Main Menu

ถ้าจะทำ ls125 topspeed 220 km./h วิ่งออกทริป แบบทนๆถึกๆ ขอความเห็นพี่ๆชาวเว็บคับ

เริ่มโดย mai-bangkae, กุมภาพันธ์ 06, 2014, 02:21:26 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 4 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

2T-BBT

เป็นกำลังใจให้คับ ออกทริปต้องเน้นทน เพราะพังหาที่ซ่อมลำบาก ร้อนก้ร้อน เรื่องความเร็วปลาย ถือว่าเป็นของแถมแล้วกันคับ สู้ๆ

songmoung

Kawasaki KRR2 by S_Nundrakwang Lab.

Mtz

   เห็นกระทู้นี้ น่าสนใจดี  เพระาเป็นการ"ก้าวข้ามขีดจำกัดของรถ"  ซึ่ง ผมชอบเชียร์มวยรอง เพราะผมเคยเป็นมวยรองมาตลอด   จึงขออนุญาติ จขกท ออกความเห็นในส่วนของผมนะครับ (ขอแจ้งไว้ก่อนนะครับ ไม่ได้พาดพิงถึงใคร แต่มันเป็นประสบการณ์ที่เจอจากการออกทริปมาตลอด4ปีที่เล่นเวปนี้ล้วนๆ ต้องขอขอบคุณเพื่อนร่วมทางทุกท่านครับ)
 
 ในส่วนรถ150 CC  แช่ยาวๆ 120-140 ระยะทางไป กลับตลอดทริป 1400กิโล ก็ถือว่ายังไปไหว รถเดิมๆนะ รถแต่งเต็มๆแรงๆเจอรถเดิมๆแช่ยาวๆไม่ยกคันเร่ง เห็นแช่ยาวตามรถเดิมๆไม่รอดซักราย  
    (ส่วนใหญ่ผมออกทริปประมาณนี้ ไป กลับขั้นต่ำ 1000 กิโลขึ้นไป ออกบ่อย แต่ไม่เน้นทำเครื่องทุกทริป เพราะจนไม่มีตังทำ  OK นะ  ) สำหรับผม ว่าสุดๆของสองจังหวะแล้วนะ  (ไม่นับรถประเภท รถที่พี่ๆเขามีเงินดูแลรถถึงขั้น " ผ่าเครื่องก่อนออกทริปทุกครั้ง" อันนั้นผมไม่นับ ) เพระาผมถือว่า การที่รถจะสามาร"ใช้งานได้จริง" ที่ย่านความเร็วสูงๆ  แล้วบอกว่ารถคันนี้"สเถียร" คือ หมายถึงว่ารถคุณต้องใช้งานได้หลายๆทริป ขั้นต่ำ20000กิโล  แล้วหลวม หรือต้องผ่ามาดูแลใหม่ แบบนี้ถึงจะเรียกว่าได้ทำการปรับจูนมาสามารถใช้งานได้จริง (ขอยกตัวอย่าง รถของพี่วิท  Witt rrw ออกทริปด้วยกันมาสามปี ปีๆนึงไม่ต่ำกว่า3-4ทริป ลากกันยาวๆ 120-140 KM/H  ถ้าไปกันสองคันกะแก ผมกดกัน140-160 ตลอดเส้นทาง เติมน้ำมันทุก120กิโล นั้นหมายถึงว่า แช่ยาวๆ140-160 เป็นระยะทาง100กิโลขึ้นไป  แกไม่เคยผ่าเครื่องใหม่เลย เต็มที่ก็ล้างคาร์บู จูนเพิ่มน้ำมันไปตามเรื่อง )
  แต่ถ้าประเภทเซตมาวิ่งได้ทริปเดียวสองทริปแล้วบอกว่า  "นี้ไง รถผมก้ออกทริปได้ แรงด้วย" อันนี้เจอมาเยอะ  พวกนี้ ชวนออกทริปไกลๆส่ายหน้าหมด  แต่ออกทริปใกล้ๆขี่แบบตดไม่ทันหายเหม็นนี้ พระเอกอย่างไว ออกนำเลย แค่ระยะทางไป กลับ500 กิโล อันนี้มันเด็กๆเกินไปครับ รถเน่าๆที่ไหนก็ไปได้ ไม่ต้องลงทุนทำเทพหรอก
 
    ทีนี้ที่มาของการที่ผมชอบมาเชียร์รถที่ก้าวข้ามขีดจำกัดละทีนี้ ว่า มันมีเหตุมากจากการที่ผมรัก TZXM และอยากปั้นให้มันขึ้นมาวิ่งได้ไม่น้อยหน้าใคร  แต่จากการไปร่วมออกทริป มิตติ้งกับเพื่อนๆสายยี่ห้ออื่น ปรากฎว่า เขามองว่า" ยามาฮ่า รถกาก เดินทางไกลไม่รอดหรอก" ขนาดออกทริปเดินทางไกลด้วยกัน  พอเห็นผมไป ยังบอกว่า"ขับช้าๆกันหน่อย มีTZMมาด้วย" แล้วก็วิ่งยืนพื้น100ตลอดทาง เสมือนหนึ่งเรามาเป็นภาระให้ก๊วนเขา  ทั้งที่ผมบอกแล้วว่า"รถผมยืนพื้น120-140ได้  ไม่ต้องรอ"  :)

   อันนี้ TZMเน่าๆของผม   เวอร์ชั่นนี้ ยินพื้น120-140 กรุงเทพ-โคราช ระยะทางไปกลับ 500 กิโลเมตร เป็นประจำ เดือนละสองหน เป็นเวอร์ชั่นแรกที่โดนดูถูกสวดๆ รถคนจน เอาอะไรนักหนา  ::)  ความเร็วปลายได้แค่160 ..........ทีี่สุดของแจ้แล้ว  


  เวอร์ชั่นนี้พอมีตังทำรถหน่อย ทำเครื่องใส้ในแท้หมด ก็ใช้ทน  และเป็นเวอร์ชั่นที่ใช้งานรถมากที่สุด 30000กิโลภายในสองปี (ขี่ออกทริปอย่างเดียว เพระาขี่ทำงานใช้เวฟน้อย100เดียว) ยืนพื้นเริ่มขยับขึ้นมาที่140-160 (ซึ่งรอบเครื่องค่อนข้างสูง  รู้เลยเครื่องเริ่มเครียด)  กรุงเทพ โคราช ระยะทางเท่าเดิม  แต่ออกทริประดับ1000กิโล บ่อยมาก สภาพนี้ความเร็วปลาย180ได้อยู่  >:(


 เวอร์ชั่นต่อมา ลดน้ำหนักรถลง เปลี่ยนเครื่อง เปลี่ยนค่าย มาใช้ NSR  สภาพนี้ ก็ใช้งานโหดเช่นเดิม เพราะเปลี่ยนรถไม่เปลี่ยนคนขี่ เริ่มปรับแต่งเครื่องยนต์
        "ลด"ตกำลังที่จะออกมารอบสูง   ของรถไม่เน้นความเร็วปลายระดับ200  
       "เพิ่ม"แรงบิด   เครื่องยน์เพื่อให้ใช้การเค้นรอบน้อย แต่กำลังออกมาเยอะ
     เพิ่มความทนทานให้สามารถเดินทางในย่านความเร็วที่สูง โดยที่รถไม่เครียดมาก  ความเร็วสูงสุดที่ทำได้ 180  แต่ความเร็วเดินทาง150-170 แช่ยาวๆ100-200 กิโลไม่ต้องยกได้ สบายๆ (อย่านึกว่าผมบ้าพลัง ถ้าคุณเป็นผม คุณจะรู้ว่าทำไมต้องขี่เร็วขนาดนี้ ทำไมต้องรีบทำเวลา  เพราะผม มีเวลาอยู่ด้วยกันน้อย จึงต้องรีบทำเวลาในการเดินทาง กรุงเทพ-โคราาช ระยะทางไปกลับ500กืโลให้สั้น เพื่อให้มีเวลาให้กันมากขึ้น  สภาพนี้ ผมตื่นตี4 ขี่รถมาทำงานจากโคราช-กรุงเทพจะทุกเช้าวันจันทร์นะครับ  เลยต้องทำเวลามาให้ทันเข้างานด้วย :( )




จะบอกว่า การคิดต่างไม่ผิดครับ คิดนอกกรอบแบบนี้ ผมชอบนะ  อ่านแรกๆผมมองเหมือน จขกท ออกแนวเกรียน  แต่เท่าที่ติดตามมาสองสามวัน  ผมมองว่า จขกท คนนนี้ มีอะไรลึกๆในตัวแน่  ไม่งั้นไม่กล้ามาตั้งคำถามล่อเป้าขนาดนี้  
   รอชมและติดตามกระทู้ครับ

smash756

ชัด เจน เลย ครับพี่ โดนมักมาก พี่.. Mtz  อ่าน ตลอดทุกตัวอักษร สุดยอด นี่แหละแฟนพันแท้ ทางไกล ประสบการณ์+ใจรัก

เลยจัดหั้ยไป 1 ม้า ละ กัน...
ติดต่อผมได้ทาง... facebook
http://www.facebook.com/profile.php?id=100003760232964#!/
ลิ้งค์เช็คสถานะ EMS ครับ http://track.thailandpost.co.th/trackinternet/
LS 125...ใครมีก้อ ลงกันมาเยอะๆ นะครับ...(ซ้ำไม่เป็นใรครับ) http://2strokeclub.com/smf/index.php?topic=20224.0

เดช..ไอ้เสื้อทอง

ใช่เลย ครับ .... สังคมไทย เรา  ปิดกั้น ความกล้า ความคิดที่ดี มามาก พอแล้ว 

ไม่ต้องอะไร มาก   ...เอาแค่  มีเด็กวัยรุ่น คนนึง ออกมา พูด ร หรือ ล ควบกล้ำ อย่างชัดเจน ในวงเพื่อนด้วยกัน  ก็มีเหมือนจะมี ความผิด แล้ว ล่ะ   


นี่คือเรื่อง จริง ครับ


อิอิ


.
" ความซื่อสัตย์ จะสร้างความสุขที่แท้จริง  ให้แก่เรา  "


เด็กชาย_โหน่ง_

อ้างจาก: Mtz เมื่อ กุมภาพันธ์ 10, 2014, 12:37:17 ก่อนเที่ยง
   เห็นกระทู้นี้ น่าสนใจดี  เพระาเป็นการ"ก้าวข้ามขีดจำกัดของรถ"  ซึ่ง ผมชอบเชียร์มวยรอง เพราะผมเคยเป็นมวยรองมาตลอด   จึงขออนุญาติ จขกท ออกความเห็นในส่วนของผมนะครับ (ขอแจ้งไว้ก่อนนะครับ ไม่ได้พาดพิงถึงใคร แต่มันเป็นประสบการณ์ที่เจอจากการออกทริปมาตลอด4ปีที่เล่นเวปนี้ล้วนๆ ต้องขอขอบคุณเพื่อนร่วมทางทุกท่านครับ)
 
  ในส่วนรถ150 CC  แช่ยาวๆ 120-140 ระยะทางไป กลับตลอดทริป 1400กิโล ก็ถือว่ายังไปไหว รถเดิมๆนะ รถแต่งเต็มๆแรงๆเจอรถเดิมๆแช่ยาวๆไม่ยกคันเร่ง เห็นแช่ยาวตามรถเดิมๆไม่รอดซักราย 
     (ส่วนใหญ่ผมออกทริปประมาณนี้ ไป กลับขั้นต่ำ 1000 กิโลขึ้นไป ออกบ่อย แต่ไม่เน้นทำเครื่องทุกทริป เพราะจนไม่มีตังทำ  OK นะ  ) สำหรับผม ว่าสุดๆของสองจังหวะแล้วนะ  (ไม่นับรถประเภท รถที่พี่ๆเขามีเงินดูแลรถถึงขั้น " ผ่าเครื่องก่อนออกทริปทุกครั้ง" อันนั้นผมไม่นับ ) เพระาผมถือว่า การที่รถจะสามาร"ใช้งานได้จริง" ที่ย่านความเร็วสูงๆ  แล้วบอกว่ารถคันนี้"สเถียร" คือ หมายถึงว่ารถคุณต้องใช้งานได้หลายๆทริป ขั้นต่ำ20000กิโล  แล้วหลวม หรือต้องผ่ามาดูแลใหม่ แบบนี้ถึงจะเรียกว่าได้ทำการปรับจูนมาสามารถใช้งานได้จริง (ขอยกตัวอย่าง รถของพี่วิท  Witt rrw ออกทริปด้วยกันมาสามปี ปีๆนึงไม่ต่ำกว่า3-4ทริป ลากกันยาวๆ 120-140 KM/H  ถ้าไปกันสองคันกะแก ผมกดกัน140-160 ตลอดเส้นทาง เติมน้ำมันทุก120กิโล นั้นหมายถึงว่า แช่ยาวๆ140-160 เป็นระยะทาง100กิโลขึ้นไป  แกไม่เคยผ่าเครื่องใหม่เลย เต็มที่ก็ล้างคาร์บู จูนเพิ่มน้ำมันไปตามเรื่อง )
   แต่ถ้าประเภทเซตมาวิ่งได้ทริปเดียวสองทริปแล้วบอกว่า  "นี้ไง รถผมก้ออกทริปได้ แรงด้วย" อันนี้เจอมาเยอะ  พวกนี้ ชวนออกทริปไกลๆส่ายหน้าหมด  แต่ออกทริปใกล้ๆขี่แบบตดไม่ทันหายเหม็นนี้ พระเอกอย่างไว ออกนำเลย แค่ระยะทางไป กลับ500 กิโล อันนี้มันเด็กๆเกินไปครับ รถเน่าๆที่ไหนก็ไปได้ ไม่ต้องลงทุนทำเทพหรอก
   
     ทีนี้ที่มาของการที่ผมชอบมาเชียร์รถที่ก้าวข้ามขีดจำกัดละทีนี้ ว่า มันมีเหตุมากจากการที่ผมรัก TZXM และอยากปั้นให้มันขึ้นมาวิ่งได้ไม่น้อยหน้าใคร  แต่จากการไปร่วมออกทริป มิตติ้งกับเพื่อนๆสายยี่ห้ออื่น ปรากฎว่า เขามองว่า" ยามาฮ่า รถกาก เดินทางไกลไม่รอดหรอก" ขนาดออกทริปเดินทางไกลด้วยกัน  พอเห็นผมไป ยังบอกว่า"ขับช้าๆกันหน่อย มีTZMมาด้วย" แล้วก็วิ่งยืนพื้น100ตลอดทาง เสมือนหนึ่งเรามาเป็นภาระให้ก๊วนเขา  ทั้งที่ผมบอกแล้วว่า"รถผมยืนพื้น120-140ได้  ไม่ต้องรอ"  :)

    อันนี้ TZMเน่าๆของผม   เวอร์ชั่นนี้ ยินพื้น120-140 กรุงเทพ-โคราช ระยะทางไปกลับ 500 กิโลเมตร เป็นประจำ เดือนละสองหน เป็นเวอร์ชั่นแรกที่โดนดูถูกสวดๆ รถคนจน เอาอะไรนักหนา  ::)  ความเร็วปลายได้แค่160 ..........ทีี่สุดของแจ้แล้ว 


   เวอร์ชั่นนี้พอมีตังทำรถหน่อย ทำเครื่องใส้ในแท้หมด ก็ใช้ทน  และเป็นเวอร์ชั่นที่ใช้งานรถมากที่สุด 30000กิโลภายในสองปี (ขี่ออกทริปอย่างเดียว เพระาขี่ทำงานใช้เวฟน้อย100เดียว) ยืนพื้นเริ่มขยับขึ้นมาที่140-160 (ซึ่งรอบเครื่องค่อนข้างสูง  รู้เลยเครื่องเริ่มเครียด)  กรุงเทพ โคราช ระยะทางเท่าเดิม  แต่ออกทริประดับ1000กิโล บ่อยมาก สภาพนี้ความเร็วปลาย180ได้อยู่  >:(


  เวอร์ชั่นต่อมา ลดน้ำหนักรถลง เปลี่ยนเครื่อง เปลี่ยนค่าย มาใช้ NSR  สภาพนี้ ก็ใช้งานโหดเช่นเดิม เพราะเปลี่ยนรถไม่เปลี่ยนคนขี่ เริ่มปรับแต่งเครื่องยนต์
         "ลด"ตกำลังที่จะออกมารอบสูง   ของรถไม่เน้นความเร็วปลายระดับ200 
        "เพิ่ม"แรงบิด   เครื่องยน์เพื่อให้ใช้การเค้นรอบน้อย แต่กำลังออกมาเยอะ
      เพิ่มความทนทานให้สามารถเดินทางในย่านความเร็วที่สูง โดยที่รถไม่เครียดมาก  ความเร็วสูงสุดที่ทำได้ 180  แต่ความเร็วเดินทาง150-170 แช่ยาวๆ100-200 กิโลไม่ต้องยกได้ สบายๆ (อย่านึกว่าผมบ้าพลัง ถ้าคุณเป็นผม คุณจะรู้ว่าทำไมต้องขี่เร็วขนาดนี้ ทำไมต้องรีบทำเวลา  เพราะผม มีเวลาอยู่ด้วยกันน้อย จึงต้องรีบทำเวลาในการเดินทาง กรุงเทพ-โคราาช ระยะทางไปกลับ500กืโลให้สั้น เพื่อให้มีเวลาให้กันมากขึ้น  สภาพนี้ ผมตื่นตี4 ขี่รถมาทำงานจากโคราช-กรุงเทพจะทุกเช้าวันจันทร์นะครับ  เลยต้องทำเวลามาให้ทันเข้างานด้วย :( )




จะบอกว่า การคิดต่างไม่ผิดครับ คิดนอกกรอบแบบนี้ ผมชอบนะ  อ่านแรกๆผมมองเหมือน จขกท ออกแนวเกรียน  แต่เท่าที่ติดตามมาสองสามวัน  ผมมองว่า จขกท คนนนี้ มีอะไรลึกๆในตัวแน่  ไม่งั้นไม่กล้ามาตั้งคำถามล่อเป้าขนาดนี้   
    รอชมและติดตามกระทู้ครับ

คนพวกนี้เขาบ้าพลัง ครับ อย่าไปยุ่งกะเขา ฮา าาาาา

อย่าเรียกผมว่า"ช่าง"ผมไม่ใช่ "ช่าง"ผมไม่ชอบ
"จน" แล้วยังไม่"เจียม"เงินหน่ะมีน้อยใช้สอยให้คุ้มค่า ใช้ปัญญาให้เยอะ ๆ หวังว่าน่าจะได้"รถซิ่ง"ค่อนข้างดีซักคันเอาไว้คลุ้มคลั่ง บ้าพลังกับเขาบ้างก็พอ
"แรงตามเงิน"


Hunterzero

ก็นะฮะนินจาคันใหม่ก็ฟาดไปหมื่นห้าพันโลแบบขนมๆเวลาไม่ถึง4เดือนดี 

ฅนดี ไร้ที่ฝัง ก็มีคนสรรเสริญ
Heart Under Blade

Tong_2T_150

อ้างจาก: Mtz เมื่อ กุมภาพันธ์ 10, 2014, 12:37:17 ก่อนเที่ยง
   เห็นกระทู้นี้ น่าสนใจดี  เพระาเป็นการ"ก้าวข้ามขีดจำกัดของรถ"  ซึ่ง ผมชอบเชียร์มวยรอง เพราะผมเคยเป็นมวยรองมาตลอด   จึงขออนุญาติ จขกท ออกความเห็นในส่วนของผมนะครับ (ขอแจ้งไว้ก่อนนะครับ ไม่ได้พาดพิงถึงใคร แต่มันเป็นประสบการณ์ที่เจอจากการออกทริปมาตลอด4ปีที่เล่นเวปนี้ล้วนๆ ต้องขอขอบคุณเพื่อนร่วมทางทุกท่านครับ)
 
  ในส่วนรถ150 CC  แช่ยาวๆ 120-140 ระยะทางไป กลับตลอดทริป 1400กิโล ก็ถือว่ายังไปไหว รถเดิมๆนะ รถแต่งเต็มๆแรงๆเจอรถเดิมๆแช่ยาวๆไม่ยกคันเร่ง เห็นแช่ยาวตามรถเดิมๆไม่รอดซักราย 
     (ส่วนใหญ่ผมออกทริปประมาณนี้ ไป กลับขั้นต่ำ 1000 กิโลขึ้นไป ออกบ่อย แต่ไม่เน้นทำเครื่องทุกทริป เพราะจนไม่มีตังทำ  OK นะ  ) สำหรับผม ว่าสุดๆของสองจังหวะแล้วนะ  (ไม่นับรถประเภท รถที่พี่ๆเขามีเงินดูแลรถถึงขั้น " ผ่าเครื่องก่อนออกทริปทุกครั้ง" อันนั้นผมไม่นับ ) เพระาผมถือว่า การที่รถจะสามาร"ใช้งานได้จริง" ที่ย่านความเร็วสูงๆ  แล้วบอกว่ารถคันนี้"สเถียร" คือ หมายถึงว่ารถคุณต้องใช้งานได้หลายๆทริป ขั้นต่ำ20000กิโล  แล้วหลวม หรือต้องผ่ามาดูแลใหม่ แบบนี้ถึงจะเรียกว่าได้ทำการปรับจูนมาสามารถใช้งานได้จริง (ขอยกตัวอย่าง รถของพี่วิท  Witt rrw ออกทริปด้วยกันมาสามปี ปีๆนึงไม่ต่ำกว่า3-4ทริป ลากกันยาวๆ 120-140 KM/H  ถ้าไปกันสองคันกะแก ผมกดกัน140-160 ตลอดเส้นทาง เติมน้ำมันทุก120กิโล นั้นหมายถึงว่า แช่ยาวๆ140-160 เป็นระยะทาง100กิโลขึ้นไป  แกไม่เคยผ่าเครื่องใหม่เลย เต็มที่ก็ล้างคาร์บู จูนเพิ่มน้ำมันไปตามเรื่อง )
   แต่ถ้าประเภทเซตมาวิ่งได้ทริปเดียวสองทริปแล้วบอกว่า  "นี้ไง รถผมก้ออกทริปได้ แรงด้วย" อันนี้เจอมาเยอะ  พวกนี้ ชวนออกทริปไกลๆส่ายหน้าหมด  แต่ออกทริปใกล้ๆขี่แบบตดไม่ทันหายเหม็นนี้ พระเอกอย่างไว ออกนำเลย แค่ระยะทางไป กลับ500 กิโล อันนี้มันเด็กๆเกินไปครับ รถเน่าๆที่ไหนก็ไปได้ ไม่ต้องลงทุนทำเทพหรอก
   
     ทีนี้ที่มาของการที่ผมชอบมาเชียร์รถที่ก้าวข้ามขีดจำกัดละทีนี้ ว่า มันมีเหตุมากจากการที่ผมรัก TZXM และอยากปั้นให้มันขึ้นมาวิ่งได้ไม่น้อยหน้าใคร  แต่จากการไปร่วมออกทริป มิตติ้งกับเพื่อนๆสายยี่ห้ออื่น ปรากฎว่า เขามองว่า" ยามาฮ่า รถกาก เดินทางไกลไม่รอดหรอก" ขนาดออกทริปเดินทางไกลด้วยกัน  พอเห็นผมไป ยังบอกว่า"ขับช้าๆกันหน่อย มีTZMมาด้วย" แล้วก็วิ่งยืนพื้น100ตลอดทาง เสมือนหนึ่งเรามาเป็นภาระให้ก๊วนเขา  ทั้งที่ผมบอกแล้วว่า"รถผมยืนพื้น120-140ได้  ไม่ต้องรอ"  :)

    อันนี้ TZMเน่าๆของผม   เวอร์ชั่นนี้ ยินพื้น120-140 กรุงเทพ-โคราช ระยะทางไปกลับ 500 กิโลเมตร เป็นประจำ เดือนละสองหน เป็นเวอร์ชั่นแรกที่โดนดูถูกสวดๆ รถคนจน เอาอะไรนักหนา  ::)  ความเร็วปลายได้แค่160 ..........ทีี่สุดของแจ้แล้ว 


   เวอร์ชั่นนี้พอมีตังทำรถหน่อย ทำเครื่องใส้ในแท้หมด ก็ใช้ทน  และเป็นเวอร์ชั่นที่ใช้งานรถมากที่สุด 30000กิโลภายในสองปี (ขี่ออกทริปอย่างเดียว เพระาขี่ทำงานใช้เวฟน้อย100เดียว) ยืนพื้นเริ่มขยับขึ้นมาที่140-160 (ซึ่งรอบเครื่องค่อนข้างสูง  รู้เลยเครื่องเริ่มเครียด)  กรุงเทพ โคราช ระยะทางเท่าเดิม  แต่ออกทริประดับ1000กิโล บ่อยมาก สภาพนี้ความเร็วปลาย180ได้อยู่  >:(


  เวอร์ชั่นต่อมา ลดน้ำหนักรถลง เปลี่ยนเครื่อง เปลี่ยนค่าย มาใช้ NSR  สภาพนี้ ก็ใช้งานโหดเช่นเดิม เพราะเปลี่ยนรถไม่เปลี่ยนคนขี่ เริ่มปรับแต่งเครื่องยนต์
         "ลด"ตกำลังที่จะออกมารอบสูง   ของรถไม่เน้นความเร็วปลายระดับ200 
        "เพิ่ม"แรงบิด   เครื่องยน์เพื่อให้ใช้การเค้นรอบน้อย แต่กำลังออกมาเยอะ
      เพิ่มความทนทานให้สามารถเดินทางในย่านความเร็วที่สูง โดยที่รถไม่เครียดมาก  ความเร็วสูงสุดที่ทำได้ 180  แต่ความเร็วเดินทาง150-170 แช่ยาวๆ100-200 กิโลไม่ต้องยกได้ สบายๆ (อย่านึกว่าผมบ้าพลัง ถ้าคุณเป็นผม คุณจะรู้ว่าทำไมต้องขี่เร็วขนาดนี้ ทำไมต้องรีบทำเวลา  เพราะผม มีเวลาอยู่ด้วยกันน้อย จึงต้องรีบทำเวลาในการเดินทาง กรุงเทพ-โคราาช ระยะทางไปกลับ500กืโลให้สั้น เพื่อให้มีเวลาให้กันมากขึ้น  สภาพนี้ ผมตื่นตี4 ขี่รถมาทำงานจากโคราช-กรุงเทพจะทุกเช้าวันจันทร์นะครับ  เลยต้องทำเวลามาให้ทันเข้างานด้วย :( )




จะบอกว่า การคิดต่างไม่ผิดครับ คิดนอกกรอบแบบนี้ ผมชอบนะ  อ่านแรกๆผมมองเหมือน จขกท ออกแนวเกรียน  แต่เท่าที่ติดตามมาสองสามวัน  ผมมองว่า จขกท คนนนี้ มีอะไรลึกๆในตัวแน่  ไม่งั้นไม่กล้ามาตั้งคำถามล่อเป้าขนาดนี้   
    รอชมและติดตามกระทู้ครับ
ขาโหด บ้าพลังนะเราเนี่ย...อิๆๆ

เครดิตภาพ:พี่สุดยอด

mai-bangkae

อ้างจาก: Mtz เมื่อ กุมภาพันธ์ 10, 2014, 12:37:17 ก่อนเที่ยง
  เห็นกระทู้นี้ น่าสนใจดี  เพระาเป็นการ"ก้าวข้ามขีดจำกัดของรถ"  ซึ่ง ผมชอบเชียร์มวยรอง เพราะผมเคยเป็นมวยรองมาตลอด   จึงขออนุญาติ จขกท ออกความเห็นในส่วนของผมนะครับ (ขอแจ้งไว้ก่อนนะครับ ไม่ได้พาดพิงถึงใคร แต่มันเป็นประสบการณ์ที่เจอจากการออกทริปมาตลอด4ปีที่เล่นเวปนี้ล้วนๆ ต้องขอขอบคุณเพื่อนร่วมทางทุกท่านครับ)
 
 ในส่วนรถ150 CC  แช่ยาวๆ 120-140 ระยะทางไป กลับตลอดทริป 1400กิโล ก็ถือว่ายังไปไหว รถเดิมๆนะ รถแต่งเต็มๆแรงๆเจอรถเดิมๆแช่ยาวๆไม่ยกคันเร่ง เห็นแช่ยาวตามรถเดิมๆไม่รอดซักราย  
    (ส่วนใหญ่ผมออกทริปประมาณนี้ ไป กลับขั้นต่ำ 1000 กิโลขึ้นไป ออกบ่อย แต่ไม่เน้นทำเครื่องทุกทริป เพราะจนไม่มีตังทำ  OK นะ  ) สำหรับผม ว่าสุดๆของสองจังหวะแล้วนะ  (ไม่นับรถประเภท รถที่พี่ๆเขามีเงินดูแลรถถึงขั้น " ผ่าเครื่องก่อนออกทริปทุกครั้ง" อันนั้นผมไม่นับ ) เพระาผมถือว่า การที่รถจะสามาร"ใช้งานได้จริง" ที่ย่านความเร็วสูงๆ  แล้วบอกว่ารถคันนี้"สเถียร" คือ หมายถึงว่ารถคุณต้องใช้งานได้หลายๆทริป ขั้นต่ำ20000กิโล  แล้วหลวม หรือต้องผ่ามาดูแลใหม่ แบบนี้ถึงจะเรียกว่าได้ทำการปรับจูนมาสามารถใช้งานได้จริง (ขอยกตัวอย่าง รถของพี่วิท  Witt rrw ออกทริปด้วยกันมาสามปี ปีๆนึงไม่ต่ำกว่า3-4ทริป ลากกันยาวๆ 120-140 KM/H  ถ้าไปกันสองคันกะแก ผมกดกัน140-160 ตลอดเส้นทาง เติมน้ำมันทุก120กิโล นั้นหมายถึงว่า แช่ยาวๆ140-160 เป็นระยะทาง100กิโลขึ้นไป  แกไม่เคยผ่าเครื่องใหม่เลย เต็มที่ก็ล้างคาร์บู จูนเพิ่มน้ำมันไปตามเรื่อง )
  แต่ถ้าประเภทเซตมาวิ่งได้ทริปเดียวสองทริปแล้วบอกว่า  "นี้ไง รถผมก้ออกทริปได้ แรงด้วย" อันนี้เจอมาเยอะ  พวกนี้ ชวนออกทริปไกลๆส่ายหน้าหมด  แต่ออกทริปใกล้ๆขี่แบบตดไม่ทันหายเหม็นนี้ พระเอกอย่างไว ออกนำเลย แค่ระยะทางไป กลับ500 กิโล อันนี้มันเด็กๆเกินไปครับ รถเน่าๆที่ไหนก็ไปได้ ไม่ต้องลงทุนทำเทพหรอก
 
    ทีนี้ที่มาของการที่ผมชอบมาเชียร์รถที่ก้าวข้ามขีดจำกัดละทีนี้ ว่า มันมีเหตุมากจากการที่ผมรัก TZXM และอยากปั้นให้มันขึ้นมาวิ่งได้ไม่น้อยหน้าใคร  แต่จากการไปร่วมออกทริป มิตติ้งกับเพื่อนๆสายยี่ห้ออื่น ปรากฎว่า เขามองว่า" ยามาฮ่า รถกาก เดินทางไกลไม่รอดหรอก" ขนาดออกทริปเดินทางไกลด้วยกัน  พอเห็นผมไป ยังบอกว่า"ขับช้าๆกันหน่อย มีTZMมาด้วย" แล้วก็วิ่งยืนพื้น100ตลอดทาง เสมือนหนึ่งเรามาเป็นภาระให้ก๊วนเขา  ทั้งที่ผมบอกแล้วว่า"รถผมยืนพื้น120-140ได้  ไม่ต้องรอ"  :)

   อันนี้ TZMเน่าๆของผม   เวอร์ชั่นนี้ ยินพื้น120-140 กรุงเทพ-โคราช ระยะทางไปกลับ 500 กิโลเมตร เป็นประจำ เดือนละสองหน เป็นเวอร์ชั่นแรกที่โดนดูถูกสวดๆ รถคนจน เอาอะไรนักหนา  ::)  ความเร็วปลายได้แค่160 ..........ทีี่สุดของแจ้แล้ว  


  เวอร์ชั่นนี้พอมีตังทำรถหน่อย ทำเครื่องใส้ในแท้หมด ก็ใช้ทน  และเป็นเวอร์ชั่นที่ใช้งานรถมากที่สุด 30000กิโลภายในสองปี (ขี่ออกทริปอย่างเดียว เพระาขี่ทำงานใช้เวฟน้อย100เดียว) ยืนพื้นเริ่มขยับขึ้นมาที่140-160 (ซึ่งรอบเครื่องค่อนข้างสูง  รู้เลยเครื่องเริ่มเครียด)  กรุงเทพ โคราช ระยะทางเท่าเดิม  แต่ออกทริประดับ1000กิโล บ่อยมาก สภาพนี้ความเร็วปลาย180ได้อยู่  >:(


 เวอร์ชั่นต่อมา ลดน้ำหนักรถลง เปลี่ยนเครื่อง เปลี่ยนค่าย มาใช้ NSR  สภาพนี้ ก็ใช้งานโหดเช่นเดิม เพราะเปลี่ยนรถไม่เปลี่ยนคนขี่ เริ่มปรับแต่งเครื่องยนต์
        "ลด"ตกำลังที่จะออกมารอบสูง   ของรถไม่เน้นความเร็วปลายระดับ200  
       "เพิ่ม"แรงบิด   เครื่องยน์เพื่อให้ใช้การเค้นรอบน้อย แต่กำลังออกมาเยอะ
     เพิ่มความทนทานให้สามารถเดินทางในย่านความเร็วที่สูง โดยที่รถไม่เครียดมาก  ความเร็วสูงสุดที่ทำได้ 180  แต่ความเร็วเดินทาง150-170 แช่ยาวๆ100-200 กิโลไม่ต้องยกได้ สบายๆ (อย่านึกว่าผมบ้าพลัง ถ้าคุณเป็นผม คุณจะรู้ว่าทำไมต้องขี่เร็วขนาดนี้ ทำไมต้องรีบทำเวลา  เพราะผม มีเวลาอยู่ด้วยกันน้อย จึงต้องรีบทำเวลาในการเดินทาง กรุงเทพ-โคราาช ระยะทางไปกลับ500กืโลให้สั้น เพื่อให้มีเวลาให้กันมากขึ้น  สภาพนี้ ผมตื่นตี4 ขี่รถมาทำงานจากโคราช-กรุงเทพจะทุกเช้าวันจันทร์นะครับ  เลยต้องทำเวลามาให้ทันเข้างานด้วย :( )




จะบอกว่า การคิดต่างไม่ผิดครับ คิดนอกกรอบแบบนี้ ผมชอบนะ  อ่านแรกๆผมมองเหมือน จขกท ออกแนวเกรียน  แต่เท่าที่ติดตามมาสองสามวัน  ผมมองว่า จขกท คนนนี้ มีอะไรลึกๆในตัวแน่  ไม่งั้นไม่กล้ามาตั้งคำถามล่อเป้าขนาดนี้  
   รอชมและติดตามกระทู้ครับพ
เจอพี่คนนี้ผมขอบคุณอย่างสูงสุดคับ พบสัจธรรมเลย จากที่เคยคิดว่าการออกทริปนั้นคือการออกไปสนุกกับเส้นทาง สนุกกับเพื่อน พี่ น้อง พบปะพูดคุย สนุกกับการขับสองล้อคู่ใจเรา แต่มาบัดนี้ความจริงไม่ได้สวยงามอย่างใจคิด จากข้อมูลที่พี่บอก "ในส่วนรถ150 CC  แช่ยาวๆ 120-140 ระยะทางไป กลับตลอดทริป 1400กิโล ก็ถือว่ายังไปไหว รถเดิมๆนะ รถแต่งเต็มๆแรงๆเจอรถเดิมๆแช่ยาวๆไม่ยกคันเร่ง เห็นแช่ยาวตามรถเดิมๆไม่รอดซักราย  
    ส่วนใหญ่ผมออกทริปประมาณนี้ ไป กลับขั้นต่ำ 1000 กิโลขึ้นไป ขอยกตัวอย่าง รถของพี่วิท  Witt rrw ออกทริปด้วยกันมาสามปี ปีๆนึงไม่ต่ำกว่า3-4ทริป ลากกันยาวๆ 120-140 KM/H  ถ้าไปกันสองคันกะแก ผมกดกัน140-160 ตลอดเส้นทาง เติมน้ำมันทุก120กิโล นั้นหมายถึงว่า แช่ยาวๆ140-160 เป็นระยะทาง100กิโลขึ้นไป"
จากข้อมูลที่พี่ให้มาผมบอกได้เลยว่า ผมยอมแพ้ ไม่อยากออกแล้วทริป นี่มันทดสอบรถหรือซ้อมขี่ไว้แข่ง แรลลี่ ดาการ์ ชัดๆ จากที่เคยคิดออกทริปนึงไปกลับซัก 500 โล เน้นเที่ยวตามทางหรือปลายทาง ถ้าเป็นอย่างงี้ผมคงทำได้แค่แว้นเล่นมันๆเวลาเบื่อๆ มิน่าทำไมนิยม 150 สมรรถนะสูงอย่าง NSR SP กันจัง พี่พูดถูกแล้วหล่ะผมเกรียนชัดๆ ขอบคุณมากคับที่ทำให้ผมออกจากกะลา :P :)

mai-bangkae

เขาขับกันอย่างนี้นี่เอง ถึงได้เน้นเครื่อง 150 เดิมๆ ล้อใหญ่ๆ เพื่อให้สบายต่อการเดินทางอันแสนไกลนี่เอง พอจะเข้าใจแล้วคับขอบคุณพี่ๆมากคับ :D

Mtz

เอ๊า  กำ  ไหงถอดใจซะแล้วละ  อย่าเพิ่งยอมแพ้ซิ  วุ้ย อุตส่าเชียร์  ที่ออกมาเล่าประสบการณ์ให้ฟังบ้างอะไรบ้างก็เพื่อเป็นแนวคิดให้ลุย แต่จะลุยก้ต้องคิดเผื่อเหตุไม่คาดฝันแค่นั้นเอง
  บางทีการออกทริป ไประยะทางไกลๆ มันทำให้เราและเพือ่นร่วมทาง "เห็นธาตุแท้"ของกันและกันครับ  แล้วคุณจะพบว่า "เพือ่นแท้ จะช่วยกันแก้ปัญหา มากกว่าที่จะมาซ้ำเติมว่าเราคือตัวปัญหา"  ซึ่งสิ่งนี้ มันไม่สามารถเห็นได้ จากทริประยะสั้นครับ เพระาโอกาศที่จะฉุกละหุกน้อย  
   และด้วยทริประยะยาวนี้ผมก็ได้เห็น"ธาตุแท้" ของคนเช่นเดียวกัน
  ส่วนเรื่องล้อใหญ่ล้อเล็ก ที่นิยมล้อใหญ่ และเป็นยางจุ๊บเลส  ก็เพระาว่า"เวลายางแตกกลางทาง เช่น โดนตะปูตำ " รถมันสามารถที่จะวิ่งต่อไปได้โดยที่เราไม่ต้องจอดกินข้าวลิงกลางป่า  เพราะเดินทางไกล เราไม่รู้หรอกว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไหนจะเจอฝน เจอสภาพถนนที่แย่ เจอภูเขาถล่มปิดเส้นทาง

   อันนี้คือทริปนรกของผม  เส้นทางก่อนที่จะไปเป็นถนนราดยางปกติ  แต่ก่อนหน้าที่เราจะเดินทางไป1วันเกิดเหตุฝนฟ้าคะนอง ภูเขาดินถล่มปิดเส้นทาง รถ 4x4 ถึงจะไปได้ แต่ด้วยความมานะบวกกำลังใจ จึงทำให้เราฟันฝ่า  เราก็ต้องลุยเข้าไปเพระาที่พักเราอยู่ข้างหน้า ถอยก็ไม่ได้ เหราะพายุเข้าฝนตกหลักไล่หลัง
  รูปนี้เป็นทริปไปสะพานมอญ  
  ก่อนออกเดินทางเช้าอันสดใส  สภาพรถยั่งเลี่ยมๆอยู่


  แต่ด้วยไปเจอเหตุการที่บอกไปข้างต้นว่า พายุฝนเข้า ดินถล่ม ล้อจมดินเหนียวที่ภาษาบ้านนอกเรียกว่า"ดินเหนียวหนังหมู" กันทุกคัน แต่ต้องลุยไป  สภาพรถจากสปอร์ตทางตรง เป็นวิบากชั่วคราว


 
แล้วเหตุไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อเช้ามา มาดูรถ ปรากฎว่า ยางหลังเจอตะปูยาวราวๆ5นิ้วตำทะลุเนื้อยาง  แต่ผมก็ขับเดินทางต่อไปในสภาพนี้อีก500กว่ากิโล เพราะหาร้านปะยางไม่ได้  คิดดู ถ้าเป็นล้อเล็กยางแบบมียางใน ผมคงได้จอดรถทิ้งไว้กลางป่าสังขละบุรีในวันที่ฝนตกหนังตอน2ทุ่มแน่ๆ  เพระาลุยฝนขึ้นสังขละกันตอนสองทุ่ม เกิดจากเจอพายุฝนทำให้เวลาเดินทางคลาดเคลื่อนไปจากเดินที่เก็งกันไว้น่าจะถึงราวๆ4โมงเย็น


 ปัจจุบัน ล้อวงนี้ ยางเส้นนี้ก็ยังอยู่ครับ เป็นอนุสรให้เราระมัดระวังและเตรียมรถให้ดีก่อนออกทริป
 
  และนี่คิอ รางวัลในความมานะพยายามที่เราได้รับมาหลังจากที่เรามานะฝ่าฟันไป





:( :( :(
  นี่แหละเป็นที่มาว่าทำไมพวกผมชอบเดินทางไกลๆ เพระาใกล้ๆบ้าน มันหาแบบนี้ไม่ได้




max!

ผม ชอบ แนว ความคิด ของ เจ้า ของ กระทู้มากกว่า ขี่ ไป แวะไป ค่อยเป็นค่อยไป พูดคุยพบปะ แวะเที่ยวที่ที่อยากไป นะครับ สวยงาม วัน 1 คงมีโอกาส ได้ พบ ท่านตามเส้น ทาง บางนะครับ
089-636-4871 ดีแทค *** สองจังหวะล้านนา เชียงใหม่ ***

mai-bangkae

ยังไม่ได้ถอดใจคับ ยังไงก็จะลุยแน่นอนคับ  ขอบคุณสำหรับกำลังใจคับพี่ ???

Mtz

สู้ต่อไปครับ แรกๆผมก็เริ่มจากขี่รถไปมิตติ้งตามที่นู้น ที่นี่เหมือนกันครับ พอเราเจอสายเดียวกัน  หลังๆเราเริ่มรู้ว่าเราชอบแนวทริปท่องเที่ยว ที่เรียกว่าทริปจริงๆคือไปเที่ยว ไม่ใช่ไปเปลี่ยนที่กินเหล้า  ก็เลยเป็นที่มาของการ  "รวมตัวกับคนที่เห็นในสิ่งเดียวกัน  ออกเดินทางล่าฝันด้วยรถสองจังหวะเก่าๆของเรา  "  ถึงขนาดว่า เหมืองปิล๊อคที่สูงชันพวกผมก็เอารถสองจังหวะไปลุยมาแล้ว  จนคนที่ไปเจอมีงานพูดว่า" เฮ๊ย นี่มันสองจังหวะนี่หว่า มันขึ้นมาได้ไงวะ "  อิอิ รู้สึกภูมิใจเล็กๆ ว่าเราก็สามารถพารถเก่าๆเน่าๆของเราขึ้นมาได้
  รูปนี้ถ่ายที่จุดชมวิวเหมืองปิล๊อค ก่อนที่จะมาถึงจุดนี้ได้ สูง และชันมากๆครับ

  สมาชิกผองเพือ่นทีเ่ดินทางไปกัน

ทางไปน้ำตกจ๊อกกระดิ่น เป็นเส้นทางที่ 4x4เท่านั้นถึงจะมาได้  ถึงขนาดที่ว่า ที่บ้าน"อีต๊อง" มีรถรับจ้างพามาน้ำตก เที่ยวละ1200บาท  ระยะทางจากหมู่บ้านมาประมาณ10 กิโล แต่ด้วยความจน เราจึงต้องเอารถเราลุยลงมาเอง ซึ่ง ลงมาพวกที่ขับ 4x4 มองกันใหญ่ แล้วอุทานว่า"มันมากันได้ยังไง รถสปอร์ต"


  ความสวยงามที่ทำให้ดั่นด้นมา


  ที่สำคัญ อย่าดุถูกตัวเองครับ  น้องๆกลุ่มนี้ สอบถามได้ความว่า เขาเดินทางมาจากสุพรรณบ้าง นครปฐมบ้าง ระยะทางก็ไม่ใช่ขี้ๆ  เกือบๆ300กิโลเห็นจะได้จากนครปฐม ด้วยรถสภาพนี้  มีแต่ใจ  ผมยกนิ้วให้เขาเลย ขับไปพังไป ยันกันไป  ผมเจอเขาที่ตัวตลาดทองผาภูมิตอนเที่ยๆง  แล้วผมก็ขึ้นเข้าไปถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ราวๆบ่าย2โมง  แต่น้องๆกลุ่มนี้ตามไปถึงตอน2ทุ่ม 

   
จะบอกว่ารถอะไรก็ไปทริปได้ ขอแค่ใจมา แล้วเราจะสามารถแก้ปัญหาได้เอง  สู้ครับ เป็นแรงเชียร์ให้
 

max!

บางครั้ง  กลุ่ม คสาสิค ก้อ ไป ด้วย ใจกันแท้ รักการ เดิน ทาง บางครั้ง ก้อดุ พวกเค้า สามัคคีกันดี นะครับ  ก้อ คง แค่ ใจล้วนๆ นะครับ
089-636-4871 ดีแทค *** สองจังหวะล้านนา เชียงใหม่ ***

Mtz

เห็นตามที่คุณ Max ว่าครับ ทุกครั้งเวลาผมออกทริป ถ้าผมเจอกลุ่มน้องๆขี่คลาสสิค (ยกเว้นพวกคลาสสิคแวนส์ เอารถคลาสสิคมาวางเครื่องโซนิค ท่อดัง มาสภาพไฟรอบคัน  ขับปาดไปมาๆแนวๆก่อกวนชาวบ้าน  ผมไม่เอาด้วยคน) แนวๆนี้ผมจะยกมือโบกมือทักทาย พร้อมด้วยยกนิ้ว"โป้ง"ให้ นับถือในใจเขาจริงๆ ที่ขับรถด้วยความเร็วไม่น่าจะถึง100 เดินทางข้ามจังหวัด เอาเป็นว่า ขับช้าว่าฮอนด้าเวฟแม่บ้านจ่ายกับข้าว เป็นผมละอึดอัดตายเลย  ทักทายเขา  เขาก็เหมือนจะดีใจนะเห็นรอยยิ้มน้องๆเขากลับมาทุกครั้ง
 

ip-man

   ด้วยลักษณะกายภาพของ แอล  ผมว่าน่าจะทำได้่ยากนะ (ที่จขกท เห็นทางสว่างผมว่าก็ถูกแล้วล่ะ ) แต่ถ้าจะทำแอลให้วิ่งได้ถึง 220 กมต่อชมจริง น่าจะน่าทำมากว่า เอาแบบไม่ต้องออกทริปได้หรอกครับ  แค่วิ่งให้ถึง  220 นี่ก็โคตะระเก่งแล้ว   

smash756

ติดต่อผมได้ทาง... facebook
http://www.facebook.com/profile.php?id=100003760232964#!/
ลิ้งค์เช็คสถานะ EMS ครับ http://track.thailandpost.co.th/trackinternet/
LS 125...ใครมีก้อ ลงกันมาเยอะๆ นะครับ...(ซ้ำไม่เป็นใรครับ) http://2strokeclub.com/smf/index.php?topic=20224.0

wit2771554

ผม ชอบ "แรลลี่ ดาการ์" 1500 กิโลเมตร
555 แวะมา เก็บความรู้ครับ



http://www.2strokeclub.com/smf/index.php?topic=97097.0
155 ม.3 ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว 27120 // 0907693039 วิทย์ ครับ
"รถถ้ามันไม่สุดอย่างที่เราพอจะทำได้มันค้างใจคับ"