เทน่า 5เกียร์ ถ้าขับไปกลับประมาณ 100 กิโล จะกินน้ำมันกี่ลิตรคับ ! ?

[Hunterzero]

ประหยัดอยู่ที่มือครับ   แต่ต้องเข้าใจความหมายของคำว่า ประหยัดในรถ2จังหวะ ไม่ใช่ประหยัดในแบบ4จังหวะ
บ้างท่านบอกของผมประหยัด  พอไปลองขี่ตามดูก็รู้เลย  เปลี่ยนเกียร์ที่สี่พันรอบ อะไรแบบเนี้ยขี่ช้าๆบ้าง มันก็เป็นวิถีทางการประหยัด
ขอผมถ้าวันไหนขาไปมอ ซัดมากๆขากลับก็คลานกลับ80เหมือนกัน  ขี่80มันเซฟน้ำมันได้ดีพอสมควรถ้า60มันอืดเกินไปสำหรับรถ
ขี่150เจอเวฟแซง บระ อย่าขี่ดีกว่าครับ

[Mtz]

Ser ป้ายแดง ( ค้างสต็อก ) วิ่งตีคู่ Mio 115 cc

วิ่งไปทั้ง แปดริ้ว , แหลมฉบัง

วิ่งที่เฉลี่ย 100-110 เติมเท่ากัน

Ser ได้ระยะทางมากกว่า  Mio 115 cc

อันนี้ลองหลายรอบแล้ว ..เคยเขียนในกระทู้ เก่า ๆ

มันเป็นไปไม่ได้เลยเหรอครับที่สองจังหวะจะประหยัด เท่าสี่จังหวะ พี่ที่ผมอ้างอิงเค้าก็ทำให้ประหยัดได้ ผมก็ทำกับรถผมเองมันก็ประหยัดพอสมควร แต่ไม่มากเท่าเวฟ แต่ก็อย่างที่พูดๆกัน สองจังหวะมันได้ความแรงด้วยนั้นแหละที่สำคัญ คนที่ใจรักแรงม้าแรงบิดของสองจังหวะก็คงทำใจหน่อยแต่ถ้าเข้าใจรถมันจริงๆมันก็คงอยู่กับเราไปนานอยู่จนกว่าออโต้ลูบจะเลิกผลิต หรือแอบเอาน้ำมันเครื่องสี่จังหวะมาใส่แทนออโต้ลูปเลย    - -*

 โทษทีนะครับ ท่านไม่ทราบ หรือไม่รู้มาก่อนว่า "รถออโต้  มันกิืนน้ำมันครับ ""   และก็ไม่ต้องไปเอาพี่เก่งมาอ้างอิงแต่อย่างไร  จะบอกว่ารถออโต้ไม่ได้ประหยัดอะไรเลย กินน้ำมันไล่ๆกะสองจังหวะนี่แหละ  ที่จะประหยัดสมกับเป็นรถสี่จังหวะก็จะเริ่มเป็นพวกออโต้หัวฉีดครับ เช่น Click I หรือ Mio125I
   ส่วนเรื่องความแรง ถ้าจะเอามาเทียบ เอาง่ายๆรถCCไล่ๆกัน เช่น  โนวา110 กับเวฟ125  เอาออกตัวไฟแดง ไล่ยันเกียร์4  ผมขี่มาเองทั้งสองรุ่น ยังไงเวฟก็ยังแซงครับ โนวาตามมาติดๆ  ยิ่งเจอทางโค้ง หรือทางลาดชัน  หรือแบกคนซ้อน  โนวาแทบสิ้นยลายครับ  อย่าเอาตรรกกระเก่าๆมาเทียบมันไม่จริงเสมอไปครับ

    ส่วนถ้าเป็นรถมีเกียร์ เช่น เวฟ  โซนิค  สปาร์ค สแมช พวกนี้ ไปลองเทียบดู อัตราการสิ้นเปลือง ราวฟ้ากะเหวเมื่อเอาๆไปเทียบกะรถออโต้ครับ  อย่านอกประเด็นครับ ประเด็นมันอยู่ที่รถสองจังหวะ กะสี่จังหวะ แต่นี้ท่านเล่นไปยกตัวอย่างรถ4จังหวะที่เป็นเกียร์ออโต้ ซึ่งกินน้ำมันไม่อยากจะเหลา มหาโหด มาเพื่อเทียบว่า รถสองจังหวะกินไม่ต่างกัน  เล่นแบบนี้ ท่านไม่ไปเอาตัว1000 มาเทียบด้วยเลยละ  หุหุ (หรือจะเอาตัวพันคาร์บุก็ได้นะ  อันนั้นกินน้ำมันมากกว่าสองจังหวะ แน่นอน ) หรือไม่ก็ CBR250รุ่นปี94ที่เป็น4สูบ  ก็กินน้ำมันมหาโหดเหมือนกัน
  หรือถ้ายังไม่รู้แจ้งเห็นจริง ท่านลองมองข้ามมาอีกซักนิด ลองไปมองเทียบกะพวกCBR150I  ดูว่า ไม่ต้องมาบิดช้าเป็นเต่ากัดยาง ก็กินน้ำมันที่ราวๆ40กิโล/ลิตรสบายๆครับ  แถมไมล์ไม่ได้อ่อนเว่อร์แบบรถสองจังหวะเก่าๆของเราด้วย( เคยไหมที่บิดที่110 แต่เวฟ100 เดิมๆเก่าๆ  แซงเราได้เฉย ทั้งที่เวฟ100 ความเร็วสูงสุดมันอยู่ที่90-100 แค่นั้นเอง)
   สิ่งที่ผมพยาบอก คือให้มองให้กว้างแล้วท่านจะไม่ผิดหวังในภาวะน้ำมันแพงแบบนี้ครับ  ไม่ได้ต้องการจะเอาชนะคะคาน เพระาชนะไปแต่เสียมิตรภาพ สู้แบ่งปันประสบการและมุมมองกันดีกว่า อย่างน้อยๆเจอหน้าเจอตัวกัน ก็ยังคุยกันได้ แต่ถ้าจะเอาชนะกัน  มีฝ่ายแพ้ ฝ่ายชนะ เจอหน้ากัน รังแต่จะมองหน้ากันไม่ติดเพราะคาใจครับ

 ผมไม่มีอะไรกับใครนอกจากว่าอยากจะให้มองต่างมุมไม่ยึดติดแค่นั้นเอง
   ถามง่าย จะมีสองจังหวะซักกี่คันที่กินน้ำมันน้อย  (ในชีวิตผม เจอมาสามคันครับ ที่กินน้ำมันน้อยแบบหาเหตุผลไม่ได้  1NSRตากลมของน้องในกลุ่ม  ขานั้นบิด100-120 กินราวๆ40กิโล/ลิตร ไปออกทริปกันเพื่อนฝูงเขาจอดเติมน้ำมันกันแล้ว ของน้องเขาบอกยังยุบไม่ถึงครึ่งถังเลย  ที่ยอมรับเพระาไปออกทริปด้วยกันบ่อย  2 KR SEของพี่ที่อยู่ชลบุรี  ขานั้นกินราวๆ35กิโลลิตร  งงเหมือนกัน กินไงน้อยแท้   3 RRW ของพ่อใหญ่วิท ขานี้กินราวๆ30กิโลลิตร )  ส่วนรถของพี่เก่ง แกเป็นรถค้างสตอค ค่อนข้างจะกินน้ำมันน้อยจริงๆจากที่เคยคุยกันมา เพระาลักษณะการใช้งานแกเดินทางไกลประจำ ต้องบอกว่ารถพี่แกดีมากๆครับ
  ซึ่งที่กล่าวมา  นั้นคือจะบอกว่า มันมีสองจังหวะแค่ไม่กี่คันทืี่กินน้ำมันน้อย  แล้วคนหลังๆที่หวังจะได้ใช้รถสองจังหวะเพระาคิดว่ามันกินน้ำมันน้อย  มันจะผิดหวังกันมากกว่า เสียความรู้สึกกันมากกว่าที่เราจะตะแบงดันใส่เหตุผลในมุมเดียวไปครับ
 สองจังหวะในชั่วโมงนี้ ก็คงเห็นตรงกับคุณกาฝากครับว่า มันไว้ใช้ยามว่างจริงๆ ใช้งานประจำ  คงต้องตามสมัยแล้วแหละ เพระาถ้าไม่ตามสมัย ค่ามันบักโกรกแน่( ผมขี่RRWไปทำงานทุกวัน วันละ80กิโล  เดืินๆหนึ่งค่าน้ำมัน ค่าออโตลูปผม ตกเดือนละ8000  ถ้าเอาเวฟมาใช้ จะตกแค่เดือนละ3-4000 ในเวลาการเดินทางทีเท่ากัน แบบนี้ พอจะมองเห็นไหมครับว่า ค่าใช้จ่ายที่ผมเคยบอกว่า เอาไปผ่อนรถใหม่ๆได้1คันเลย จากส่วนต่างค่าน้ำมันต่อเดือน)

[pond smile-s]

สองจังหวะประหยัดได้เท่าๆสี่จังหวะ ถ้าเซ็ตคาร์บูเรเตอร์เป็น หรือจะให้กินน้ำมันเยอะๆก็ทำได้ จะปรับให้ประหยัดสุดๆก็ได้แต่ต้องวิ่งไม่เกิน80-100 แต่ไงก็เสียน้ำมันออโต้ลูปอยู่ดี

วันนี้ผมทดลอง ปรับสกรูอากาศของคาร์บูเรเตอร์เอ็นโปรแท้ 42/152 ปกติสกรูอากาศของมัน 1.5 รอบ ผมลดรอบลงเหลือ 1.25 รอบ ผลที่ได้คือเปลืองน้ำมันขึ้นเยอะเลยครับเมื่อรอบสูงๆ 7000-8000 รอบ จากเดิมประหยัดน้ำมันมากๆ พอปรับให้กินมากแล้วน้ำมันลดจนน่าใจหาย สรุปอยู่ที่การขับขี่และการปรับแต่งคาร์บูเรเตอร์ให้กินน้ำมันมากน้อย ให้กินมากคือต้องการขับขี่ความเร็วสูง ให้กินน้อยคือขับขี่ความเร็วไม่สูงและประหยัดน้ำมัน

ขออนุญาติ ไม่เห็นด้วยที่ว่า "สองจังหวะเซ้ตดีๆ กินน้ำมันเท่า4จังหวะ"  ตรงนี้เพระาว่า เซ้ตให้ตาย สองจังหวะของท่านทั้งหลายแหละ มีปัญญาทำได้มากกว่า40กิโลลิตร ที่ความเร็ว80ไหมครับ  โทษทีนะครับ เวฟ110I   ถ้าวิ่งแค่80นี้ 60กิโลลิตรสบายๆไม่เกี่ยงรถติดด้วย  เมื่อก่อนผมใช้โนวา ซูเปอร์ ว่าเดิมๆสุดๆคาร์บูจูนด้วยช่างฝีมือดีแล้ว  มันทำได้เต็มที่ก็35กิโลลิตร ที่ความเร็ว80 
   หรือท่าจะบอกว่าให้ขับช้าอีกหน่อย เอาที่ความเร็ว60  อันนี้ก็น่าจะทำให้สองจังหวะประหยัดขึ้นมาได้อีกนิด น่าจะราวๆ40กิโลลิตรได้    แต่โทษที เวฟ110I ของผมคันเดียวกัน ผมทำได้ 70กิโล ต่อลิตร ไม่ค้องถามว่าน้ำมันกี่ถังที่ผมลอง  รถผมวิ่ง40000กว่ากิโลแล้ว คงไม่ต้องถามว่าผมลองน้ำมันไปกี่ถัง กี่รอบ  กี่กิโลนะ   เอาแค่นี้แล้วกัน  แค่เปลี่ยนน้ำมันเครื่องกะกรอง  นอกนั้น เติมน้ำมันเต็มถังแล่้วขี่ได้เลย

   อีกอย่าง ขี่4จังหวะใช้งาน ก็ไม่ต้องให้นักบิดมือทองคันเร่งเทพขี่ ก็สามารถเซพค่าน้ำมันได้ครับ ส่วนสองจังหวะ  คงยากที่จะทำได้ในชีวิตจริงครับ เพระาผมลองทำ เป็นแสนกิโลแล้ว มีแต่แสนสาหัสครับพี่น้องแม๊ว  ค่าน้ำมันของผม1ปี เอาไปซื้อรถใหม่ได้อีกคันสบายๆเลย (คิดดูผมก็ขี่ทุกวัน วันละ80กิโล ยบิดที่100  ขี่เวฟ เติม100เดียว ไปกลับ  แล้วไปอีกรอบได้สบาย  ขี่สองจังหวะ ไปได้..แต่กลับไม่ถึงบ้าน หุหุหุหุ ต้องเติม150 )

   ยิ่งถ้า จขกท  เอารถมาใช้ทุกวัน วันละ100 กิโล เลิกคิดได้เลยว่าจะเอาสองจังหวะมาใช้ครับ ขี่เวฟประหยัดกว่า ถ้าจะวิ่งต้วมเตีย้มแค่80  สบายกระเป๋าแน่นอนครับ ไม่ต้องมานั่งเคร่งเครียดกับการมานั่งเลี้ยงคันเร่งเพระากลัวกินน้ำมัน

ขอบคุณมากๆคับพี่ชาย สำหรับคำแนะนำ ไอ้เรื่องของเรื่องก้อคือ พี่ชายผมมันเพิ่งลงมาจากต่างจังหวัด แล้วทีนี้มันจะยืมรถผมไปทำงานอ่ะคับ ไป-กลับ ตกๆ 70โลได้ ผมเลยว่าจะเอาเทน่าไปขับทำงานสักพักนึงก่อนอ่ะคับ แล้วค่อยรอพี่ชายมันขึ้นไปเอารถที่ต่างจังหวัดมาคับ แล้วผมค่อยกลับมาใช้ เวฟ110i เหมือนเดิม ปกติผมก้อใช้เวฟ110i นี้แหละคับ ใช้มา 5หมื่นกว่าโลแล้วคับ น้ำมันเติม 60 (E20) บาท วิ่งไปกลับ ได้ เกือบๆ 140 โลนู้นคับ วิ่งในเมือง รถติดๆเลยบางช่วงก้อไม่ติด โล่งๆหน่อย ความเร็วยืนพื้นที่ 80-100 คับ ก้อใช้งานดีไม่มีปัญหาคับ เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง 2000 โลครั้ง ตอนนี้ผมก้อกลับมาใบ้เวฟ110iเหมือนเดิมล้วคับ เท่นาไว้ขี่เล่นที่บ้าน เวลาฉุกเฉินบางทีค่อยเอาไปทำงานคับป๋มมมม'

[pond smile-s]

Ser ป้ายแดง ( ค้างสต็อก ) วิ่งตีคู่ Mio 115 cc

วิ่งไปทั้ง แปดริ้ว , แหลมฉบัง

วิ่งที่เฉลี่ย 100-110 เติมเท่ากัน

Ser ได้ระยะทางมากกว่า  Mio 115 cc

อันนี้ลองหลายรอบแล้ว ..เคยเขียนในกระทู้ เก่า ๆ

มันเป็นไปไม่ได้เลยเหรอครับที่สองจังหวะจะประหยัด เท่าสี่จังหวะ พี่ที่ผมอ้างอิงเค้าก็ทำให้ประหยัดได้ ผมก็ทำกับรถผมเองมันก็ประหยัดพอสมควร แต่ไม่มากเท่าเวฟ แต่ก็อย่างที่พูดๆกัน สองจังหวะมันได้ความแรงด้วยนั้นแหละที่สำคัญ คนที่ใจรักแรงม้าแรงบิดของสองจังหวะก็คงทำใจหน่อยแต่ถ้าเข้าใจรถมันจริงๆมันก็คงอยู่กับเราไปนานอยู่จนกว่าออโต้ลูบจะเลิกผลิต หรือแอบเอาน้ำมันเครื่องสี่จังหวะมาใส่แทนออโต้ลูปเลย    - -*

  โทษทีนะครับ ท่านไม่ทราบ หรือไม่รู้มาก่อนว่า "รถออโต้  มันกิืนน้ำมันครับ ""   และก็ไม่ต้องไปเอาพี่เก่งมาอ้างอิงแต่อย่างไร  จะบอกว่ารถออโต้ไม่ได้ประหยัดอะไรเลย กินน้ำมันไล่ๆกะสองจังหวะนี่แหละ  ที่จะประหยัดสมกับเป็นรถสี่จังหวะก็จะเริ่มเป็นพวกออโต้หัวฉีดครับ เช่น Click I หรือ Mio125I
   ส่วนเรื่องความแรง ถ้าจะเอามาเทียบ เอาง่ายๆรถCCไล่ๆกัน เช่น  โนวา110 กับเวฟ125  เอาออกตัวไฟแดง ไล่ยันเกียร์4  ผมขี่มาเองทั้งสองรุ่น ยังไงเวฟก็ยังแซงครับ โนวาตามมาติดๆ  ยิ่งเจอทางโค้ง หรือทางลาดชัน  หรือแบกคนซ้อน  โนวาแทบสิ้นยลายครับ  อย่าเอาตรรกกระเก่าๆมาเทียบมันไม่จริงเสมอไปครับ

     ส่วนถ้าเป็นรถมีเกียร์ เช่น เวฟ  โซนิค  สปาร์ค สแมช พวกนี้ ไปลองเทียบดู อัตราการสิ้นเปลือง ราวฟ้ากะเหวเมื่อเอาๆไปเทียบกะรถออโต้ครับ  อย่านอกประเด็นครับ ประเด็นมันอยู่ที่รถสองจังหวะ กะสี่จังหวะ แต่นี้ท่านเล่นไปยกตัวอย่างรถ4จังหวะที่เป็นเกียร์ออโต้ ซึ่งกินน้ำมันไม่อยากจะเหลา มหาโหด มาเพื่อเทียบว่า รถสองจังหวะกินไม่ต่างกัน  เล่นแบบนี้ ท่านไม่ไปเอาตัว1000 มาเทียบด้วยเลยละ  หุหุ (หรือจะเอาตัวพันคาร์บุก็ได้นะ  อันนั้นกินน้ำมันมากกว่าสองจังหวะ แน่นอน ) หรือไม่ก็ CBR250รุ่นปี94ที่เป็น4สูบ  ก็กินน้ำมันมหาโหดเหมือนกัน
   หรือถ้ายังไม่รู้แจ้งเห็นจริง ท่านลองมองข้ามมาอีกซักนิด ลองไปมองเทียบกะพวกCBR150I  ดูว่า ไม่ต้องมาบิดช้าเป็นเต่ากัดยาง ก็กินน้ำมันที่ราวๆ40กิโล/ลิตรสบายๆครับ  แถมไมล์ไม่ได้อ่อนเว่อร์แบบรถสองจังหวะเก่าๆของเราด้วย( เคยไหมที่บิดที่110 แต่เวฟ100 เดิมๆเก่าๆ  แซงเราได้เฉย ทั้งที่เวฟ100 ความเร็วสูงสุดมันอยู่ที่90-100 แค่นั้นเอง)
    สิ่งที่ผมพยาบอก คือให้มองให้กว้างแล้วท่านจะไม่ผิดหวังในภาวะน้ำมันแพงแบบนี้ครับ  ไม่ได้ต้องการจะเอาชนะคะคาน เพระาชนะไปแต่เสียมิตรภาพ สู้แบ่งปันประสบการและมุมมองกันดีกว่า อย่างน้อยๆเจอหน้าเจอตัวกัน ก็ยังคุยกันได้ แต่ถ้าจะเอาชนะกัน  มีฝ่ายแพ้ ฝ่ายชนะ เจอหน้ากัน รังแต่จะมองหน้ากันไม่ติดเพราะคาใจครับ

  ผมไม่มีอะไรกับใครนอกจากว่าอยากจะให้มองต่างมุมไม่ยึดติดแค่นั้นเอง
    ถามง่าย จะมีสองจังหวะซักกี่คันที่กินน้ำมันน้อย  (ในชีวิตผม เจอมาสามคันครับ ที่กินน้ำมันน้อยแบบหาเหตุผลไม่ได้  1NSRตากลมของน้องในกลุ่ม  ขานั้นบิด100-120 กินราวๆ40กิโล/ลิตร ไปออกทริปกันเพื่อนฝูงเขาจอดเติมน้ำมันกันแล้ว ของน้องเขาบอกยังยุบไม่ถึงครึ่งถังเลย  ที่ยอมรับเพระาไปออกทริปด้วยกันบ่อย  2 KR SEของพี่ที่อยู่ชลบุรี  ขานั้นกินราวๆ35กิโลลิตร  งงเหมือนกัน กินไงน้อยแท้   3 RRW ของพ่อใหญ่วิท ขานี้กินราวๆ30กิโลลิตร )  ส่วนรถของพี่เก่ง แกเป็นรถค้างสตอค ค่อนข้างจะกินน้ำมันน้อยจริงๆจากที่เคยคุยกันมา เพระาลักษณะการใช้งานแกเดินทางไกลประจำ ต้องบอกว่ารถพี่แกดีมากๆครับ
   ซึ่งที่กล่าวมา  นั้นคือจะบอกว่า มันมีสองจังหวะแค่ไม่กี่คันทืี่กินน้ำมันน้อย  แล้วคนหลังๆที่หวังจะได้ใช้รถสองจังหวะเพระาคิดว่ามันกินน้ำมันน้อย  มันจะผิดหวังกันมากกว่า เสียความรู้สึกกันมากกว่าที่เราจะตะแบงดันใส่เหตุผลในมุมเดียวไปครับ
  สองจังหวะในชั่วโมงนี้ ก็คงเห็นตรงกับคุณกาฝากครับว่า มันไว้ใช้ยามว่างจริงๆ ใช้งานประจำ  คงต้องตามสมัยแล้วแหละ เพระาถ้าไม่ตามสมัย ค่ามันบักโกรกแน่( ผมขี่RRWไปทำงานทุกวัน วันละ80กิโล  เดืินๆหนึ่งค่าน้ำมัน ค่าออโตลูปผม ตกเดือนละ8000  ถ้าเอาเวฟมาใช้ จะตกแค่เดือนละ3-4000 ในเวลาการเดินทางทีเท่ากัน แบบนี้ พอจะมองเห็นไหมครับว่า ค่าใช้จ่ายที่ผมเคยบอกว่า เอาไปผ่อนรถใหม่ๆได้1คันเลย จากส่วนต่างค่าน้ำมันต่อเดือน)

+1