ทำไมต้องปิดปากคาร์บูตอนสตาร์ท ในกรณีจอดรถหลายวัน หรือ ตอนน้ำมันใกล้หมด และอีกข้อ เครื่องมีเสียงดัง ต้องแก้ไขอย่างไรมันถึงจะเงียบ KR รุ่นใบพัด

เป็นการปิดอากาศหมดเพื่อให้น้ำมันท่วมเข้าไปแบบเต็มๆครับหลักการก็คือโช้คนั้นแหละแต่แทนที่จะเปิดน้ำมันให้แรงดูดจากลูกสูบดูดน้ำมันโดยตรงจากถ้วย
ก็ปิดอากาศที่ปากทั้งหมด  เพื่อให้เกิดสุญญากาศแบบเต็มๆดึงน้ำมันเข้าไปในแบบเยอะๆ

เก็บความรู้ครับ

แล้วทำไงถึงจะหายครับ ต้องแก้ไขอะไรบ้าง

เอามือปิดปากได้ ก็คงเปลือยกรองอยู่ซินะครับหาหม้อกรองมาใส่จะช่วยได้ในระดับหนึ่ง ทั้งนี้อยู่ที่สภาพโดยรวมของตัวรถว่า มีส่วนไหนชำรุดอยู่บ้าง
ซึ่งมันเป็นได้หลายทางและมีอาการออกมา ระบบไอดีรั่วไหม ซีลจานไฟ  เครื่องหลวมมากแล้ว อะไรแบบนี้เป็นต้นครับ

อยากรู้เหมือนกันครับ อาการนี้ เป็ที่คาบูได้มั้บ

สมายผม พอจอดหลายวัน เป็นเเบบนี้เลย รื้อกันเละ เพื่อมาอุดคาบูสตาร์ท

รถจอดหลายวัน ดึงแค่โช้คไม่ต้องเปิดคันเร่งแล้วก็สตาร์ทไปเรื่อยๆอ่าครับเดี๋ยวก็ติด ถ้าระบบ กำลังอัดมันสมบูรณื คาบูปกติ

อ้างจาก: Hunterzero เมื่อ สิงหาคม 02, 2013, 11:09:47 หลังเที่ยง
รถจอดหลายวัน ดึงแค่โช้คไม่ต้องเปิดคันเร่งแล้วก็สตาร์ทไปเรื่อยๆอ่าครับเดี๋ยวก็ติด ถ้าระบบ กำลังอัดมันสมบูรณื คาบูปกติ

แดชผม ทำเครื่องไหม่ ลูกไซ้ 50 ใช้ของเเท้หมด ก้าแท้ ลูกปืนแท้ หรีดแท้ซีล แท้
คาบูแท้  จอดกลับบ้าน 2 เดือน กลับมา กระทืบ ที่เดียวติดครับ  หุๆ

ถ้าเครื่องสมบูรณ์ดี ใส่หม้อกรองครบๆ ก็เปิดโช๊คครับ ตามคำแนะนำในคู่มือ ดันคันโช๊คเมื่อสตาร์ทตอนเครื่องเย็น ออกแรงสตาร์ทไปเรื่อยๆ ไม่ต้องบิดคันเร่ง เมื่อติดแล้วก็ปิดคันดันโช๊ค สตาร์ทติดยากเมื่อจอดหลายวัน สาเหตุที่ ณ ปัจจุบัน คือใช้น้ำมันประเภทแก๊สโซฮอล์ ไม่ใช่ไม่ดีนะครับ จะบอกว่า น้ำมันประเภทนี้มีส่วนผสมของแอลทานอล เวลาเครื่องเย็นสตาร์ทติดยาก พอติดแล้วต้องวอร์มสักพัก ติดแล้วออกขับเลยมันจะดับ ไม่เหมือนเบนซิลเพียวๆสตาร์ททีเดียวติดเลย ของผมที่สตาร์ทติดยากเวลาจอดไว้หลายๆวันเพราะปั๊มออโต้ลู๊ปมันเสีย มันจะใหลตลอดเวลา ไม่ขับก็ใหลลงไปในข้อเหวี่ยง ดันคันโช๊ค สตาร์ทไปเรื่อยๆ ก็ติดเป็นปกติ ถ้าช่วงใหนขับทุกวัน ทิ้งข้ามคืนตอนเช้าสตาร์ทไม่กี่ทีก็ติด

คำแนะนำสำหรับการสตาร์ทรถ
1.เมื่อเครื่องเย็นให้เปิดโช๊ค เพื่อช่วยให้เครื่องยนต์ติดง่ายขึ้น ถ้าเป็นโช๊คไฟฟ้าจะทำงานอัตโนมัติ
2.เมื่อติดเครื่องยนต์แล้วให้วอร์มเครื่องสักประมาณ 1 นาที เพื่อให้น้ำมันเครื่องไปเลี้ยงส่วนต่างๆของเครื่องยนต์ลดการสึกเหรอของชิ้นส่วนภายใน เพราะตอนจอดนานๆ น้ำมันเครื่องจะไปรวมอยู่ที่อ่างน้ำมันเครื่องหมด รถสี่จังหวะควรปฏิบัติอย่างยิ่ง
3.รถที่มี CC.  ตั้งแต่250-1,000CC. หรือมากกว่านี้ ให้กำครัซส์ แล้วเข้าเกียร์ 1 แล้วกดปุ่มสตาร์ท (สตาร์ทในเกียร์) เพื่อลดการกระแทกของลูกเกียร์ 1 ถ้าสตาร์ท์ที่เกียร์ว่าง เมื่อกำครัซส์เข้าเกียร์ 1 จะมีเสียงกระแทกที่ดังชัดเจนมาก นั่นคือสิ่งจะส่งผลให้อายุการใช้งานสั้นลง รถแข่งในโมโตจีพี จะมีเครื่องช่วยสตาร์ท(จริงๆแล้วระบบคันสตาร์ท ปุ่มสตาร์ท เค้าจะเอาออกหมด เพราะไม่จำเป็น มีเพียงปุ่มดับเครื่องยนต์เท่านั้น) คนที่ถนอมรถจริงๆถึงจะรู้
4.รถที่ใช้ระบบสตาร์ทด้วยเท้า(อันนี้สำคัญมากๆ ไม่รักกันจริงไม่บอกนะเนี่ย) ไม่ว่าคันสตาร์ทเท้าจะพับเก็บไว้กี่ล๊อคก็ตาม เมื่อดันคันสตาร์ทออกมาแล้วให้กดด้วยเท้าลงนิดหน่อยเพื่อให้ฟันเฟืองด้านในวิ่งไปขบกันแบบสนิทก่อน เมื่อฟันเฟืองด้านในขบกันแล้ว คันสตาร์ทจะกดไม่ลง ถึงตอนนั้นแหละ. ถึงค่อยออกแรงสตาร์ท ลดการสึกหรอของระบบฟันเฟืองสตาร์ทด้านใน ถ้าคุณเคยสตาร์ทแบบว่าพอดันคันสตาร์ทออกมาก็ออกแรงเลยรับรองได้เลยว่าถ้าทำบ่อยๆโอกาสเฟืองคันสตาร์ทรูดมีแน่นอน บ้านผมเค้าเรียกการสตาร์ทแบบนี้ว่า สตาร์ทกลางอากาศ

อ้างจาก: kapooklookzaa เมื่อ สิงหาคม 05, 2013, 12:22:29 ก่อนเที่ยง
ถ้าเครื่องสมบูรณ์ดี ใส่หม้อกรองครบๆ ก็เปิดโช๊คครับ ตามคำแนะนำในคู่มือ ดันคันโช๊คเมื่อสตาร์ทตอนเครื่องเย็น ออกแรงสตาร์ทไปเรื่อยๆ ไม่ต้องบิดคันเร่ง เมื่อติดแล้วก็ปิดคันดันโช๊ค สตาร์ทติดยากเมื่อจอดหลายวัน สาเหตุที่ ณ ปัจจุบัน คือใช้น้ำมันประเภทแก๊สโซฮอล์ ไม่ใช่ไม่ดีนะครับ จะบอกว่า น้ำมันประเภทนี้มีส่วนผสมของแอลทานอล เวลาเครื่องเย็นสตาร์ทติดยาก พอติดแล้วต้องวอร์มสักพัก ติดแล้วออกขับเลยมันจะดับ ไม่เหมือนเบนซิลเพียวๆสตาร์ททีเดียวติดเลย ของผมที่สตาร์ทติดยากเวลาจอดไว้หลายๆวันเพราะปั๊มออโต้ลู๊ปมันเสีย มันจะใหลตลอดเวลา ไม่ขับก็ใหลลงไปในข้อเหวี่ยง ดันคันโช๊ค สตาร์ทไปเรื่อยๆ ก็ติดเป็นปกติ ถ้าช่วงใหนขับทุกวัน ทิ้งข้ามคืนตอนเช้าสตาร์ทไม่กี่ทีก็ติด

คำแนะนำสำหรับการสตาร์ทรถ
1.เมื่อเครื่องเย็นให้เปิดโช๊ค เพื่อช่วยให้เครื่องยนต์ติดง่ายขึ้น ถ้าเป็นโช๊คไฟฟ้าจะทำงานอัตโนมัติ
2.เมื่อติดเครื่องยนต์แล้วให้วอร์มเครื่องสักประมาณ 1 นาที เพื่อให้น้ำมันเครื่องไปเลี้ยงส่วนต่างๆของเครื่องยนต์ลดการสึกเหรอของชิ้นส่วนภายใน เพราะตอนจอดนานๆ น้ำมันเครื่องจะไปรวมอยู่ที่อ่างน้ำมันเครื่องหมด รถสี่จังหวะควรปฏิบัติอย่างยิ่ง
3.รถที่มี CC.  ตั้งแต่250-1,000CC. หรือมากกว่านี้ ให้กำครัซส์ แล้วเข้าเกียร์ 1 แล้วกดปุ่มสตาร์ท (สตาร์ทในเกียร์) เพื่อลดการกระแทกของลูกเกียร์ 1 ถ้าสตาร์ท์ที่เกียร์ว่าง เมื่อกำครัซส์เข้าเกียร์ 1 จะมีเสียงกระแทกที่ดังชัดเจนมาก นั่นคือสิ่งจะส่งผลให้อายุการใช้งานสั้นลง รถแข่งในโมโตจีพี จะมีเครื่องช่วยสตาร์ท(จริงๆแล้วระบบคันสตาร์ท ปุ่มสตาร์ท เค้าจะเอาออกหมด เพราะไม่จำเป็น มีเพียงปุ่มดับเครื่องยนต์เท่านั้น) คนที่ถนอมรถจริงๆถึงจะรู้
4.รถที่ใช้ระบบสตาร์ทด้วยเท้า(อันนี้สำคัญมากๆ ไม่รักกันจริงไม่บอกนะเนี่ย) ไม่ว่าคันสตาร์ทเท้าจะพับเก็บไว้กี่ล๊อคก็ตาม เมื่อดันคันสตาร์ทออกมาแล้วให้กดด้วยเท้าลงนิดหน่อยเพื่อให้ฟันเฟืองด้านในวิ่งไปขบกันแบบสนิทก่อน เมื่อฟันเฟืองด้านในขบกันแล้ว คันสตาร์ทจะกดไม่ลง ถึงตอนนั้นแหละ. ถึงค่อยออกแรงสตาร์ท ลดการสึกหรอของระบบฟันเฟืองสตาร์ทด้านใน ถ้าคุณเคยสตาร์ทแบบว่าพอดันคันสตาร์ทออกมาก็ออกแรงเลยรับรองได้เลยว่าถ้าทำบ่อยๆโอกาสเฟืองคันสตาร์ทรูดมีแน่นอน บ้านผมเค้าเรียกการสตาร์ทแบบนี้ว่า สตาร์ทกลางอากาศ

เยี่ยมครับ  ถ้าบอกม้าไห้ได้ ผมจะกระทืบม้าเลย 555

อ้างจาก: Hunterzero เมื่อ กรกฎาคม 30, 2013, 06:28:07 หลังเที่ยง
เป็นการปิดอากาศหมดเพื่อให้น้ำมันท่วมเข้าไปแบบเต็มๆครับหลักการก็คือโช้คนั้นแหละแต่แทนที่จะเปิดน้ำมันให้แรงดูดจากลูกสูบดูดน้ำมันโดยตรงจากถ้วย
ก็ปิดอากาศที่ปากทั้งหมด  เพื่อให้เกิดสุญญากาศแบบเต็มๆดึงน้ำมันเข้าไปในแบบเยอะๆ

:D :D :D :D :D :D :D

+1เลยครับ กับความรู้คับ