Main Menu

โซนจังหวัดตรัง ..(สาระ+มิตรภาพ) 2T 2Wheel Trang Club

เริ่มโดย ment2007, กุมภาพันธ์ 17, 2010, 03:34:46 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 3 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

jacky


joker

ติดแล้วคับ วัดโค้งแล้วคับ เครื่องแน่นคับ ยางต้องเปลี่ยน แรกคืนหล่นลงแล้วคับมืแผลนิดหน่อย
อ้างจาก: jacky เมื่อ สิงหาคม 04, 2013, 07:07:07 หลังเที่ยง
เครื่องติดเเล้วยัง.....ตาโจ็ก

joker


joker


ment2007

อ้างจาก: jacky เมื่อ สิงหาคม 04, 2013, 07:50:18 หลังเที่ยง
ฝากลูกพี่เเม้นน









ผมชอบนี่ 555



ไมไหวลูกพี่ ทำความเร็วไม่ได้
คันนี้แระ อีเขียว ทำมาหากิน บูส1.5 พอแระ

kairo198

http://www.2strokeclub.com/smf/index.php/topic,45127.new.html#new

พวกเราไม่เคยแตกแยกถึงแม็ว่าพวกเราแตกต่าง

เข้ามาพูดคุยกับเราบ้างนะครับ กลุ่มนี้รถเยอะแต่คนเล่นเว็ปไม่เยอะ

   
ชีวิตนี้ เกิดมาเพื่อ ผจญภัย ไปทุกที่ที่มีทาง นัด 086 - 2882309
ที่อยู่ส่งของ นัซรุดดีน ดอเลาะ ปณ ยะลา อ.เมือง จ.ยะลา 95000

  ธ กสิกรไทย2562896832 ส.ยะลา  ชื่อ นัซรุดดีน ด

joker

หวัดดีคับ เป็นงัยบ้าง ฝนตกมั๊ยคับ
อ้างจาก: kairo198 เมื่อ สิงหาคม 05, 2013, 04:23:00 ก่อนเที่ยง
http://www.2strokeclub.com/smf/index.php/topic,45127.new.html#new

พวกเราไม่เคยแตกแยกถึงแม็ว่าพวกเราแตกต่าง

เข้ามาพูดคุยกับเราบ้างนะครับ กลุ่มนี้รถเยอะแต่คนเล่นเว็ปไม่เยอะ


joker


joker


jacky

     สามีเธอเใช้ไม่ใด้เลย

พอรู้ว่าเธอท้อง

ก็ทิ้งเธอไป


                             ทำอย่างนี้

                        ลงคอใด้ไง

                       เป็นบ้ารึเปล่า



   เขาไม่ใด้

เป็นบ้าพรอก


                         เขาเป็นหมัน

jacky


joker


joker


joker

หัวใจมีปีก  บินได้แค่ความคิด
เครดิตเจ้าของรูป

joker


joker

หวัดดีคับพื่นพเห็นออนอยู่ อยู่หน้าไหนคับ ???

jacky


jacky

นินจา 300



Kawasaki ทำเซอร์ไพรซ์ เปิดตัวมอเตอร์ไซค์ Kawasaki Ninja 300 รุ่นใหม่อย่างไม่คาดคิดในไทย ด้วยโครงสร้างพื้นฐานเดียวกันกับ Kawasaki 250 แต่เพิ่มความแรงเป็น 296cc วันนี้ทาง mocyc lover เลยถือโอกาสหารีวิวมาให้อ่านกันนะครับ

Kawasaki Ninja 300 นั้นมีเป้าหมายเพื่อมาแทนที Ninja 250 และหากเทียบกับรุ่นก่อนหน้าในแง่ของข้อมูลทางเทคนิคแล้วถือได้ว่าเป็นรถใหม่ซิงๆ ออกมาในตลาดได้เลย

ในแง่ของการออกแบบ 2013 Kawasaki Ninja 300 Special Edition ABS แล้วนั้นถือว่าเป็นการก้าวกระโดดนำหน้าคู่แข่งในระดับเดียวกัน โดยสไตล์การออกแบบมีลักษณะเส้นสายล้ำยุค โดยมีคุณลักษณะโดดเด่นหลายอย่างที่รองรับความเป็นสปอร์ทของมอไซค์คันนี้

เครื่องยนต์ของ Ninja 300 ใหม่นี้เป็นเครื่องยนต์ใหญ่กว่าเดิมด้วยขนาด 296 ซีซี ระบายความร้อนด้วยของเหลว ระบบหัวฉีดแบบดิจิตัล Digital Fuel Injection (DFI) เครื่องยนต์ใหม่นี้ให้กำลังที่ 29 กิโลวัตต์ที่ 11,000 รอบต่อนาที และแรงบิด 27.0 Nm ที่ 10,000 รอบต่อนาที

ทาง Kawasaki แถลงว่าชิ้นส่วนของเครื่องยนต์เกือบ 50% นั้นได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติมจากเครื่องยนต์รุ่นเก่า ส่วนที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงมากที่สุดก็คงจะเป็นช่องอากาศเข้า วาล์วอากาศเข้าใหม่ขาด 23.6 มม และอัตราการอัดใหม่ที่ 10.6:1 รวมทั้งลูกสูปที่เบากว่าเดิม



เร็ว แรง ขับง่าย ด้วยสปอร์ทไบค์ที่เบาที่สุด

หลังจากนำตลาดมาหลายปี Ninja250R สปอร์ทไบค์ที่ทำยอดขายได้ดีที่สุด ก็เริ่มมีคู่แข่งเข้ามาเบียดแซะในตลาดมากขึ้น แต่ก็ยังไม่มีคู่แข่งเจ้าใดเข้ามาเทียบรัศมีได้ เพราะ Ninja250R ยังมีประสิทธิภาพสูงกว่าคู่แข่งในทุกๆด้าน แต่ Kawasaki ไม่ได้คิดแต่เพียงว่าจะเป็นรถที่ยังดีกว่าคู่แข่งแต่ขอเป็นเจ้าตลาดรถรุ่นนี้ไปเลยทีเดียว

Ninja 300 คันใหม่นอกจากจะนำตลาดในเรื่องของความเป็นรถมอไซค์แบบสปอร์ทในแง่ของประสิทธิภาพในการขับขี่แล้ว แต่อีกทางหนึ่งก็ยังเป็นผู้นำในแง่ของความปราณีต ขับง่ายและเป็นงานเป็นการ ก็ต้องยกนิ้วให้กับระบบหัวฉีดดิจิตัลแบบใหม่ ระบบคลัชแบบ F.C.C และระบบเบรก ABS ที่เล็กและเบาที่สุดในโลก ทำให้ Ninja 300 ใหม่นี้เป็นรถมอไซค์แบบสปอร์ทที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่มีอยู่ในปัจจุบันเมื่อนำมาขับขี่บนท้องถนนทั่วไปรวมทั้งการใช้งานโดยรวม

เครื่องยนต์ขนาดใหญ่กว่าเดิมที่ 296 ซีซี ระบายความร้อนด้วยของเหลวที่ถูกปรับแต่งให้ส่งกำลังความแรงอย่างลื่นไหลสำหรับการขับขี่ในเมืองและให้กำลังขับที่เยี่ยมยอดสำหรับการทำความเร็วบนทางหลวง เครื่องยนต์ที่ได้รับการพัฒนาใหม่นี้ให้ประสิทธิภาพได้มากกว่าเครื่องเก่าขนาด 250cc อย่างเห็นได้ชัด ด้วยระบบหัวฉีดอิเลคทรอนิคส์ใหม่ทำให้การสตาร์ทรถทำได้ง่ายแม้ในภาวะเครื่องเย็น การตอบสนองต่อคันเร่งเป็นไปอย่างมั่่นใจ พร้อมทั้งประหยัดน้ำมันกว่ารุ่นเก่า

เครื่องยนต์ใหม่นี้มีชิ้นส่วนที่ได้รับการอัพเกรดเพิ่มเติมเกือบ 50% เมื่อเทียบกับเครื่องรุ่นเก่า นอกจากขยายขนาดซีซีเป็น 296 แล้ว สิ่งที่ได้รับการปรับปรุงมาที่โดดเด่นได้แก่ ช่องอากาศเข้าที่ความเรียวตรงปลายเพิ่มขึ้น 1 มม และตรงบ่าวาล์วเพิ่มขึ้น 0.5 มม ช่องวาล์วขาเข้าที่ใหญ่กว่ารุ่นปีที่แล้ว 1 มม ระบบโซ่แคมที่ลดแรงเสียดทานให้น้อยลงกว่าเดิม อัตราการบีบอัดที่เปลี่ยนเป็น 10.6:1 ทำให้สามารถใช้น้ำมันธรรมดาได้และอุณหภูมการทำงานที่ต่ำลง รวมทั้งลูกสูบที่เบาลงนั้นยังเคลือบแข็งเพื่อลดแรงเสียดทานและประสิทธิภาพการทำงานในทุกความเร็วรอบ นอกจากนี้ด้านล่างของลูบสูปยังมีระบบหล่อเย็นด้วยน้ำมันที่ปรับปรุงใหม่เพื่อประสิทธิภาพที่ดีกว่าเดิม
นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงสลักลูกสูปเพื่อลดน้ำหนักย้อนกลับผลให้ทำความเร็วรอบที่สูงกว่าเดิม เสื้อสูบแบบหล่อไร้ปลอกสูบที่น้ำหนักเบากว่าเดิมพร้อมระบบลดแรงเสียดทานด้วยแผ่น "T-treatment" และยังมีโครงปรับสมดุลเพลาข้อเหวี่ยงเพื่อชดเชยกับข้อเหวี่ยงที่เหวี่ยงไปยาวกว่าเดิม กรอบข้อเหวี่ยงที่พัฒนาการส่งผ่านน้ำมันได้ดีขึ้น ถาดรองน้ำมันใหญ่ขนาด 2.4 ลิตรพร้อมระบบระบายความร้อน และที่อีกอย่างที่เปลี่ยนแปลงคือใส้กรองน้ำมันที่เข้าถึงได้ง่ายทำให้สะดวกในการบำรุงรักษา

ระบบเกียร์ 6 สปีดที่ได้รับการปรับปรุงใหม่เช่น เกียร์ที่หนากว่าเดิมเพื่อรองรับแรงบิดจากเครื่องยนต์ที่ใหญ่ขึ้น เกียร์ยังมีระบบการหาเกียร์ว่างแบบไปข้างหน้าของ Kawasaki ทำให้เข้าสู่เกียร์ว่างได้ง่ายเมื่อรถหยุดนิ่ง ด้วยเครื่องยนต์และระบบเกียร์ที่มีประสิทธิภาพสูงของมอเตอร์ไซค์คาวาซากิคันใหม่นี้ทำให้การขับขี่เป็นไปอย่างสนุกสำหรับทุกคนตั้งแต่คนที่เริ่มหัดขับ คนที่ชอบขับแนวสปอร์ท การออกทริป ไปจนถึงนักบิดในสนามแข่งเลยทีเดียว

การใช้งานระบบเกียร์ที่ว่านั้นง่ายดายกว่าแต่ก่อนมาก ด้วยคลัชระบบ F.C.C ทำให้ลดแรงกระแทกไปถึง 25% และเพิ่มความสามารถของคลัชในการรองรับแรงบิดที่เพิ่มขึ้นของเครื่องรุ่น 300 นี้ การออกแบบคลัชใหม่ยังลดแรงกระชากจากการที่ขับรถความเร็วสูงแล้วลดเกียร์ต่ำลง

นอกจากความแรงที่เพิ่มมากขึ้นแล้วการหยุดรถก็สามารถทำได้ดีขึ้นด้วยระบบป้องกันล้อล็อคด้านหน้าและด้านหลังที่เป็นระบบดิสค์เบรก จากการติดตั้งระบบ ABS ที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก รถรุ่นใหม่ของ Ninja นี้ทุกชิ้นส่วนนั้นมีคุณภาพสูงและถูกปรับแต่งจากคำแนะนำของนิดบิดมืออาชีพจากสนามแข่งที่ Atopolis เพื่อให้ได้รถที่มีประสิทธิภาพสูงและให้การขับขี่ที่เร้าใจแม้จะเป็นนักบิดที่ช่ำชองสนามแล้วก็ตาม

ด้วยความที่ Ninja 250 เป็นมอไซค์ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นมอเตอร์ไซค์สปอร์ทที่สุดยอดในท้องตลาด ทาง Kawasaki ต้องการรักษาชื่อเสียงนี้ไว้ในรุ่น Ninja 300 ด้วยการสร้างเฟรมที่ใช้ท่อเหล็กทดแรงดึงสูง ที่ให้ความแข็งแรงกว่าเดิมถึง 150% รูปร่างของท่อที่มีเป้ายังช่วยให้เพิ่มความแข็งแรงในแนวตรงเพื่อความรู้สึกที่ดีกว่าในการขับขี่แบบสปอร์ทอีกด้วย แต่ความแข็งแกร่งใช่ว่าจะดีไปทุกส่วน วิศวกรของ Kawasaki เลยออกแบบยางรองเครื่องด้านหน้าใหม่ทำให้มอไซค์คันนี้วิ่งได้นิ่มนวลแม้จะมีพละกำลังที่สูงขึ้นกว่าเดิม

ระบบกันสะเทือนหน้าและหลังนั้นได้รับการปรับแต่งให้สอดคล้องกับเฟรมอันแข็งแกร่ง ความนุ่มของสปริงช่วยให้การขับขี่ในเมืองเป็นไปอย่างนุ่มนวลแต่ก็ไม่ละทิ้งความเป็นมอไซค์แบบสปอร์ทไปเลยทีเดียว

สำหรับรูปร่างใหม่นั้นได้แนวคิดมาจากรถ superbike อย่าง Ninja ZX-10R ด้วยสไตล์ยุคใหม่ พร้อมระบบจัดการความร้อนและสุดยอดการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ ไม่เพียงแต่ Ninja 300 จะดูสวยงามเท่านั้น แต่ยังมีบังลมลอยเด่นที่ออกแบบมาเพื่อลดแรงปะทะและทำให้อากาศรอบตัวลื่นไหลรอบหมวกกันน้อคของผู้ขับขี่อีกด้วย





สำหรับแผงหน้าปัทว์ของนินจาใหม่ จะมีมาตรวัดความเร็วรอบแบบเข็มที่อ่านได้ง่าย พร้อมระบบแสดงผลแบบดิจิตัลแสดงความเร็ว ระยะวิ่ง ระยะของทริปแบบคู่ วัดระดับน้ำมัน และฟังก์ชั่นนาฬิกา หน้าปัทว์ใหม่ยังมีไฟแสดงไฟเลี้ยวพร้อมระบบแสดงผล ECO ที่บอกผู้ขับขี่ถึงการขับแบบประหยัดน้ำมัน

ตำแหน่งขับขี่มอไซค์ก็เป็นธรรมชาติและนั่งสบาย การควบคุมที่เบาถนัดมือ หมายถึงความสุนทรีย์ในการขับขี่ทุกท้องถนนนี้มาพร้อมกับล้อขนาด 17 นิ้วแบบ 10 ก้านที่ออกแบบมาอย่างสะดุดตา นอกจากน้ำหนักรถที่เบาแล้วราคาก็ยังเบากระเป๋าอีกด้วยราคาล่าสุดที่ 182,500 บาท สีมีให้เลือก 3 สี เขียว, ส้ม และ ขาว พร้อมอุปกรณ์ตกแต่งของแท้ให้เลือกมากมาย

มาพร้อมกับ ABS

ด้วยกำลังที่เพิ่มขึ้น การเบรกอย่างมั่นใจจึงมีความจำเป็น ทำให้ Ninja 300 คันนี้มาพร้อมกับ ABS เป็น special Edition ที่ให้ความรู้สึกเหมือนขับขี่รถระดับ 1 ลิตรแบบ superbike เลยทีเดียว เหมาะสำหรับนักบิดมือใหม่ ด้วยการประหยัดน้ำมันเป็นยอด ระบบความปลอดภัยพร้อมสรรพ เบาะนั่งที่ต่ำกว่าเพื่อความมั่นใจในการขับขี่

มั่นใจด้วยคุณสมบัติโดดเด่น

เครื่องยนต์ใหม่ 296cc
ระบบท่อไอเสียใหม่
ระบายความร้อนด้วยของเหลวและระบบ Kawasaki Air Management System(KAMS)
ความเร็ว 6 เกียร์พร้อมระบบ F.C.C.
ระบบหัวฉีดดิจิตอล (DFI)
ระบบ ABS Disc Brake ใหม่
แชซซีออกแบบใหม่
กันสะเทือนที่พัฒนาขึ้น
อุปกรณ์ไฮเทคเพียบ
หุ่นเพรียวลม
นั่งขับสบาย
อุปกรณ์ตกแต่งให้เลือกมากมาย
สำหรับ Spec ในไทย ราคา 182,500 บาท

เครื่องยนต์   4 จังหวะ 2 สูบเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำ
ปริมาตรกระบอกสูบ   296 ซีซี
ระบบวาล์ว   DOHC, 8 วาล์ว
ขนาดกระบอกสูบ/ช่วงชัก   62.0 x 49 มม.
อัตราส่วนการอัด   10.6:1
ระบบเกียร์   6 เกียร์ แบบรีเทิร์น
ระบบจุดระเบิด   ดิจิตอล
ระบบจ่ายเชื้อเพลิง   หัวฉีด (∅32 ม.ม. x 2) พร้อมกับลิ้นผีเสื้อคู่
ระบบสตาร์ท   สตาร์ทไฟฟ้า
โครงสร้างตัวถัง   ท่อเหล็กไดมอนด์
มุมแคสเตอร์/ระยะเทรล   27° / 93 ม.ม.
ขนาดยางหน้า   110/70-17 M/C (54S)
ขนาดยางหลัง   140/70-17 M/C (66S)
โช้คอัพหน้า   โช๊คอัพเทเลสโคปิค ขนาด 37 มม.
โช๊คอัพหลัง   โช๊คแก๊สเดี่ยว พร้อมแขนยึดยูนิแทรค ปรับได้ 5 ระดับ
เบรคหน้า   จานดิสก์เบรคเดี่ยว ขนาด 263 มม. คาลิปเปอร์ลูกสูบคู่ พร้อมระบบ ABS
เบรคหลัง   จานดิสก์เบรคเดี่ยว ขนาด 193 มม. คาลิปเปอร์ลูกสูบคู่ พร้อมระบบ ABS
ยาว x กว้าง x สูง   2,015 มม. x 715 มม. x 1,110 มม.
ระยะฐานล้อ   1,405 มม.
ความสูงเบาะ   785 มม.
น้ำหนักรถ   174 กก.
ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง   17 ลิตร



joker

ดาว์นเท่าไร่  ผ่อนเดือนเท่าใดคับท่าน น่าหรอย
เครดิตเจ้าของรูป

jacky

2013 cbr 500

รีวิว



ก่อนที่ภาวะเศรษฐกิจจะซบเซาเหมือนปัจจุบัน ฮอนด้าผลิตมอไซค์รุ่นต่างๆออกมาครองตลาดอย่างมากมาย รถยิ่งคันใหญ่ๆ ก็หมายถึงกำไรสูงๆ แรงม้าเยอะๆคือสิ่งที่ลูกค้ามองหา การกลับมาอีกครั้งของความนิยมในมอไซค์บิ้กไบค์ทำให้บรรดาผู้ผลิตต่างก็ต้องมองหาอะไรใหม่ๆ เพื่อที่จะดูดเงินจากกระเป๋านักบิดให้มากขึ้น

แต่ที่ผ่านมาไม่มีใครสามารถทำได้ดีไปกว่าฮอนด้าอีกแล้ว มอไซค์รุ่น CBR125 ได้รับการตอบรับจากตลาดเป็นอย่างดี ด้วยยอดขายถล่มทลายทั่วโลก ตามมาด้วย CBR250 ที่ยิ่งได้รับความนิยมสูงกว่าเข้าไปอีก ทางบริษัทฮอนด้าก็ยังทุ่มเงินสนับสนุนโครงการสนามฝึกขับมอไซค์ไปเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้เยาวชนได้รู้จักกับความสนุกสนานเพลิดเพลินในการขับขี่มอเตอร์ไซค์

ในแง่ของผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่จะออกวางตลาดแล้วในปี 2013 ก็เริ่มเห็นมอเตอร์ไซค์ที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมให้สำหรับผู้ที่เริ่มเบื่อกับคันเล็กๆอย่าง CBR125R และ CBR250Rs กลุ่มนักบิดเหล่านี้ต่างมองหารถมอไซค์ที่ใหญ่และท้าท้ายกว่าเดิม และนั่นคือที่มาของมอไซค์ในกลุ่ม CBR500  (ประกอบด้วยสามรุ่นคือ CB500F แบบธรรมดา CBR500R แบบสปอร์ท และ CB500X แบบแอดเวนเจอร์) ตามหลังกลุ่ม 125 และ 250 มาติดๆ ที่ใครๆก็ต้องมองออกว่ามาจากนักออกแบบคนเดียวกันแน่นอน

เริ่มจากคอนเซ็บของเครื่องยนต์ในลักษณะแบบ global (หมายถึงเป็นการใช้เครื่องยนต์แบบเดียวกันทั่วโลกในแต่ละรุ่นเพื่อที่จะลดต้นทุนการวิจัยและพัฒนา เปลี่ยนแต่เฉพาะรูปลักษณ์และอุปกรณ์เสริมสำหรับแต่ละตลาดเท่านั้น) เครื่องยนต์แบบ twin-cylinder ขนาด 500ccได้ถูกออกแบบมาอย่างเหมาะสมกับความต้องการของนักบิดที่ต้องการความแรงในการขับขี่ เบาะนั่งสูงเพียง 785 มม (สูงกว่า CBR250R อยู่ 10 มม) น้ำหนักรถโดยรวมอยู่ที่ 193 กิโลกรัมซึ่งถือว่าหนักกว่ารุ่นน้องอย่าง CBR250R เพียง 30 กิโลกรัมเท่านั้น ทำให้การขับรถรุ่นนี้รู้สึกเหมือนขับรุ่น 250 การควบคุมการขับขี่จึงรู้สีกได้ถึงความนุ่มนวล เบาแรง ทำให้การขับขี่รถรุ่นนี้แม้จะมีซีซีใหญ่กว่าก็ไม่ได้รู้สึกทำให้ลำบากใจแต่อย่างใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักบิดหน้าใหม่ที่อาจจะกล้าๆกลัวๆกับคำว่า 500cc ที่อาจจะคิดว่าใหญ่เกินตัว

แต่หากมามองเรื่องขุมกำลังแล้วละก็แม้จะเป็นตัวเลข 500 ก็จริงแต่ซีซีที่แท้จริงนั้นคือ 471cc ไม่ได้เต็ม 500 เหมือนที่หลายคนอาจจะคิด กำลังม้าก็เพียงประมาณ 47 แรงม้าเท่านั้น อาจจะยังไม่เข้าข่ายที่จะเรียกได้ว่าเป็น superbike มากนัก แต่ด้วยคุณภาพของเครื่องยนต์ที่ผ่านการพัฒนาของฮอนด้า ถ้าได้ขับแล้วจะรู้สึกว่าเร็วและแรงกว่าตัวเลขที่มองเห็น ก็ต้องยกนิ้วให้กับเครื่องยนต์สองสูบเรียงที่นับว่าดีที่สุดในปัจจุบันเมื่อเทียบกับของค่ายอื่นๆ ให้แรงบิตที่สูงพอตลอดช่วงความเร็ว ที่น่าประทับใจก็เมื่อได้ลองบิดเครื่องยนต์จนถึงขีดแดงแล้วดูการตอบสนองของเครื่องยนต์ก็พบว่าสุดยอดเลยทีเดียว ในตลาดกลุ่มนี้นักบิดมักให้ความสำคัญกับเสียงคำรามของเครื่องยนต์มาก​ ซึ่งฮอนด้าก็จูน CBR500 เครื่องนี้มาได้อย่างไม่มีที่ติ

- See more at: http://mocyclover.com/%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%a7%e0%b8%a1%e0%b8%ad%e0%b9%80%e0%b8%95%e0%b8%ad%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b9%84%e0%b8%8b%e0%b8%84%e0%b9%8c-honda-2013-cbr500.html#sthash.odC7U1nD.dpuf



สำหรับระบบเบรกของ CB500 นอกจากดูสวยงามและมีความเทห์อยู่ในตัวแล้ว ยังทำหน้าที่หยุดรถได้อย่างไร้กังวลอีกด้วย ข้อสังเกตุระบบเบรกของฮอนด้าคือจานเบรกหน้าและจานเบรกหลังจะมาจากเบ้าเดียวกันเพื่อลดความสิ้นเปลืองและประหยัดค่าใช้จ่าย ระบบป้องกันการล้อคล้อนั้นมีมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานสำหรับทุกรุ่นยกเว้นรุ้น R ทำให้รถรุ่นนี้นอกจากมีความเป็นสปอร์ทแล้วยังมีความปลอดภัยในการขับขี่อีกด้วย

ในแง่ของข้อเสียของรถรุ่น CBR500 ก็คงจะเป็นประเด็นที่รุ่นนี้พยายามทำให้รถเบาเหมือนรุ่น CBR250 ผลก็คือความเบาเมื่อขับรถที่ความเร็วสูงทำให้รู้สึกเหมือนจะปลิว หากขับที่ความเร็ว 80 กม/ชม อาจจะรู้สึกว่าขับได้สบายๆ กลับกลายเป็นว่าที่ความเร็วซัก 130 กม/ชม นั้นเหมือนจะปลิวเล็กน้อย ไม่ใช่ว่า CBR500 ไม่เสถียรนะครับ แต่หากเราไปขับรถแนวทัวร์ริ่งแล้วก็จะรู้สึกได้ชัดเจนว่าแตกต่างกันแน่แง่ของความนิ่งของรถที่ความเร็วสูง ซึ่งฮอนด้าแจ้งว่าความเร็วสูงสุดอยู่ที่  170 กม/ชม

กลับมาในเรื่องของรูปร่างของรถที่รุ่น R เป็นแบบฟูลแฟร์ส่วนรุ่น F เป็น naked สำหรับส่วนตัวผมแล้วจะชอบความรู้สึกและตำแหน่งนั่งขับของแบบ naked มากกว่า และอาจจะเพราะด้วยเสียงเครื่องยนต์ที่ชัดเจนไม่ถูกบดบังด้วยส่ิงห่อหุ้มเหมือนในรุ่น R อีกด้วย อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเลือกแบบไหน ทั้งสองก็ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งของการพัฒนามอเตอร์ไซค์สำหรับการเข้าสู่ตลาด bigbike แม้ว่าในประเด็นของตัวรถที่รุ่น CBR500 นั้นอาจจะเล็กไปสำหรับคนตัวสูงใหญ่ หรือนักบิดที่ชำชอง แต่ในแง่ของการที่เป็นรุ่นถัดไปของกลุ่ม CBR125 หรือ CBR250 แล้ว ก็ถือว่ารุ่น CBR500 นั้นพัฒนาขึ้นมาอย่างพอเหมาะพอเจาะเลยทีเดียว

สำหรับราคาของ CBR500R ในไทยก็อยู่ที่ประมาณ 210,000 บาท CBR500F ก็ประมาณ 205,000 บาทและรุ่น CBR500X ก็อยู่ที่ประมาณ 215,000 บาท