Main Menu

เทคนิคการเข้าโค้ง หัวเข่าเช็ดพื้น แล้วไม่ล้ม

เริ่มโดย JANKSURIN, เมษายน 29, 2011, 04:33:51 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

JANKSURIN

การเข้าโค้งที่ถูกต้อง
สวัสดีครับ ( รอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ )
    หลังจากห่างหายการเขียนบทความไปนานแล้ว เห็นหลายๆคน ส่วนใหญ่จะเป็นเพื่อนๆน้องๆมือใหม่ อยากอ่านบทความเกี่ยวกับ เทคนิคการขี่รถ จริงๆแล้วอยากเขียนให้แบบว่าคุยกันให้ฟังมากกว่าที่จะป็นการสอน แต่เพื่อให้ดูสมเหตุผลมากกว่าการที่ผมจะมามั่วนิ่มคนเดียว ก็ต้องมีภาพหรือเอกสารประกอบซะหน่อย ถ้าผิดพลาดที่ตรงไหนก็ขออภัยด้วยนะครับ งั้นมาเริ่มเลย
     เริ่มแรกท้องถนนในบ้านเรา ในเลนที่มีรถสวนทาง ไม่ว่าคุณจะอยุ่ตรงไหน คุณต้องระวังรักษาไลน์การขี่ของคุณ และจะต้องมีสมาธิเสมอ การมองโค้งและการทรงตัว เพราะทุกอย่างมันจะต้องสำพันธ์กัน การเปิดคันเร่งเวลาเข้าโค้ง การจัดท่าทาง คงไม่ต้องถึงขนาดตั้งใจโหนแบบGPหรอกครับ ( เคยขี่ตามนักบิดประเภทนี้ โห...ห้อยตูด หัวเข่านี่สีพื้นแคร๊กๆ ท่าสวยงามมาก ในความเร็วต่ำ.... ) ถ้าจะลองทำอย่างนั้นก็ไม่ผิดหรอกครับ แต่ให้ดูเป็นธรรมชาติจะดูเข้าท่ากว่า....
     การจับคันเร่ง
            การจับคันเร่งที่ถูกต้อง หลายๆคนมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ในความเป็นจริง หากคุณจับคันเร่งผิดวิธี จะทำให้คุณเข้าโค้งได้ไม่ดีและไม่มั่นคงในโค้ง การจับคันเร่งให้จับแบบเฉียง อย่าให้ข้อมือทำมุมฉากกับรถคุณ ให้จับคันเร่งแบบถือไม้เทนนิส( คงพอมองออกมั๊ง...! ) ให้ออกแรงบิดคันเร่งโดยใช้ข้อมือ อย่าให้บิดจนแขนตามไปด้วยเพราะจะมีผลไปถึงการทรงตัวของรถ เช่นถ้าใช้ท่อนแขนบิด จะทำให้หัวไหล่และลำตัวขยับไปด้วย ทำให้เสียความสมดุลและน้ำหนักตอนเข้าโค้ง ( ย้ำ..!ใช้แค่ข้อมือเท่านั้น )
     การวางขาและเท้า
             การวางขาและเท้าจะว่าถึงการขับขี่ในถนนปรกตินะครับ ส่วนเรซซิ่งไม่ชำนาญขนาดนั้น ถนนปรกติให้วางไว้กึ่งกลางเท้า ปลายเท้าจะอยู่ที่ก้านเบรค-คันเกียร์ ถ้าในสนามตัวผมเองจะกระทิบถอยหลังมาหน่อย เทคนิคเบื้องต้นแรกนั้น ให้ลองใช้วิธีถ่ายน้ำหนัก ออกแรงเน้นไปที่เท้าข้างที่เข้าโค้ง( งงๆสิ) ตัวอย่างเช่นโค้งขวา ก็กดเท้าขวาให้หนัก โค้งซ้ายก็กดน้ำหนักเท้าซ้าย อันนี้เป็นวิธีอธิบายง่ายๆนะครับ เอาไปทดลองดูได้ แต่ถ้าในการขี่ให้ ดูราบรื่นและสมูทนั้น แค่กดแค่เท้าข้างใดข้างนึงมากกว่าอีกข้างคงไม่พอ  การวางน้ำหนักเท้าที่อยู่ด้านนอกโค้งก็สำคัญนะครับ เพียงแต่ว่าคุณต้องจับจุดความสำพันธ์นี้ให้ได้ อธิบายยากแฮะ..ลองเอาไปทดลองดูครับ
      อธิบายประกอบ...เสริมต่อจากทั้ง2 หัวข้อ
              จุดมุ่งหมายคือ ต้องปลอดภัย ไม่สไลด์หรือเสียหลัก (แหง...อยู่แล้ว)แต่คราวนี้มันก็จะประกอบไปด้วย การใช้คันเร่ง การถ่ายน้ำหนักตัว การวางขา และสะโพก
1. ลดความเร็วลงก่อนที่คุณจะเข้าโค้ง (สำคัญมากๆ)
2. การอยู่ในไลน์ที่ถูกต้อง อย่างแรกคือตอนเข้าโค้งคุณจะเจอแรงหนีศูนย์ นี่หละคุณเลยต้องถ่ายน้ำหนักไปด้านในโค้ง แต่การที่โหนออกไปนอกรถเพื่อชดเชยแรงเหวี่ยง อย่างแรกที่เห็นคือรถคุณเบาขึ้น แต่ผลที่จะตามมาแบบเห็นได้ชัดคือ ยางจมีน้ำหนักไปกดทับน้อยลง ยางก็เกาะพื้นได้น้อยลงตามไปด้วย อันนี้บอกยากแต่ให้คุณลองใช้ความรู้สึกจับอาการของรถดู ถ้าในสนามจะทำอย่างนี้ได้ดีเพราะในโค้งเดียวกัน คุณสามารถทดลองเข้าและออกจากโค้งได้ในหลายๆความเร็ว หลายๆครั้ง หลายๆรอบ ได้ทดสอบและจับความรู้สึกอาการของรถจนคุณเข้าใจและจนกว่าจะพอใจ
3. ภาพประกอบ
3.1 เริ่มการเบรค ถ่ายน้ำหนักที่ก้นออกมานอกตัวรถเพียงครึ่งเดียว
      จากภาพ เป็นการจัดท่าก่อนการเข้าโค้ง เหมือนกับการวางน้ำหนักตัวอยู่บนต้นขาและรักษาสมดุลไว้
      - การใช้เบรคหน้าจะใช้เบรคหน้าเป็นหลัก ส่วนเบรคหลังจะใช้เพียงเพื่อรักษาสมดุลเอาไว้เท่านั้น
3.2 ถ่ายน้ำหนักมาที่ด้านในของโค้ง
      จากภาพการใช้เบรคหน้าจะหยุดเพียงเท่านี้ ในขณะเดียวกันขณะที่คุณคลายแรงบีบของเบรคหน้า แรงที่รถพุ่งไปข้างหน้าจะเริ่มน้อยลง การเคลื่อนไหวของร่างกาย ท่อนบน แขน และขาจะเป็นลักษณะอย่างในภาพ
      - ลักษณะการมอง ให้มองไปยังจุดที่ต้องการจะพารถไป ( มองไปสุดโค้ง ไม่ใช่มองแต่หน้ารถตัวเอง1-2เมตร  )
      - น้ำหนักตัวให้ทิ้งน้ำหนักมายังด้านใน ไม่เน้นแรงกดไปยังแฮนด์รถ
      - ลักษณะเป็นการเตรียมพร้อมเพื่อแบนโค้ง
3.3  การใช้คันเร่ง ในโค้ง
      จากที่กล่าวมาในข้อที่3.2 คือลักษณะของร่างกายท่อนบนจะโน้มไปด้านหน้าเพียงเล็กน้อย
       ข้อควรระวังเป็นอย่างยิ่งคือ
      - ห้ามใช้เบรคหน้า
      - เบรคหลังใช้เพียงเล็กน้อยเพื่อรักษาสมดุลเท่านั้น
      - ลักษณะที่สำพันธ์กันคือ การโน้มหรือถ่ายน้ำหนักตัวไปด้านหน้า ช่วงนี้การใช้คันเร่งให้คลอคันเร่งไปเรื่อยๆ( คลอคันเร่งหมายถึง ค่อยๆเปิดคันเร่ง ไม่กระทำทันทีทันใด ) อันนี้บอกยาก แต่ให้เข้าใจว่า คุณต้องรู้สึกว่า รถของคุณยังมีแรงที่เครื่องยนต์กระทำออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยใช้เความรู้สึก การจับจังหวะของคุณเองให้สำพันธ์กัน..(งง..มั๊ยเนี้ย! อธิบายยากเหมือนกัน )
      - ให้นึกไว้ก่อนว่าก่อนเข้าโค้งคุณยกคันเร่ง และเบรค เพื่อลดความเร็วรถ แต่มาเพิ่มคือเปิดคันเร่งช่วงกลางค่อนมาทางปลายโค้ง เพื่อส่งรถของคุณให้ออกจากโค้ง (เตือน..! ขณะที่คุณกำลังอยู่ในโค้ง การเดินคันเร่งรีดรอบออกแบบทันทีทันใด /กระแทกคันเร่ง /ไม่ควรทำอย่างยิ่ง )
3.4 ขาด้านนอก และเท้าด้านนอกโค้ง ใช้รักษาสมดุลของรถ
3.5 จังหวะการเดินคันเร่งในโค้ง หรือที่ภาษา นักบิด เรียกว่า" การไต่โค้ง "
       - ใช้การมองแบบ มองผ่าน แต่ไม่ได้หมายถึงว่า ให้ละเลยในจุดใด เป็นการมองสังเกตุสภาพของถนน อุปสรรค์ สิ่งกีดขวาง และช่องทางที่รถจะพุ่งออกไป ทั้งหมดที่กล่าวนี้ คุณต้องประมวลผลเอาในช่วงไม่กี่วินาที หรือที่ ภาษา นักบิดเรียกกันอีกนั้นหละว่า "การอ่านโค้ง "
       - ข้อกำหนด /บังคับเลย...
       - ห้ามเปิดคันเร่งเพื่อส่งรถ ก่อนที่คุณจะมองเห็นทางออก ถ้าไม่เห็นทางออกที่ปลายโค้ง คุณทำได้แค่คลอคันเร่งเท่านั้น การเปิดคันเร่งโดยไม่เห็นทางออก อาจส่งผลให้คุณเข้าผิดไลน์ได้ การเปิดคันเร่ง เพื่อเพิ่มความเร็วรถกระทำได้เมื่อเห็นช่องทางออกแล้ว อยู่ในจังหวะที่รถคืนการทรงตัว( รถเอนขึ้นตามแรงหนีศูนย์ที่กระทำกับตัวรถ ) ตัวคุณเองก็ต้องถ่ายน้ำหนักตัวขึ้น คืนในตำแหน่งเดิม ทั้งนี้ยังเปิดคันเร่งแบบสม่ำเสมอทีละนิดๆ
3.6 การกระทำที่ส่งผล ตามจังหวะการเดินคันเร่ง
      - เดินคันเร่งมากไป ยิ่งจะทำให้รถคุณ ยิ่งบานโค้งออกทางด้านนอก ยิ่งเปิดคันเร่งมากเท่าไหร่ก็บานโค้งมากยิ่งขึ้นเท่านั้น เผลอๆ แหกโค้งไปเลย
      - เดินคังเร่งน้อยไป จะส่งผลให้รถคุณ พับเข้าส่วนในของโค้งมากเกินไป ตามหลักวิทยาศาสตร์...แฮะๆการเปิดคังเร่งที่สมดุลกัน ระบบกันสะเทือนหน้าและหลังจะยุบตัวลงจากแรงเหวี่ยงที่กระทำต่อรถ( ยางสำคัญมาก.... )
3.7 คืนตำแหน่งของคุณกลับที่เดิม ช่วงจังหวะการออกจากโค้ง
3.8 จังหวะการเดินคังเร่งเต็มที่ ช่วงออกจากโค้ง (สบายแล้ว....ผ่านมาแบบหมูๆ )
      เอาหละเป็นไงครับ พอจะเข้าใจมั๊ยเนี้ย! หรือว่า งง..ผมเองอ่านเอง เขียนเองยังงงเลย 55 เอาเป็นว่า ลักษณะการเข้าโค้งที่ปลอดภัยคือ ต้องสำพันธ์กันทั้ง ท่าทาง การวางเท้า การถ่ายน้ำหนักตัว และจังหวะการเบรคและเดินคันเร่งที่สมดุลย์กัน บางคนอาจจะว่า ปัดโธ่..แม่งเขียนง่าย แต่พอจริงๆทำไมมันยากจัง สำหรับมือใหม่ การถ่ายน้ำหนักตัว คงยาก เพราะกลัว พอลองทดลองทำดูมันยากเกินไป (หวาดเสียว ) แต่ทั้งนี้ ยางหน้า-หลัง ระบบเบรคสำคัญมาก อย่าไปหัดทั้งที่ยางไม่ดีนะครับ เพลอๆอีตอนโหนในโค้ง มันมีแรงหนีศูนย์ที่กระทำกับคุณและรถ มันไปเพิ่มถาระให้กับโช๊คหน้าและหลัง อ้าว..มันก็ไปเพิ่มแรงกดที่ยางสิทีนี้ ถ้ายางคุณไม่ดีก็จะเกิดอาการไม่เกาะโค้ง พอไม่เกาะ มันก็เกิดอาการสไลด์ ถ้าเข้าไม่แรงก็คงคงรู้สึกแบบสไลด์ แถ๋ๆ (ถืดๆๆ) แต่ยังเอาอยู่  แต่ถ้าคุณยังพยายามเข้าให้แรงและเร็วกว่านั้น ยางมันรับภาระไม่ไหว มันจะไถลหลุดถืดดดด...ไปเลย แต่ถ้าแบบเบาะๆ อีตอนยางมันเริ่มมีอาการสไลด์หน่อยๆ ถ้าคุณกลัว ตามสัญชาติญาณ คุณคงยกคันเร่งแบบอัตโนมัติ คราวนี้แรงเหวียงจะดันรถคุณให้เด้งขึ้นมา ผลคือรถวิ่งผิดไลน์ เรียกว่า"บานโค้ง" ก็มี2อย่างคือ เมื่อรถทำท่าจะแหกโค้งบานออกไป คุณก็ต้องรีบชลอความเร็วโดยด่วน เบรคสิ ถ้าเบรคแรงเกินไปหน้าอาจพับไปเลย  หรือถ้าโชคดี อาจเอาอยู่ แต่หัวใจก็ตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่มเรียบร้อยแล้ว ฉะนั้น บอกไว้เลยว่ายางสำคัญมากๆ อย่าละเลย นอกจากว่าคุณชอบให้อะดินาลีน หลั่งทุกโค้ง..!ตื่นเต้นดี 
        แล้วอีกอย่างนึงคือ ถ้าเทียบกันระหว่างยางหน้าและหลัง อันไหนสำคัญกว่ากันในโค้ง ผมว่า ยางหน้ามีผลมากกว่า ถ้าจำเป็นจริงๆต้องเดินทางไกล แต่ดันมีงบจำกัด ทำไงหละ?? ผมแนะนำว่า ถ้าต้องเลือกเปลี่ยนเส้นใดเส้นนึง เปลี่ยนยางหน้าให้ดีไว้ก่อนดีกว่า ยังไงซะถ้าเกิดอาการสไลด์จริงๆ ต่อให้ยางหลังเกิดอาการที่ผมว่า แต่เรายังแก้อาการที่ยางหน้าได้ (ยางหน้ายังเกาะถนนอยู่ ) เพราะถ้าเกิดอาการสไลด์ของยาง(ไม่เกาะถนน) ในยางหน้าแล้ว คุณแก้อาการของรถไม่ได้เลย....
         เอ้า..พอไหวมั๊ยเนี้ย ฉะนั้นมือใหม่หัดขี่ ต้องค่อยๆพยายามเรียนรุ้ครับ อย่าห้าว..หรือประมาทเด็ดขาด เพราะรถล้มมันเจ็บและเสียเงิน ค่อยๆหัดไปทีละนิดสร้างประสพการ์ณไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เก่งไปเอง คราวนี้พอถ้าชำนาญแล้ว คุณจะเบื่อทางตรงมากๆ แต่พอขี่ไปมองเห็นทางข้างหน้าเป็นทางโค้ง คุณจะยิ้มในหมวกกันน็อค แล้วปรี่ ทิ้มเข้าหาโค้งเลย (ไชโย..เจอโค้งแล้วเฟ้ย!!!! )



ธนาคาร กรุงเทพ ออมทรัพย์  หมายเลข ุ644-001-456-8
           นาย ธีรศักดิ์ สมจิต

globblinknight


vinyu_เดิมบางนางบวช

เมื่อกี้เกิบแหกโค้ง   ตอนลงสะพานเร่งคันเร่งไว้ ลืมข้างหน้าว่ามีโค้งเลี้ยวเกือบไม่ทันมีรถสวนมาด้วยหลุดเส่นกลางถนนไปหน่อยนึง   เสียว 

บวก1 ไปเลยครับ  เทคนิคการควบคุมรถมอเตอร์ไซค์
อนุรักษ์กันไว้นะครับ  รถแรงๆสวยๆเมื่อวันวาน

sanrak1


Pt.Ass

ไม่กล้าครับเสียวแถ บวกไปหนึ่งแรงรอกล้าเมื่อไรจะลองครับ .

2T_DD

ร้านอาจารย์ อะไหล่สำหรับวัยมันส์
617-0-11811-3 กรุงไทย สาขาสวรรคโลก  PIYA UDOMMONGKOL
Tel 094-6353-045

ople

ไม่โหดแต่กรูร์....เอาจริง

JOLS125

[ ราชาส้มตำ [อุดรธานี] ]

cato

แผลเป็นที่ข้อศอก+หัวเข่า+หน้าท้องจะบอกท่านได้ครับ :'(

skullkill

อันนี้ผมอ่านบ่อยแล้ว...ตกลง จขกท คือคนเขียนบทความนี้หรือครับ

ตำนานคือชัยชนะในวันวาน ถ้าไม่เริ่มในวันนี้ก็ไม่มีทางได้รับชัยชนะ และจะไม่มีตำนานในวันหน้า
ไมล์รถวัดได้เพียงความเร็ว แต่ไม่สามารถวัดใจ

offoziz


The Mach Team

สงสัยต้องให้น้องชายผม เจ้าโมมาอ่านบ้างแล้ว
ถ้าสงสัยว่าเป็นเช่นไร ตามลิงค์

http://2strokeclub.com/smf/index.php?topic=41391.0
นาย อ้น ศรีมงคลปทุม 0867711817               
THE MACH THE RIDE ON ROAD

chann30


ขอบคุณ ฝากรูป ขายเกมส์
แนะนำอีกอย่าง ยางสำคัญมากๆครับ ยาง 1.75 หน้าหลังที่หลายๆคนนั้นใส่อยู่ อย่าไปเพลอเชียว ปลิ้น สไลด์ แถ ปัด สะบัด โดยไม่รู้ตัว ครับ :o
ชีวิตที่มีความสุข มันเต็มไปด้วยประสปการณ์และก็ความทรงจำครับ

ชาญณรงค์ พิมละมาศ

ธ.กสิกรไทย หมายเลขบัญชี 3722-566-458 ติดต่อ* 080-795-3738 ชาญญ โคราช


sarawutch

NSR 150 RR ปี 96 เดิมๆ เติม E20 คาร์บูเดิม นมหนู 138 เดินเบา 45 เข็มล็อก 3

KenJi





banjong


manv

ดันบ่อย โพสบ่อย ทำให้กระทู้คนอื่นตก

KenJi

ไหนๆก็ไหนๆแล้ว เอาข้อมูลมาเสริมเพิ่มเติมสักหน่อยอิอิ...



ท่าแรกรูปซ้าย คือท่า Lean With หรือ ลีนวิท

เป็นท่าขี่แบบใช้งานในเมืองทั่วไป  ไม่โหน ไม่กางเข่า  ขาหนีบถัง  ส่วนมากถ้าไปเรียนคอร์สไรดิ้งของ ยามาฮ่า และ ฮอนด้า เขาจะให้ขี่ท่านี้กัน

ส่วนท่าที่ 2 รูปขวา   คือท่า Lean In  หรือ ลีนอิน

จะใช้ในการเข้าโค้งที่ใช้ความเร็วสูงกว่าท่าแรก  โดยการโหนตัวช่วย  เอียงออกมานอกรถ  แต่ขายังไม่กาง ยังหนีบถัง  ท่านี้จะใช้ในโค้งที่ความเร้วสูงขึ้น ทิ้งน้ำหนักตัวเพื่อถ่วงรถ



ต่อมาท่าที่ 3  Lean Out  หรือ ลีนเอาท์

ท่านี้จะมาแนวของการควบคุมของรถวิบาก หรือ โมตาร์ด  โดยท่านั่งจะหนีตรงข้ามกับการเอียงของรถ จะเหมาะกับโค้งแคบๆ ความเร็วต่ำเท่านั้น ไม่เหมาะกับโค้งความเร็วสูง

เพราะอาจจะทำให้พักเท้าครูดพื้น จนล้อหลังลอย ทำให้ล้มได้



ท่าที่ 3  Hang On หรือ แฮงค์ออน

ท่านี้ คือท่าในแบบเรซซิ่ง ที่ใช้ในการแข่งขัน  เหมาะกับการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงๆ เน้นการโหนตัว และ กางเข่า  เพื่อเทน้ำหนักดึงรถให้อยุ่ในโค้งต้านกับ แรงที่จะพารถตั้งตรง

โดยใช้การโหนตัวออกมาครึ่งก้น เอนเยอะๆ  กางเข่า



สรุปท่าทางการขี่นะคับ

ภาพเปรียบเทียบระหว่าง ลีนอิน กับ แฮงออน  ต่างกันแค่กางโหนตัวที่มากกว่า และ กางเข่า เท่านั้น แต่สังเกตุที่ปลายพักเท้า การแบนแบบ ลีนอิน จะแบนรถเยอะกว่า

แต่เชือมั้ยว่า การแบนแบบแฮงออน ถึงองศาการแบนจะน้อยกว่า ลีนอิน  แต่สามารถใช้เวลาในโค้งน้อยกว่า หรือ เร็วกว่านั้นเอง



ภาพเปรียบเทียบท่าทางการขี่ เรียงจากซ้ายไปขวา   ลีนเอาท์  -  ลีนวิท  - ลีนอิน  - แฮงค์ออน   เลือกใช้ให้ถูกกับลักษณะโค้งและความเร็วด้วยนะ



ที่มา BIKER THAI CLUB.com




auntonio_lpn

เยี่ยมเลยครับ เห็นภาพ เข้าใจง่าย ด้านบนอ่านไม่จบ ตาลายยยยก่อน    +1 ครับ

freejame

กว่าจะอ่านจบตาลาย 2-3รอบ แล้วการเข้าโค้งนี่มันขึ้นอยู่กับรูปร่างของรถด้วยรึป่าว ?


นาย พงศธร ศรีหาผล
28 หมู่ 6 ถ.เอกชัย ซอย53 แขวงบางบอน เขตบางบอน กทม 10150
เลขที่บัญชี 403-200858-1 ไทยพาณิชย์
Phone.087-497-4349 เจมส์