Main Menu

สาวก คาวา เชิญครับ ย้อนอดีตอันเกรียงไกรของ kawasaki

เริ่มโดย sarapan, ธันวาคม 22, 2011, 04:09:49 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 3 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

tong kr

ชีวิตนี้ไม่สิ้นต้องดิ้นกันไป

ray

                                   ขอร่วมสร้างตำนานด้วยคนครับ  KAWASAKI LEO-SRX

sarapan

#122
อ้างจาก: tong kr เมื่อ มกราคม 17, 2012, 09:27:44 หลังเที่ยง
คนผมยาวใช่ จอห์น อิศรัมใช่ไหมครับ

ใช่ครับ
ที่ 3 จากขวา คนไว้หนวด พี่เครา เฉลิมศักดิ์ ทองแย้ม สนิทกับผม แกเสียไปแล้ว
ที่ 4 จากขวา เฉลิมพล ไม่ใช่มาลาคำ (ผมจำนามสกุลไม่ได้)
ที่เห็นยืนๆอยู่ในภาพ อดีตแช็มป์ทั้งนั้นครับ ผลัดๆกันได้ 
<iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/BXvNbtK5jD0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

sarapan

#123
วันนี้มาต่อเรื่อง ได้รับอนุมัติจาก ทีมพรเจริญ ให้ซื้อKR-1S
ครั้งแรกที่ผมใช้ KR-1 250 ปี 1988 ซึ่งซื้อมาจากโกดัง ในราคา 15,000 บาท อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น
ได้รถมาก็ไปหายางมาใส่ เป็นยาง มิชเลอร์ จากร้าน มิสเตอร์ ทีไบค์ ซอยวัดแขก สีลม
ขนาดยางก็เท่าเดิมแต่คุณภาพยางดีกว่าที่ติดมาจากเซียงกงเป็นแน่แท้
แล้วก็เปิดดูลูก-แหวน ล้างคาร์บิว ขัดเงาพอร์ทต่างๆ เพราะไม่กล้าไปทำมากกว่านั้น ถ้าหากเกิดผิดพลาด
ถึงกับต้องทิ้งทั้งคันเลยก็ได้ เพราะมันไม่มีอะใหล่ ขนาด สเตอร์หน้าแค่อันเดียวเรายังหามาเปลี่ยนไม่ได้
จึงต้องแข่งมันไปทั้งอย่างนั้น แบบว่าขี่แค่ 5 เกียร์ทั้งๆที่รถมันมี 6 เกียร์
จบการแข่งขัน ก็ไม่ได้ขึ้นแท่นรับรางวัลกับเค้า ได้แค่ที่ 5 แต่ทำไมเค้ายังให้เราแข่งต่อล่ะ?
เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์
การแข่งขันแบบสนามปิด (Closed circuit ) มีการบันทึกเวลาแต่ละรอบของรถแต่ละคัน
เวลาเร็วที่สุดของแต่ละรอบที่ทำได้ของแต่ละคัน จึงมีบันทึกไว้ที่ส่วนกลาง อีกทั้งทางทีมแข่งก็ยังบันทึกไว้เอง
เพื่อบอกเวลาแต่ละรอบให้นักแข่ง  อันดับที่ 1 สนามนั้น เป็น ตี๋ สุพจน์ จากปราจีณบุรี ใช้ NSR 250 SP
ใช้ระบบครัชแห้ง ราคาตอนนั้นอยู่ที่ประมาณ 120,000 บาท(รถจดประกอบ) ใช้ยาง มิชชลิน ไฮสปอร์ต กับชุดไฟ
และอีกหลายๆอย่าง เพราะหาได้ง่าย เวลาดีที่สุดต่อรอบ อยู่ที่ 1นาทีกับ 17-18 วินาที นี่แหละ
ซึ่งผมก็ทำได้ ตอนรอบต้นๆ คือประมาณรอบที่ 3-4 แล้วก็หล่นลงมาแถวๆ 1.20 -1.22
เรียกว่า กัดฟันขี่ให้มันครบ 15 รอบแค่นั้น เพราะตอนนั้นผมอายุประมาณ 30 ปี กับการดำเนินชีวิตแบบ ตกเย็นก็นั่ง
ดื่มเหล้า นอนก็ตี3ตี4 อะไรประมาณนั้น ไม่ได้ออกกำลังกายจริงๆจังๆมาเกิน 5 ปีแล้ว
และเจ้า KR 250 มันก็พยศหน้าดู มันไม่ง่ายกับการที่ผมจะทำให้มันยอมเอียงตัวเพื่อเข้าโค้งแต่ละโค้งต้องใช้กำลัง
ออกแนว  ซาดิส นิดๆ ตอนสตาร์ทผมออกตัวถึงโค้ง C1 (ขึ้นเขา) เป็นคนแรก ออกจาก U1 (เตรียมลงเขา) เป็นคันแรก
ตอนลงเขา มันเป็นโค้งซ้อนกัน 2 ช่วง แล้วก็จะไปเจอ S1 ตอนนั้นผมโดน ตี๋แซงไปแล้ว กล้าพูดได้เต็มปากว่า 'น่ากลัวมาก'
เพราะพื้นแท็รก ช่วงนั้นมันมีรอยปะๆเหมือนถนนทั่วๆไป แล้วทุกคันต้องส่งลงมา ผมว่ามันน่าจะเกิน 140 เจ้า KR ของผม
มันโดนรอยปะเข้าไปมันก็ไม่อยากจะเลี้ยวตามที่ผมสั่งแล้วครับ ทั้งช่วงล่าง ทั้งยาง เป็นรองเจ้า NSR-SP แบบว่าคนละชั้น
แต่ผมก็ยังตาม ตี๋ ไปได้จนถึง S2 และ จนกระทั่งถึงทางตรง คราวนี้ มากันใหญ่เลยครับ ถึงปลายทางตรง ขึ้นหน้าผมไปอีก 4-5 คัน
แล้วก็ ถึง C1 ขึ้นเขา ผมก็แซงคืนได้ตรงโค้ง U1 ตอนจะลงเขา ผมอยู่อันดับ 3 ข้างหลังผมมี หมวดโหด รตท.สุวัฒนา ศรีกล่ำ
(ยศ ขณะนั้น) คนในวงการรู้จักแกทุกคน ทั้งทดสอบ ทั้งแข่งขันมอไซค์รายการโหดๆ แล้วแกก็ขี่รถโหดสมชื่อ
เลยได้รับฉายา หมวดโหด แต่แกก็ขึ้นผมไม่ได้จนจบการแข่งขัน
คิดในใจ ต้องสลัดกลุ่มข้างหลังให้ได้
หากเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ไม่ดีแน่นอน เพราะจุดตีธง มันอยู่ที่กลางทางตรง เพราะหากผมทิ้งระยะกลุ่มหลังได้น้อยกว่า 50 เมตร
เสร็จแน่นอน เพราะทางตรงเค้าก็ขึ้นเราอยู่ดี
คิดได้ ได้แต่คิด มันทำไม่ได้ครับ เพราะยิ่งขี่ไปมากๆรอบ แรงเริ่มหมด ขนาดที่ทางตรงมาสุดๆ จะต้องยกให้ลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้
ยกไปลึกๆเกือบแหกโค้ง เพราะกะอีแค่แรงบีบเบรกเพื่อจะให้รถมันหยุดยังไม่มีเลยครับ พอแรงหมด สมองสั่งแล้วร่างกายไม่ตอบสนอง
ทีนี้ ใจก็เริ่มถอดสิครับ โค้ง S ต้องใช้แรงจากต้นขามากมายมหาศาล เพื่อที่จะยกตรูดขึ้นจากเบาะแล้วดึงให้รถมันลง
ซ้าย-ขวา มันไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะเราต้องสู้กับแรงโน้มถ่วงของโลก บวกกับ แรงหนีศูนย์ หากไม่ใช่นักแข่งอาชีพ
ผมให้แค่ 5 รอบสนาม รับรองหมดทุกราย แบบผมนี่แหละ
ก็อย่างที่บอกไว้แหละครับ ผลงานออกมาห่วยอย่างนี้ แล้วเค้ายังเปลี่ยนรถให้เรา เพื่อให้เราแข่งต่อ ก็เพราะเวลาที่บันทึกไว้มันฟ้องงัยครับ
แล้วก็คงมีผู้สังเกตการณ์ ของ พีดีเค ก็น่าจะเป็นนักแข่งอาชีพที่รู้จักกัน เค้าก็ต้องดูเราอยู่ คงดูหน่วยก้านท่าทางพอไปวัดไปวาได้  
ก็เลย ลองให้มันขี่ดูอีกสักหน่อย ลงทุนไม่กี่บาท เป็นสีสัน เพราะไม่มีใครเอา คาวามาแข่งรุ่น 250 เลย มันก็มีไอ้หมอนี่คันเดียวนี่แหละ    
ปล.
คือเวลาที่ทำได้ดีที่สุดที่ผมทำได้ ก็เท่ากับเวลาของอันดับ 1
แต่เวลาของผมมันไม่คงที่ ก็ด้วยหลายๆปัจจัย ที่สำคัญคือแรง รองมาคือ รถ
<iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/BXvNbtK5jD0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

pepsi-leo.139



ลูก ผู้ชาย คำไหน คำ นั้น!! (FUCKER 1992
Group.)                               CAFE SHOP NAZI   Pepsi ออน 09.00-04.00ทุกวัน

sarapan

#125
อ่ะ ทีนี้ได้รถใหม่ตามสั่งแล้วครับ
KR-1S 250 ปี 1990
เอางัยดีหว่า ... แรงม้าเท่าเดิม อัตราทดเกียร์เท่าเดิม มันก็น่าจะเป็นเครื่องตัวเดิมแหละนะ
แต่ได้ล้อหน้ากว้างขึ้น โช๊คหน้า เติมก๊าซได้ โช็คหลังแก๊ส/ซับแท็งค์ แต่ปรับอะไรไม่ได้
*อ้อลืมไปครับ คันเก่าก็โช๊คหลังเป็นแก๊ส น้าฮั่งแกทำให้ เอาน้ำแข็งแห้งยัดเข้าไปแล้วเชื่อมปิดซะ (ง่ายจัง)
คิดอย่างเดียว หากไม่ทดสเตอร์(เพราะมันไม่มี)เราก็ต้องออกจากโค้งสุดท้ายก่อนทางตรงให้เร็วกว่าเดิม
ออกจากโค้งให้ได้สุดรอบเกียร์2 จะให้ดีกว่านั้นต้องขึ้นเกียร์3 ได้ในปลายโค้ง ถึงจะสับ 4-5-6 ได้ครบเกียร์
แต่ลองแล้ว งัยมันก็ไม่มีทางครับ ในเมื่อเกียร์/สเตอร์ทดไม่ได้ เราก็ต้องเพิ่มกำลังให้กับเครื่องยนต์
เพื่อที่จะหมดรอบเกียร์เร็วขึ้น จึงจะใช้เกียร์ 6 ได้  คิดๆๆๆ จำให้ใครทำดีฟระ
เฮียแกละ แกก็ไม่ว่างแน่นอน เฉพาะรถ พรเจริญก็ 4 คัน  ! นึกขึ้นได้พอดี เออ ไอ้เริง สำเริงแห่งทุ่งบางกะปิ
ไอ้เริง หรือ บางคนเค้าเรียกว่า ไอ้ยาว ไอ้โย่ง เพราะหุ่นสูงเพรียว สูงน่าจะ 180 กว่าผอมบาง หน้าตาคล้ายๆลูกครึ่ง
สำเริง ทำแต่รถทางตรง ที่ถนัดเค้าก็คือ TZR 150 ทะลุ 240 กม./ชม.มาแล้ว ที่รู้เพราะมันชอบมายืมรถผมไปทดสอบ
สมัยนั้น โทลล์เวย์ ยังไม่มี จะมีสะพานลอยข้ามแยก เกษตร์ ต่อเนื่องแยกหลักสี่ ไม่ใช่สะพานลอยขวางถนน วิภาฯเหมือนทุกวันนี้
มันเอา TZR 150 มาลองกับ คาวาZX-4 ของผม ZX-4 หมดๆมันไปได้ 230 กม./ชม. เหนือกว่า NC30 อยู่หน่อยๆ
เคยลองยาวๆทางสายตากฟ้า แช่กันยาวๆ NC30โดนZX-4 ใหลขึ้นไปเรื่อยๆจนหายเป็น 10 แผ่น
ตอนนั้น ไอ้เริงมัน ขอยืมไปลอง ที่ ถ.วิภาวดี ช่วงแยก เกษตร-แยกหลัก 4 ระยะทางประมาณ 3 กม.กว่าๆ
ผมให้ไอ้ป๋องขี่ ส่วน TZR มีเด็กไอ้เริงมาขี่ เราก็ยืนดูบนสะพานลอย ...โน่นๆเห็นไฟมาลิบๆ TZR ขึ้นหน้ามาหลายสิบเมตร
ลองกัน 2 รอบ  TZR นำทั้ง 2 รอบ ตอนนั้นไอ้เริงมันก็เดิมพันไปทั่ว ผมก็จำชื่อไม่ได้แถวๆมีนบุรี มันก็มีอยู่หลายคนเหมือนกัน
ตอนนี้ไม่รู้ไอ้เริง มันเป็นตายร้ายดีอย่างไร เพราะตอนนั้น มันก็เข้าๆ-ออกๆคุกเหมือนมันไปเช่าอพาร์ทเม็นท์นอนอย่างนั้น
บางทีมันก็ขับ BMW E30 มาหาผม บางทีมันก็เอา DX กระเทยโหลดเตี้ยล้อโตมา อาชีพหลักจริงๆของไอ้เริง มันก็นักเล่น(ผีพนัน)
ผมก็เคยไปกับมันบ้างเป็นครั้งคราว แต่อาชีพรองของมันผมก็ไม่สนใจ มันก็คงไม่ใช่สุจริตชนแน่นอน เพราะเข้าๆ ออกๆ คุกแบบนั้น
เกือบซวยเพราะไอ้เริง
มีครั้งหนึ่ง มันก็เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของผม ที่เคยทำอย่างนั้น
ถนน สุขาภิบาล 3 (ปัจจุบันคือ เสรีไทย) หน้าหมู่บ้าน ทวีสุข คืนนั้น ไอ้เริงเค้ามีเดิมพันกับพวกสวนสยาม ถ้าจำไม่ผิด
ระหว่าง KR กับ KR ไอ้เริงมันมีเด็กขี่ประจำอยู่แล้ว เป็นเด็กใต้ ผมจำชื่อมันไม่ได้ พูดถึงเด็กขี่ทางตรง ใจมันเกินร้อยจริงๆครับ
ประเภท มันมาเต็มๆแล้วรถออกจากซอยมา ไอ้พวกนี้มันยังไม่ยก แถมยัดเข้าไปเลย แบบว่า ตายเป็นตาย (ตายไปเยอะแล้ว)
แล้วฝั่ง สวนสยามก็มากันประมาณ 20 คน มีกระบะมา 2 คัน มอไซค์ 3-4 คัน
ไอ้เราก็ไม่รู้กติกามันหรอกนะครับ ไอ้เราก็แค่ไปดูเพราะมันชวนไป
พอถึงตอนประกบเงิน ฝั่งละ 5พัน ทั้ง 2 กลุ่มมันก็เจรจากัน ให้ใครถือเงินดี
ไอ้เริงมันก็ หันมาทางผม แล้วก็บอกพวกนั้นว่า ให้พี่น้อยถือเงินดีกว่า เพราะผู้ใหญ่สุด จริงๆไอ้เริงมันก็รุ่นใกล้ๆกับผมนี่แหละ
มันกระแดะเรียกผม พี่ๆๆ ..เออ เอาก็เอาวะ แค่ถือเงิน ใครชนะก็มาเอาไป
แต่น แตน แต๊นนน เสียงเบิ้ลคันเร่ง ดังสนั่น ..รถทั้งสองคันออกแล้วครับ
แต่มีคันหนึ่งมันเป๊มาเบียดอีกคันหนึ่ง รถฝั่งสวนสยามส่ายมาหา รถไอ้เริง เด็กไอ้เริงก็หลบได้แล้วก็ไปกันต่อ
ไอ้เราก็งง ทางโน้นมันมีใครดูวะ ว่าใครถึงก่อน อย่างที่บอก ไม่รู้กฎกติการัยของมันหรอก
พอรถกลับมา เด็กไอ้เริงมันก็โวยวายๆ ทางฝั่งสวนสยามก็บอกคล้ายๆว่า ให้เอาใหม่
ทีนี้ทางไอ้เริง ออกลูกขมแล้วสิครับ แมร่งชักปืนออกจากเอว แล้วยิงขึ้นฟ้า ออกแนวว่า พวกมรึงโกงรัยทำนองนั้น
แล้วก็เดินมาหาผม พี่น้อย เอาเงินมาให้ผม นี่ตกลงมรึงจาปล้นกรูชั่ยป่าววะเนี่ย
เราก็เอาเงินให้มันไป แล้วต่างคนก็ต่างขับรถกลับบ้าน
เกือบไปแล้ว หากไอ้ฝั่งโน้นมันพกปืนมาด้วย มิยิงกันใส้ทะลักหรืวะเนี่ย ...เวรจริงๆ ไอ้เริงเอ๊ยยย
<iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/BXvNbtK5jD0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

sarapan

จากนั้นมันก็ไปๆมาๆหาสู่กับผมเป็นระยะๆ มันมีลูกน้องผู้ช่วยช่าง ชื่อไอ้อ้วน ไอ้นี่ทำรถเก่งมาก มาฝากไว้กับผม
ทีนี้พอมันรู้ว่าผมไปแข่งทางเรียบ มันก็อาสา มาทำ KR-1S ให้ผม แบบอ้อนวอนให้ผมทำเหอะนะพี่ๆๆ
เออ เอาก็เอา เพราะเราก็เห็นฝีมือมันทำ TZR มาแล้ว
มันก็มาทำที่บ้านผมเลยครับ รื้อผ่าเครื่อง มันเจียร์ - ทะลวง ตัดปีกลูกสูบ แบบว่าสูตรทางตรงของมันแหละครับ
ผมเห็นก้านสูบแล้ว อึ้ง เฮ้ย..ไอ้เริง นี่มันมีดทำครัวตราหัวม้าลายหรืองัยวะเนี่ย ทั่งบางทั้งคม แถมเงาแว๊บ
ไอ้เรานึกในใจ...มันจะรอดป่าววะ 15 รอบ แถมมีขึ้นเขา ไอ้รถทางตรงน่ะ มันขี่แค่ โลสองโล
แถมมันซี๊ซั๊วเจียร มันได้ชั่งน้ำหนักว่า 2 ข้างมันเท่ากันหรือป่าววะนั่น จริงๆแล้วมันต้องถ่วงข้อเหวี่ยงด้วยนะ
อ่ะ ไหนๆก็ไหนๆ มาถึงขั้นนี้ ถอยไม่ได้แล้วครับ
พักชมสิ่งที่น่าสนใจก่อนนะครับ
พรุ่งนี้มาต่อใหม่
<iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/BXvNbtK5jD0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

pepsi-leo.139



ลูก ผู้ชาย คำไหน คำ นั้น!! (FUCKER 1992
Group.)                               CAFE SHOP NAZI   Pepsi ออน 09.00-04.00ทุกวัน

150 se


089-111-9452  เชษฐ
ธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชี pichate moolchalee เลขที่ 0972180025

sarapan

ช่วงเวลานั้น ผมประกอบอาชีพ ค้ารถมอเตอร์ไซค์ใหญ่อยู่ครับ  จึงมีรถในบ้านอยู่พอสมควร  ช่วงว่างๆระหว่างรอเจ้า KR-1S โมดิฟาย
ผมก็เอา RGV -250 ปี 1990 ลาย PEPSI ลายของพี่ เคลวิน ชวานซ์  เค้า ตัวนี้เป็นตัว SP ซะด้วยแต่เป็นครัชเปียก
SP ย่อมาจาก Sport production แนวๆกึ่งแข่งกึ่งถนน รถประเภทนี้ เกียร์ 1 ยาวมากๆ แล้ว2-3-4-5-6 จะชิดกัน  
ผมก็เอาลงไปซ้อมทั้งยางเดิมๆที่ติดมา รถรุ่น SP มันจะปรับความแข็งอ่อนของช่วงล่างได้ทั้งหน้า-หลัง
ซูซูกิ ผมว่าองศาคอมันนอนไปหน่อย  ซ้อมไป ปรับช่วงล่างไป มันก็ไม่เข้าท่าเข้าทางสักที  ซ้อมได้ 7-8 รอบก็หมดแรง
ที่บอกว่า เกียร์ 1 มันยาวมากๆน่ะดีครับ ดีสำหรับสนามที่มีทางตรงเกิน 1 .5 กม. แต่ไม่เหมาะกับ สนามพีระ เพราะทางตรงมันแค่ 800 เมตร
รอบสนามแค่ 2.6 กม. (ขณะนั้น)ต่อมาภายหลังได้ข่าวว่าเค้าขยายไปอีก เป็น 3.2 กม. อันนี้ไม่แน่ใจเพราะไม่ได้ตามข่าว
ถ้าผมจำไม่ผิด สนามแข่งรถมาตรฐาน FIA มันจะต้องมีความยาวต่อรอบไม่น้อยกว่า 3.8 กม. นี่คือเหตุผลที่บ้านเราไม่สามารถ
จัดการแข่งขันระดับ อินเตอร์ฯได้ อย่างมากก็ระดับ อาเซี่ยน  อีกทั้งเรื่องความปลอดภัยของสนามก็ไม่ได้มาตรฐาน
หลังจากนั่งพัก ก็ได้พูดคุยกับ น้อย ณพงศ์ โพธิกุล (น้อยไรเดอร์) ตอนหลังมาเปิดร้าน Fast Conner อยู่แถวๆ ถ.นราธิวาส ฯ
น้อยเค้าก็บอกว่า พี่ปัน(เค้าเรียกผมว่า ปัน) เอา รถผมไปลองสิครับ รถของน้อยเป็น NSR 250 SP ปี 90 ครัชแห้ง สวิงอาร์มทรงมุมเบอร์แรง
เซ็ทช่วงล่างมาดีมาก ล้อแต่งผมจำยี่ห้อไม่ได้ ยางสลิค  ทำเครื่องและเปลี่ยนชุดไฟ แถมท่อสูตรโรงงานอีก
ผมก็รีบเลยสิครับ แค่เริ่มคร่อมลงไป จัดท่าทาง ก็รับรู้ได้ถึงความแตกต่าง ..เออ ช่วงมันพอดีเราเลยวุ๊ย การออกแบบเบาะนั่ง
อยู่ในตำแหน่งที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ องศาแฮนด์เหมาะมากๆ ไม่รู้เกี่ยวกับแฮนด์แต่งป่าวนะ
พอเริ่มออกตัว ผมก็ไปเรื่อยๆเพราะเพิ่งลองเป็นครั้งแรก  แต่พอถึงโค้งลงเขาแล้วเข้า S1 ผ่าน S2 แค่นั้น เราก็รู้แล้วว่า
..พระเจ้า จอร์จ มันยอดมวากกก  
การเข้าโค้งไม่ต้องใช้แรงมากมาย แค่ขยับตรูด ดึงข้อมือลงมา รถมันก็ทำตามสั่งแล้ว อีกทั้งเบรก แบรมโบ้ แค่แตะๆ
รถมันก็หยุดได้ดั่งใจแล้ว ขี่ไป 3-4 รอบ คิดในใจว่า เด๋วกรูขี่แมร่งออกสนาม กลับบ้านไปเลยดีกว่า  (ฮา)
พอกลับมาถึง พิท น้อยถามว่า เป็นงัยพี่  เราก็บอกว่า เออ ดีๆ ใช้ได้ ไม่ได้บอกรัยมากมาย เดี๋ยวเค้ารู้ว่ารถเรามันห่วยแตก
ได้เปรียบทุกตะรางนิ้ว
ผมให้เป็นอันดับ 1 เลยก็คือ ยางสลิค
มันเป็นยางที่ออกแบบมาสำหรับการแข่งขันโดยเฉพาะ องศาของหน้ายาง ความโค้งระหว่างยางหน้า-หลังมันสัมพันธ์กันอย่างเหนียวแน่น
ส่วนผสมของเนื้อยางใช้ส่วนผสมของในล่อนหรือโพลีเอสเตอร์น้อยมาก ทำให้เนื้อยางมีความเหนียวนุ่ม แต่สึกหรอเร็ว อากาศอย่างบ้านเรา
รอบแรกก็ซัดได้เต็มที่เลย ไม่ต้องวอร์มยาง
เบรคก็ไม่ไถล ถึงมีอาการแต่ก็เหนือกว่ายางถนนอย่างเทียบกันไม่ได้
แน่ล่ะ ยางสลิคหน้ากว้างมันก็ต้องคู่กับล้อสำหรับการแข่งขัน
ทั้งเครื่องยนต์ที่สมบูรณ์แบบ ช่วงล่างระดับแข่งขัน เบรกที่สั่งได้ตั้งแต่รอบแรก-รอบสุดท้าย
ที่บอกว่า เบรกที่สั่งได้ตั้งแต่รอบแรก-รอบสุดท้าย ผมจะอธิบายให้ฟัง
รถบ้านๆทั่วไป ใช้น้ำมันเบรกอย่างมากก็แค่ DOT 3 (สมัยนั้น) ผ้าเบรก ผสมใยหินธรรมดาๆ จานเบรกก็เป็นเหล็กธรรมดาๆ
รถผม 4-5 รอบแรกมันก็ยังเบรกได้เป็นปกติ แต่พอคุณไปทรมานมันมากๆเข้า น้ำมันเบรกก็มีอณหภูมิสูงขึ้น เกิดการขยายตัว
กำลังของน้ำมันก็ลดลงเนื่องจากความหนาแน่นลดลง เราก็ต้องใช้แรงบีบมากๆๆขึ้นไปเรื่อยๆ ถึงขีดที่เบรกมันรับไม่ไหว
มันก็จะทื่อๆไปงั้น เพราะในการแข่งขัน คุณต้องกำเบรกหน้าจนไข่(ลูกอัณฑะ)ถูกบดอัดกับถังน้ำมัน ล้อหลังเกือบไม่แตะพื้น
ท้ายรถมันจะส่ายไปๆมาๆ เพราะมันเริ่มจะลอยจากพื้น
แค่ยางกับเบรก ก็ทุ่นแรงไปแล้วครึ่งหนึ่ง แถมยังมีช่วงรถที่ขี่ง่าย เครื่องยนต์ที่จี๊ดจ๊าด  ..แต่ช่างมันเหอะ ก็เรามีแค่นี้ก็ต้องปรับปรุง
ตัวของเราเอง ประหยัดที่สุด แต่มันยากที่สุดอ่ะเดะ
คู่แข่งของผมก็กลุ่มเศรษฐีทั้งหลายแหละครับ
เพราะเป็นรุ่น 250 ซีซี เกรด C ไม่จำกัดรถ แต่จำกัดนักแข่งว่าต้องเป็นมือใหม่
หนึ่งในนั้นก็มี เจ้าของร้าน ซุปเปอร์ เค ไบค์ ย่านพัฒนาการ
ร้านขายมอไซค์ใหญ่ ระดับวงการไฮโซฯ  เหตุที่เค้าเปิดร้านมอไซค์น่ะ ไม่ได้หวังจะได้กำรี๊กำไรมาเป็นรายได้หลักของเค้าหรอกนะครับ
เค้าเปิดเพราะตัวเองสนใจ อยากขี่ ก็เลยเปิดร้านมันซะเลย  จ้างช่างจ้างพนักงานมาดูแล อยากขี่รุ่นไหนก็ไปซื้อมาขาย
ท่านๆน่าจะคุ้นๆ นามสกุล จาติกวณิชย์ บ้างนะครับ  
อีกราย  วิกรม ร้านเร็ดบารอน  เจ้านี้ก็ของเพียบ แถมมีพี่ยุ่นหนับหนุนอุปกรณ์การแข่งขัน
แล้วก็มี แช็มป์สนามที่แล้ว ตี๋ สุพจน์ นี่ก็เปิดร้าน ขายรถใหญ่อยู่ ที่ปราจีน
ที่บอกว่าคู่แข่งของผมน่ะ คือกลุ่มนี้ครับ เพราะประเภทไม่ใช่นักแข่งอาชีพ มือใหม่จริงๆ แต่อย่างพวกทีมมีสังกัด เช่น สุระพล จันทร์ทัต
เด็ก อาจารย์ น้อย สังข์สุวรรณ  นี่ไม่ใช่คู่แข่ง เพราะเค้าประเภทมืออาชีพ ไม่มีทางที่ผมจะไปเทียบชั้นกับเค้าได้
       
<iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/BXvNbtK5jD0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

pepsi-leo.139



ลูก ผู้ชาย คำไหน คำ นั้น!! (FUCKER 1992
Group.)                               CAFE SHOP NAZI   Pepsi ออน 09.00-04.00ทุกวัน

sarapan

อ่ะ เสร็จซะที เจ้า KR-1S
เจ้าเริงเค้าก็ประกอบเรียบร้อย ลองติดเครื่อง จูนโน่นนี่จบ ยกขึ้นรถ แต่มันยังต้องไปปรับจูนที่สนามอีกรอบ
เพราะที่บ้าน มันเป็นหมู่บ้านจัดสรรครับ หากมาเร่ง แปร็นๆๆ สงสัยจะมีอะไรลอยข้ามรั้วบ้านมาแน่นอน
ว่าแล้วก็ยกขึ้นรถไปสนาม ถึงสนามก็น่าจะประมาณ บ่ายๆ นักแข่งก็มากมาย มาซ้อมรถกันเป็นทิวแถว
ทั้งรถยนต์ มอไซค์    ผมก็ถอยรถเทียบทางขึ้นสำหรับ มอไซค์ แล้วผมก็เดินไปทักทายคนโน้น คนนี้
อ้อ มี โหน่ง ร้านอินเตอร์ไบค์ หน้าเรือนจำลาดยาว ร่วมแข่งด้วย  ส่วนใหญ่ก็อย่างที่บอกแหละครับ
คนที่มาลงแข่ง ก็ร้านขายรถใหญ่ ซะเกินครึ่ง ทั้ง อุ๊ ดินแดง  วิกรม เร็ด บารอน  น้อย ไรเดอร์  ป๊อบ ซุปเปอร์ เค
เค้าจะไม่ลงแข่งคันเดียว เค้าจะมีคู่หู ลูกทีมลงประกบ เป็นคู่ๆ มีแต่ผมเท่านั้นที่มาเดี่ยวๆ
เชื่อได้เลยว่า ทุกคนที่แข่งรุ่นเดียวกับผม ต้องจับตาดูผมอย่างไม่ละสายตา
จากครั้งที่แล้ว รถคันละ หมื่นห้า ทำให้หลายๆคนที่ขี่รถคันละ แสนห้า ต้องอยู่ข้างหลังผม  แต่มาครั้งนี้
ผมได้รถใหม่ พร้อมปรับแต่งเครื่องยนต์  มันก็ต้องเป็นที่น่าจับตามอง สำหรับ เศรษฐีทั้งหลาย
รถพร้อม ผมก็เปลี่ยนชุดเรียบร้อย เจ้าเริงก็ให้ผมออกไปลอง  ผมอ่านใจเจ้าเริงว่า มันคงอยากจะแจ้งเกิดในสนามแข่ง
เป็นแน่แท้ หลังจาก ทำแต่รถแข่งข้างถนน มากว่าครึ่งชีวิต
เริ่มสตาร์ทเครื่อง
ตั้งแต่เริ่มคร่อมรถ ใครต่อใครก็เดินเข้ามาดู คาวา หนึ่งเดียวในสนามที่ผมกำลังจะลงไปโชว์ความแรง แบบให้หนาวกันถ้วนหน้า
พอเครื่องติด ผมก็ปล่อยเรอบเครื่องเดินเบา พร้อมทั้ง โยกหน้า โยกหลัง เพื่อสังเกตอาการของช่วงล่าง สังเกตหน้ายาง ว่ามันยืดหยุ่น
มากน้อยเกินไปหรือไม่ สำหรับรถแข่งทางเรียบ ผมใช้แรงดันยางหน้า 35 ยางหลัง 38 เพราะหากปล่อยแรงดันต่ำมากไป การเค้าโค้ง
โครงยางมันจะดิ้น คือมันจะให้ตัวมากเกินไป แต่ถ้าเป็น นักแข่งระดับเทพ เค้าจะอัดลมแข็งกว่านี้ครับ เพราะพวกนั้นเค้าเข้าโค้งได้แรง
กว่ามือระดับผมมากมาย
รอบทะลุหมื่น แค่ขยับข้อมือ
เป็นครั้งแรกที่ได้เร่งเต็มที่ หลังจากที่เจ้าเริงมัน เจียร ปาด ขัด แบบที่มันต้องการ เพราะในสนามแข่ง ไม่มีใครมาด่าว่าหนวกหูหรอกครับ
ผมก็เบิ้ลๆๆ ในใจน่ะ ตั้งใจจะข่มคู่แข่ง ที่ยืนดูอยู่ใกล้ๆ ว่าเห็นมะ ว่ามันจี๋ดขนาดไหน กะให้ขี้หด ตดหายกันไปเลย
เสียงเครื่องหวีดร้อง แว๊ด ๆ แว๊ดดดด  ผมแช่ไปหมื่นสามพันรอบ ผมว่าไม่น่าจะถึง 3 วินาที มันก็มีเสียงดังกรับ และก็ตามด้วยเสียงเหมือน
ทุบมะพร้าว ...โพ๊ละ แล้วทุกอย่างก็เงียบ ทุกคนที่ยืนคอยสังเกตการณ์ แปลงร่างเป็นไทยมุงทันที 'เฮ้ยพี่ปัน'   เสียง ของใหญ่ ช่างเครื่อง ไรเดอร์ คลับ
ตะโกนลั่น แคร็งค์แตกเลยพี่ น้ำมันไหลโจ๊ก นองเต็มพื้น  ผมก็ให้เอาแสตนด์มารองรถ ลงมาก้มดู แมร่ง รูเบ้อเริ่ม ก็ก้านมันหักมาตีแคร็งค์
เหมือนอย่างที่คิดไว้เลย เพราะผมก็สงสัยแล้วว่า พอเกินหมื่นรอบ มันมีอาการแกว่งๆของรอบเครื่อง เพราะก้าน 2 ข้างมันหนักไม่ไท่ากัน
แล้วงัยล่ะทีนี้ อาทิตย์หน้าก็จะแข่งแล้ว กรูจะขี่อะไรไปแข่งกะเค้าล่ะทีนี้  โดนเจ๊ด่าหูแฉะแน่เลยตรู

ว่าแล้ว น้อย ไรเดอร์คลับ เค้าก็เดินมาบอกผม พี่ปันๆ เอารถผมแข่งก็ได้พี่ ผมมี NSR ปี 1988 อยู่ เป็นรถซ้อม
<iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/BXvNbtK5jD0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

pepsi-leo.139



ลูก ผู้ชาย คำไหน คำ นั้น!! (FUCKER 1992
Group.)                               CAFE SHOP NAZI   Pepsi ออน 09.00-04.00ทุกวัน

HS7QBT

HS7CXL Service Centre.
160 Khunpan Road. Tambon Tharahad. Muang Suphanburi 72000
Tel : (66) 08 6516 5729

ไจ้ ณ.โซนรั่ว

เเด่เซียนคาวาผู้ล่วงลับ ขอบคุณท่านเจ้าของภาพพี่เปิ้ลภูเก็ตด้วยครับ
ทีมงานพลังธรรมชาติ

sarapan

#135
แถวหน้า คนกลาง ( คุณ แปลก บูรณะพิมพ์) น้าแปลก คิดว่าน่าจะเป็นช่างที่ อาวุโสที่สุดของ PDK มีอีก 1 คน ชื่อ คุณ ต๊อก เป็นวิศวกร (ไม่มีในภาพ)
แถวหน้า ที่ 2 จากซ้าย คุ้นๆหน้า จำชื่อไม่ได้รู้สึกว่าเป็นทั้งช่างและนักแข่งด้วย
แถวหลัง ด้านขวา เจี๊ยบ พี่ชาย ณัฐวุฒิ เจริญสุขวัฒน ภายหลังเป็นช่างทำ Jet Ski ให้ เจ เจตรินทร์ และ แดง มนเทียร เศรษฐี พันล้าน
เจี๊ยบเสียไปนานแล้วครับ  


ภาพด้านล่าง
ช่าง ศูนย์ คาวาซากิ กลอรี่ พระราม 9
จากซ้าย ยงค์ (ถัดมาเป็น ผมเอง ช่างเถอะ) และขวาสุด เป็น ตู่  ที่ผมไปเม็นท์ในกระทู้คุณ เปิ้ล สติ๊กเกอร์ ภูเก็ต
ถึง ไอ้ตู่ เพราะเนื้อหาจาก นิตยสารฯ ไม่ตรงกับความจริง
เดี๋ยวหาจังหวะดีๆ มีเรื่องเล่ามากมาย เกี่ยวกับวงการ นิตยสาร ไม่ว่า 2 ล้อ 4 ล้อ แมร่ง ผลประโยชน์ล้วนๆ
เพราะ หนังสือน่ะ มันพูดข้างเดียว (ทีวีก็เหมือนกัน) จริงเท็จอย่างไร เราไม่สามารถ โต้ตอบได้
ไม่เหมือนยุค IT มั่วๆมา โดนสวนแน่นอน แต่ก็อีกล่ะ พวกเกรียนๆมันก็เยอะ เม็นท์กันลอยๆ ไม่มีหลักฐานหรือ การแสดงตัวตน
อย่างนี้ก็เชื่อไม่ได้ เกือบ 10 ปีก่อน ผมก็ไล่ซะจนมุมไปเยอะแยะ ในกระทู้พันธุ์ทิพย์
แบบว่า คนเค้ามาถามเรื่อง BMW E34 แมร่งก็มีพวก รู้ไม่จริง ฟังเค้ามาครึ่งๆกลางๆ มาตอบปัญหา
ผมน่ะไม่อยากจะโม้ E34 น่ะ สมัยก่อนผมรื้อมาทั้งคันแล้ว ผมเคยใช้ 535 I มีอยู่ไม่กี่คันในไทย
ซ่อมเองทุกอย่าง ศึกษาข้อมูลลึกยิ่งกว่าศูนย์ ยนตรกิจ ไอ้ประเภทมาตอบมั่วๆอยู่หน้าจอ แล้วไม่รับผิดชอบ
คนเค้าอ่านแล้วก็เชื่อไปตามนั้น สรุป..ฉิบหาย แล้วไอ้คนตอบมันก็ไม่รู้มาจากไหน ทำให้สังคม ออนไลน์ไม่มีความน่าเชื่อถือ
เมื่อก่อนน่ะ ผมแจกเบอร์โทรให้พวกเกรียนเป็นประจำ แมร่งไม่เห็นมันโทรมาสักตัว
จนโดนยึด อมยิ้มในพันธุ์ทิพย์ไปแล้วครั้งนึง
.....พอก่อนดีกั่ววว ชักจะไปกันใหญ่ พูดถึงเรื่องเกรียนทีรัย แล้วมันขึ้นทุกทีครับ
ขอ อภัย พี่ๆน้องๆด้วยนะครับ  

<iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/BXvNbtK5jD0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

ไจ้ ณ.โซนรั่ว

ขอบคุณมากครับพี่จริงๆแล้วรูปด้านบนผมก็รู้จักพี่เจี๊ยบแค่คนเดียวครับ
ทีมงานพลังธรรมชาติ

sarapan

บรรยากาศ การซ้อมเตรียมการแข่งขัน ประจำวันของผม
มีอยู่วันหนึ่ง เจ๊แดง บุกถึงรัง วงแตกสิครับ ไล่ให้ผมไปนอน แกบอก ...เฮ้ย จะแข่งรถมันยังมานั่งแดรกเหล้ากันได้ทุกคืน
...แหมๆ เจ๊ครับ มันเป็นการ ออกกำลังกล้ามเนื้อแขน ผมน่ะใช้แรงยกแก้วคืนละไม่ต่ำกว่า 200 ครั้งนะครับ
บางทีน้องมันไม่ว่าง ก็ต้องลุกตักน้ำแข็งเอง นี่มันเป็นการออกำลังนะคร๊าบบบบ อิอิอิ
ผมน่ะ ใส่แจ็คเก็ต สีแดง Plicana ซื้อมาจากญี่ปุุ่น ลดราคาเมื่อ 20 กว่าปีก่อน จำได้แม่น ราคา 5,500 บาท
...แต่เดี๋ยวก่อน ตอนนี้ยังใส่อยู่ คิดดูแล้วกัน ใส่ขี่มอไซค์มาเป็น แสน กม. แถมใส่ใน ฤดูหนาวสำหรับชีวิตประจำวันด้วย
ซักมาเป็นร้อยครั้ง มันยังไม่พัง คิดดูว่ามันถูกหรือแพง ปัจจุบันยังใส่อยู่เลยครับ
เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ผมไปตัดเสื่อขี่ มอไซค์ที่ 118 ไบค์ แถวๆซ.อาภาภิรมย์ ราคา 3,800 บาท
ใส่ไม่ถึง 1000 กม. ซักไป 5-6 ครั้ง แมมร่ง ขาดกระจุย ขาดเพราะซัก ..เออ ถ้าล้มไปสงสัยมันจะละลายไปกับยางมะตอย
ปล.
ใครรู้จักร้านซ่อม ปะเย็บ เสื้อแจ็คเก็ต หรือ ประเภทเป้-กระเป๋า เป็นผ้า คอนดูร่า แนะนำหน่อยครับ
เสียดาย ใส่ยังไม่ทันไร



รถที่ใช้อยู่ประจำ สมัยนั้น ไปมาทั่วประเทศแล้วครับ คาวา ZX-10
ถ.พระราม 9 ตัดใหม่ ตอนนั้นยังไม่สร้างแยกเลียบด่วน มันไปได้ 270 กม./ชม.
เคยซัดกับมือระดับโลก ชาวฝรั่งเศษ บนถนนในบ้านเราตอนนั้น น้ำมัน TOTAL เอานายคนนี้มาเปิดตัว
เค้าขี่ SU-GSX-R1100 ไปไหนไปกัน ตรงๆยาวๆ มือระดับโลกมันก็ไล่ ZX-10เหนื่อยเหมือนกันแหละครับ  
โชคดีที่ยังรอดชีวิตมานั่งเล่าอะไรๆให้เพื่อนๆฟังจนถึงทุกวันนี้

<iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/BXvNbtK5jD0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

sarapan

สุดท้ายก่อนลาวงการมอไซค์ ก็เจ้าคันสีฟ้านี่แหละครับ
เอาไว้ล่าเหยื่อ ยามราตรี ไม่มีพลาด
ไปเที่ยวกับเพื่อนๆ มี E220 โวลโว่ 960 เสร็จ เจ้า เฮอริเท็จหมดครับ
ขี่ไปคนเดียว ขากลับมันต้องมีคนซ้อนกลับด้วยทุกคืน ขุนแผน อเมริกัน ขลังจริงๆ


เดี๋ยวค่อยมาต่อ การแข่งขันนะครับ แหกโค้งอีกแล้วเรา อิอิอิ
<iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/BXvNbtK5jD0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

pepsi-leo.139

แจ็คเก็ต สีแดง Plicana  อยุ่ มั๊ย  พี่  ขอ ชม หน่อย


ลูก ผู้ชาย คำไหน คำ นั้น!! (FUCKER 1992
Group.)                               CAFE SHOP NAZI   Pepsi ออน 09.00-04.00ทุกวัน