบคุมยังเปลี่ยนใหม่ทั้ง เร็คกูเรเตอร์ และเร็คติไฟเออร์กับกล่องควบคุมซึ่งจะอยู่ใต้เบาะคนซ้อนในตำแหน่งที่โขมยยากกว่าเดิม

      การทำงานของ  RC valve  จะแตกต่างจากเดิม เริ่มตั้งแต่ต้นจนจบคือ  ในขณะที่เปิดสวิทซ์กุญแจชุดควบคุมจะสั่งให้เซอร์โวมอเตอร์หมุนวาล์ว ลงมาอยู่ในตำแหน่งต่ำสุด (ตรงนี้ยังเหมือนกับแบบเดิมอยู่)  แต่ทันทีที่มีการสตาร์ทเครื่องยนต์จะเกิดแรงหมุนประมาณ  500  รอบต่อนาที  และสัญญาณจากพัลเซอร์คอยล์ส่งไปยังชุดควบคุม  ในจังหวะนี้ชุดควบคุมจะสั่งให้เซอร์โวมอเตอร์หมุนวาล์วไอเสียมาอยู่ในตำแหน่งกึ่งกลาง  จากเดิมที่วาล์วจะเปิดขึ้นสูงสุด  ประโยชน์ก็คือ  มีส่วนเพิ่มกำลังอัดให้กับเครื่องยนต์  สามารถสตาร์ทติดได้ง่ายกว่า

       จากนั้นเมื่อเครื่องยนต์เริ่มเข้าสู่รอบเดินเบา (ตามสเป็คประมาณ  1,300 รอบต่อนาที)  วาล์วไอเสียก็จะเปิดขึ้นไปตำแหน่งสูงสุด  และเปิดสุดอยู่อย่างนั้น  จนรอบเครื่องยนต์เพิ่มสูงขึ้นเกินกว่า  2,150 รอบต่อนาที
(บอกแล้วว่ามันละเอียดขนาดมีเศษ 50 แน่ะ)  ชุดควบคุมจะสั่งให้วาล์วหมุนกลับลงมาอยู่ในตำแหน่งต่ำสุดอีกครั้งจนกระทั่งรอบเครื่องยนต์สูงขึ้นกว่า 5,500  รอบต่อนาที  วาล์วจึงเริ่มเปิดขึ้นทีละนิดเป็นช่วงๆ  และจะไปเปิดสุดที่9,500 รอบต่อนาที  ซึ่งรอบเครื่องที่วาล์วเริ่มเปิดเป็นช่วงๆ ตั้งแต่ 5,500รอบต่อนาทีไปจนถึง 9,500รอบต่อนาทีนั้นไม่ได้รับการเปิดเผย  เขาบอกแต่ว่าเป็นช่วงจังหวะที่เหมาะสมกับตำแหน่งพอร์ท และท่อไอเสียเป็นอย่างดี

      อย่างไรก็ตามแม้ว่า  RC valve จะได้รับการพัฒนาใหม่ โดยเฉพาะในด้านอายุการใช้งาน  และความสะดวกในการบำรุงรักษา  ทางวิศวกรผู้ออกแบบได้เคลมไว้ว่าระบบสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องดูแลนับเป็นระยะทางในหลักหมื่นกิโลเมตร  แต่นั่นเป็การทดสอบที่ญี่ปุ่น  ซึ่งอย่าลืมว่าคุณภาพน้ำมันออโต้ลู้ปของเขา  พฤติกรรมการใช้รถของเขา  ก็แตกต่างจากบ้านเราคนละเรื่อง แต่มันก็เป็นธรรมดา  เมื่เอาอะไรมาขวางไอเสีย  มันก็ต้องเกิดเขม่าจึงควรดูแล บำรุงรักษา  อย่างถูกต้อง  ตามระยะเวลา  ซึ่งก็จะพอดีกับที่เครื่องยนต์สองจังหวะตามปกติแล้ว  ต้องมีการทำความสะอาดเขม่าในฝาสูบ  เสื้อสูบ  และลูกสูบเป็นประจำโดย  ทางโรงงานมักจะกำหนดเอาไว้ที่ระยะ4,000  กม.ควรถือฤกษ์งามยามดีรีบถอด RC valve มาทำความสะอาดด้วยเสียเลย  ขั้นตอนการปฏิบัติส่วนใหญ่มันก็คล้ายๆกับแบบเก่าในรุ่น RR นั่นแหละ  จะมีบ้างในรายละเอียดที่ต่างกัน  เพราะชิ้นส่วนมันไม่เหมือนกันนั่นเอง

    เริ่มแรกก็เป็นธรรมดาของเครื่องยนต์ระบายความร้อนด้วยน้ำ ที่ต้องถ่ายน้ำออกจากระบบก่อน  ถึงจะเปิดฝาสูบออกมาได้  จากนั้นก็จัดการถอดหัวเทียน  และฝาสูบออกแล้วจึงหันมารื้อชุดวาล์วไอเสีย

         -ถอดสายบังคับพูลเล่ย์ออกทั้งสองเส้น
         -ถอดพูลเล่ย์ออก  โดยน็อตล็อคจะเป็นน็อตเบอร์ 10 "แกลียวซ้าย"  นั่นคือต้องขันออกในทิศทางตามเข็มนาฬิกา
         -ถอดซีลกันฝุ่นออก  และควรเปลี่ยนใหม่ทุกครั้งที่ถอด เพราะจะทำให้มีคราบน้ำมันรั่วออกมาจากแกน RC valve  ตามมาด้วยคลิปล็อคแกน

         -แยกชิ้นส่วนออกจากกัน  ค่อยๆจับวาล์วออกทางกระบอกสูบ (ต้องถีบคันสตาร์ทให้ลูกสูบอยู่ที่ศูนญ์ตายล่างเพื่อความสะดวกในการทำงาน)  พร้อมกับดึงแกนวาล์วออกมา โดยระวังบู๊ชรองระหว่างแกนกับเสื้อสูบหล่นหาย

                   เมื่อถอดชุดวาล์วออกมาแล้ว ก็จัดการถอดเสื้อสูบออกมา  เพื่อทำความสะอาด  ซึ่งต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก  เพราะเสื้อสูบของ SP เป็นเสื้อสูบอลูมิเนียม  ไม่มีปลอก  ถ้าไม่ระวังอาจทำให้สาร NS (นิกเกิ้ลซิลิคอน  คาร์ไบด์)  กระเทาะ  ซึ่งจะทำให้เครื่องยนต์เสียหาย  หรือประสิทธภาพต่ำลงได้  เมือ่ทำความสะอาดทุกชิ้นส่วนเรียบร้อยแล้ว  ก็มาถึงขั้นตอนประกอบเข้าที่เดิม  ใครที่ถอดลูกสูบออกมาแล้วหวังว่าขูดเขม่าออกจะเห็นมาร์ค บนหัวลูกสูบ แต่ปรากฎว่าไม่มี  อีตอนใส่เลยใส่ไม่ถูก  ไม่ต้องตกใจไป เพราะรถรุ่นนี้ไม่ได้พิมพ์นูนบนหัวลูกสูบว่าให้เอาด้านไหนเข้า ด้านไหนออก  แต่จะเป็นหมึกปั๊มเอาไว้ธรรมดา  พอใช้ไปนานๆ มันจะเลือนหายไป  วิธีสังเกตก็คือ  ให้หันด้าน  "ปากแหวน" เข้าหาพอร์ทไอดี  เพราะถ้าด้านนี้ไปอยู่กับพอร์ทไอเสีย  ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่ามันจะไปขัดกับปากพอร์ท ทำให้ความร้อนสูง  และแหวนหักได้

         -เมื่อใส่เสื้อสูบลงไปแล้วประกอบชุดวาล์วเข้าไป  ใส่คลิปล็อคเข้ากับแกน  จากนั้นก็ใส่วาล์วเข้าทางกระบอกสูบ  ซึ่งในรุ่น  SP  แกนจะเป็นเหลี่ยม  และรูเสียบที่วาล์วจะเป็นเหลี่ยมด้วย (อย่าลืมใส่บู๊ชรองแกนวาล์วกับเสื้อสูบเข้าไปด้วยล่ะ)

        -ลองขยับกระดกวาล์วดูก่อนก็ได้  เพื่อป้องกันการใส่ผิด   วาล์วจะต้องเปิดได้สุดโดยไม่โผล่ลงมา  ถ้าโผล่แสดงว่าใสวาล์วกลับด้าน
   
        -ใส่ซีลกันฝุ่นของใหม่เข้าไป  ลองขยับดูอีกครั้งว่ามีการติดขัดหรือไม่

          -ปิดฝาสูบ  โดยประเก็นฝาสูบต้องเปลี่ยนใหม่และใส่ให้ถูกด้าน  โดยเอาด้านที่เขียนว่า  "EXUP" อยู่ด้านบนและหันไปทางพอร์ทไอเสีย  ปะเก็นจะลงไปอย่างง่ายดาย  ถ้าใส่ผิด ประเก็นจะลงยาก  และท่อทางเดินน้ำจะไม่ตรงทำให้มีปัญหาเรื่องความร้อน

           -ใส่พูลเล่ย์ที่แกนวาล์วเข้าไป  อย่าลืมว่าต้องขันไปทางซ้าย (ทวนเข็มนาฬิกา)

          ขั้นสุดท้ายก็คือ  การใส่สายบังคับและปรับตั้ง  ซึ่งยังคงเหมือนเดิม คือปรับมาร์คที่พูลเล่ย์ของเซอร์โวมอเตอร์  ให้อยู่ในตำแหน่ง  "HI" ล็อคสกรูวเอาไว้ใส่สายบังคับหมุนพูลเล่ย์ที่แกนวาล์วและปรับตั้งให้ตรงมาร์ค "HI"ที่เสื้อสูบ  ติดเครื่องที่รอบเดินเบาประมาณ  2-3 นาที  แล้วดับเครื่อง  ให้สังเกตว่าตำแหน่งพูลเล่ย์จะต้องอยู่ตรงกับมาร์ค "HI"  ลองหลายๆครั้งจะต้องอยู่ในตำแหน่งเดิม



              ดังนั้นถ้าสังเกตว่ารถมีอาการผิดปกติ  วิ่งไม่ออก  วิ่งสะดุดที่รอบสูง  ไม่มีแรงออกตัว  ให้ลองสัเกตการทำงานของ  RC valve  ดูว่ายังขยันขันแข็งดีอยู่หรือเปล่า  โดยลองดูที่พูลเล่ย์ว่าขยับตามไดอะแกรมการทำงานหรือเปล่า  คือ  เมื่อเราเปิดสวิทซ์กุญแจ  พูลเล่ย์จะหมุนจนมาร์คอยู่ที่ตำแหน่ง  "L"  จากนั้นลองติดเครื่องยนต์ดูว่าพูลเล่ย์ขยับมาอยู่ในตำปหน่งกึ่งกลางระหว่าง  "L"  กับ  "H" หรือไม่  ถ้าปกติ  ก้อลองเร่งเครื่องดูว่าหลังจากประมาณ 2,000 รอบต่อนาทีแล้วมาร์คจะต้องหมุนกลับลงมาอยู่ที่ตำแหน่ง  "L"  จากนั้นลองเร่งต่อไปจนถึง5,500  รอบต่อนาที  จะงเกตเห็นว่าพูลเล่ย์จะค่อยๆขยับเปิดวาล์วให้สูงขึ้นเรื่อยๆตามรอบเครื่อง  ถ้าไม่ได้ตามนี้แสดงว่าระบบอาจกำลังมีปัญหา  ให้รีบตรวจเช็คทันที

                สมมติว่าขี่ๆไปแล้วเกิดมีปัญหาขึ้นมาระหว่างทาง  ข้อแนะนำแรกก็คือ   ให้ถอดสายไฟ จากชุดควบคุมมาเซอร์โวมอเตอร์ออกเสียก่อน  จากนั้ก็หมุนพูลเล่ย์ให้วาล์วลงมาอยู่ในตำแหน่งต่ำสุด "L"   ซึ่งตำแหน่งนี้เครื่องยนต์จะทำงาน "เกือบ" เป็นปกติไปจนถึงประมาณ 5,500 รอบต่อนาทีก้จะเริ่มสะดุด  เพราะวาล์วไม่เปิด  แต่ที่ความเร็วรอบระดับนี้ที่เกียร์ 6 รถก็สามารถทำความเร็วได้ถึงประมาณ  100 กม./ชม.  สามารถกลับมา "ตายรัง"ได้อย่างสบาย  บางคนอาจจะถามว่าทำไม่ไม่ตั้งวาล์วให้เปิดสุดในตำแหน่ง "H"  จะได้เร็วกว่านี้  มันก็จริงอยู่ว่าถ้าทำอย่างนั้นความเร็วปลายจะเพิ่มขึ้น  แต่ตีนต้นมันจะไม่มีกำลังจนแทบออกตัวไม่ได้เลย  แค่ร้อยเดียวก็พอแล้วแหละสำหรับรถที่เกิดปัญหา  เตรีมกลับมาเลียแผลที่บ้าน

                     จำเลยที่สองคือ เซอร์โวมอเตอร์  โดยลองปลดสายบังคับวาล์วออกจากพูลเล่ย์ที่ตัวเซอร์โว  แล้วต่อสายควบคุมจากกล่องที่เราปลดออกในตอนแรก  เพื่อลองสังเกตการทำงานของเซอร์โว "เพียวๆ" โดยเปิดสวิทซ์แล้วลองติดเครื่องยนต์ดู  มาร์คที่พูลเล่ย์จะต้องตรงกับไดอะแกรมการทำงาน  ถ้าเซอร์โวมอเตอร์ไม่ทำงาน แสดงว่ามีปัญหาซ๊ะแล้ว  ลองตรวจเช็คค่าความต้านทาน  โดยใช้มัลติมิเตอร์วัดที่ชุดสายไฟของเซอร์โวมอเตอร์ที่มาจากกล่องควบคุม  ซึ่งมีทั้งหมด 6 เส้นดู  แต่ก่อนจะวัดให้ถอดขั้วต่อด้านกล่องควบคุมออกด้วย  เพื่อป้องกันความเสียหาย

                     ตั้งมาตรวัด  "X 1 K" ที่มิเตอร์  แล้ววัดความต้านทานระหว่างสายสี  แดง/ขาว  กับ  เขียว/ฟ้าค่ามาตรฐานจะอยู่ประมาณ 8-15 โอห์ม (เปลี่ยนแปลงตามการหมุนของมอเตอร์)  จากนั้นกลับไปที่มาตร  "X 1 K" อีกครั้ง  ดยวัดระหว่างสายสี  แดง/ขาว  กับสี  เขียวอ่อน  โดยค่ามาตรฐานจะอยู่ที่  0-6 กิโลโอห์ม  คู่สุดท้าย  ที่มาตรวัดเดิม  ระหว่างสายสี  เขียว/ฟ้า  กับสี  เขียวอ่อน  โดยค่ามาตรฐานอยู่ที่ 0-6  กิโลโอห์มเช่นกัน

                         ถ้าไม่ได้ค่าตามนี้  แสดงว่ามอเตอร์เสีย  ต้องเปลี่ยนใหม่  แต่ถ้าค่าที่ได้ตรงตามมาตรฐานแต่ยังไงเซอร์โวก็ไม่หมุน  อาจจะเป็นไปได้ว่าตัวมอเตอร์ยังดีอยู่  แต่เฟืองทดกำลังเสียหาย  ลองชำแหละเซอร์โว ออกดู  โดยระวังเฟือง และแกนหล่นหาย แล้วก็ควร  "พยายาม"  จำตำแหน่งเฟืองเอาไว้ด้วย (จำไม่ได้ก็ไม่เป็นไรเพราะมันจะประกอบไม่ได้ ถ้าใส่ผิด  แต่จะเสียเวลามั่วอยู่พักนึง)  โดยความเสียหายของเฟืองทดต่างก็คงไม่พ้น"เฟืองรูด"  เนื่องจากฟันเฟืองเป็นพลาสติก  ซึ่งต้องรับแรงขับจากมอเตอร์แบบเต็มๆ  ถ้าวาล์วติดขัดเพียงเล็กน้อยเฟืองมันก็มีโอกาส  "รูด" ได้ทันที  หรืออาจส่งผลต่อเนื่องไปถึงมอเตอร์ไหม้ด้วยอีกอย่าง  สำหรับชุดเฟืองนี้มีขายต่างหาก  ไม่ต้องเปลี่ยนเซอร์โวทั้งตัว

                      ในการประกอบเซอร์โวมอเตอร์  ต้องหล่อลื่นด้วยจารบี ชนิดพิเศษ  ทนความร้อน (โมลิบดินั่มได-ซัลไฟด์)  และระหว่างซีลโอริง ให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องด้วย  ถ้าวัดทุกอย่างได้ตามปกติ  ให้ลองวัดสายชุดควบคุมระหว่าง เซอร์โวมอเตอร์กล่องดูว่าขาดในหรือไม่  โดยใช้วิธีวัดความต้านทานหัวท้ายของสายสีเดียวกันเช่นวัดสายสีเขียวอ่อนด้านเซอร์โวมอเตอร์  กับสายสีเขียวอ่อนที่ด้านกล่องควบคุม  ถ้าวัดไม่ขึ้นเส้นใดเส้นหนึ่ง  ให้เปลี่ยนสายใหม่  หรือถ้างบน้อย จะใช้วิธี  "จั๊มพ์สาย"  เดินมาต่างหากก็ได้  โดยปลดสายที่วัดไม่ขึ้นออกจากขั้วต่อทั้งสองข้างแล้วเสียบสายใหม่เข้ากับขั้วต่อ  แต่ถ้าวัดแล้วทุกอย่างปกติ  แสดงว่ากล่องควบคุมมีปัญหาซะแล้ว  งานนี้มีสิทธิกระเป๋าฉีก   อย่างไรก็ตามโอกาสที่ปัญหาจะกระทบต่อเนื่องมาถึงกล่องควบคุมนั้นมีไม่ค่อยบ่อยนัก (ถ้าไม่เกิดจากระบบไฟขัดข้อง)  เพพราะว่าโดยมากจะ"จบ"  ลงแถวๆวาล์ว กับเซอร์โวมอเตอร์มากกว่า  อยากเล่นกับเทคโนโลยี ก็ต้องหัมาดูแลกันหน่อย จะได้ "มัน" ไปนานๆ

คัดลอกจาก RALLY 2000

[jacky]

KRR อยากใส่ อาร์ม Gamma
เผื่อ.......................................................เป็นเเนวทาง :(






การเเปลงอ้างจาก ben_ee48  KRR อยากใส่ อาร์ม Gamma

« ตอบ #5 เมื่อ: กันยายน 28, 2010, 08:50:10 PM »  

--------------------------------------------------------------------------------

การแปลงเริ่มแรกเราต้องแปลงที่ระยะแกนยึดสวิงอาร์มก่อนครับของแกรมม่า ขั้นแรกต้องตัดแต่งให้มันสามารถเข้าไปในระยะเดิม KR ก่อน เสร็จแล้วเราต้องทำบรูชลูกเบี้ยวเลื่อนระยะลูกปืนของแกนสวิงอาร์มให้ไปด้านหน้าอยู่ระยะเดียวกับของ KR  ต่อมาเรื่องจุดยึดโชค เราก็ทำการต่อขายึดกระเดื่อง(ต้องสร้างใหม่ครับ) ต้องวัดเช็คระยะซ้ายและขวาเพื่อเสริมบรูชให้ตรงกับส่วนที่ติดกับโครง  แต่ก่อนจะมาจุดนี้เราน่าจะหาล้อมาก่อนเพื่อกำหนดความสูง เรื่องดุมเอาของอะไรมาก็ได้ครับแปลงได้หมดสำหรับช่างไทย แต่แกนล้อหลังเราต้องสั่งทำใหม่แน่นอนเพราะค่อนข้างยาว  คือผมจะบอกว่าเราควรกำหนดขนาดล้อและยางก่อนครับจะได้กำหนดความสูงตอมต้องการ   แต่มันมีข้อเสียตรงที่ส่วนโค้งของสวิงอาร์มันจะชนกับหูยึดพักเท้าหลัง  (ของผมที่ไม่ชนเพราะว่าผมผ่าออกแล้วย่นลง และขัดเก็บรอยเลยดูว่าห่าง)  แต่ว่าหากจะไม่ให้ชนท่านต้องยกท้ายค่อนข้างสูงแน่นอน ยิ่งเวลาคนซ้อนมันจะรับแรงมากอาจจะบุบได้ คือของที่ผมได้มามันบุบผมเลยผ่าตัดเพราะไม่อยากสูงมาก   ส่วนเรื่องโช๊คนั้นของเดิมใช้ได้ครับเพราะเราต่อแค่หูยึดสวิงอาร์มเพิ่มความสูงโช็คอยู่ตำแหน่งเดิมครับ  ส่วนระบบเบรคก็อันที่ลงตัวกับดุมก็ได้ครับ  แต่เราต้องทำบรูชรองพักเท้าหน้าด้านเบรคครับมันติดเล็กน้อยและก็ทำการถ่างหูยึดท่อเพราะว่าตำแหน่งเดิมจะติดสวิงอาร์ม  แต่อย่างที่ท่านอื่นตอบครับมันค่อนข้างยาว น่าจะมากจากเดิมสองนิ้วได้ ส่วนน้ำหนักมากกว่าเดิมน่าจะสองโลนะถ้าผมจำไม่ผิด  แต่ผมว่าหากจะลงหลังแบบนี้ ด้านหน้าน่าจะหัวกลับนะครับมันจะดูสมส่วนดี  ลืมบอกครับเรื่องท้ายดูยาวแก้โดยหาบังโคลนที่ดูบางๆแบบ LS มาใส่ช่วบหลอกตาได้

เเปลงไส่ nsr  อ้างจาก NR2

ไม่รู้เคอาร์  แต่Nsr ทำง่ายมากตัดกระเดื่องออกเก็บแต่งบุชนิดนึง เพลาล้อของเดิมพอดีเป๊ะ เอาไปใช้ได้นะครับ

[jacky]

แลหลัง 95 ปีเมืองทับเที่ยง รำลึก 50 ปีหอนาฬิกา

"ย้อนรอยพระบรมสารีริกธาตุ ถึงแผ่นดินไทยบนแผ่นดินตรัง แลหลัง 95 ปีเมืองทับเที่ยง รำลึก 50 ปีหอนาฬิกา เพื่อเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา" ระหว่างวันที่ 3-5 ธันวาคม 2554 ณ บริเวณหน้าสำนักงานเทศบาลนครตรัง

[pinyo]

ทำไมตรังเงียบกันจัง :) ;) :D ;D >:( :( :o 8) ??? ::) :P :-[ :-X :-\ :-* :'( :)
ขอเสียงหน่อยคับ

[wit66]

เงียบกันจังสงสัยไปซุ่ม ทำรถ (แรง) กระพัง 10/11 เสาร์อาทิตย์นี้ รถแข่ง ตามนั้น

[ช้างน้อย 115 ซี.ซี.]

กระพังไปวันไหน แจ้งหมายกำหนดการด้วยครับ เวลา สถานที่นัดพบ

[wit66]

กระพังไปวันไหน แจ้งหมายกำหนดการด้วยครับ เวลา สถานที่นัดพบ

อันนี้ต้องถาม p นพ แต่ p นพ หาย!!!!!!!!