เห็นหลายคนเค้าพูดกันจัง ว่าล้อแม๊กซ์พวกรถแข่ง ที่เอามาแปลงใส่กับรถ 150 CC.ในบ้านเรา
จำพวก ตระกูล RS ต่างๆ กับชุดดุมล้อซี่ ขอบD.I.D. ที่หน้ากว้างเท่ากัน ขนาดของยางเท่ากัน อย่างใหนจะเบากว่าครับ
ถ้าเกิดขับแล้วตกหลุมแรงๆที่จุดเดียวกัน ล้อแบบใหนจะเสียหาย แบบใหนไม่เสียหายครับ
อยากรู้สรรพคุณเฉยๆนะครับ เผื่อจะหามาใส่กะเค้าบ้าง
รอฟังจั๊กคนเด้อค่ะ
อยากรู้เหมือนกัน
ถ้าจำไม่ผิด ของrsจะเป็นล้อแมกนีเซียมครับ แข็งแรงทนทาน น้ำหนักเบา แต่ราคาก็แพงตามไปด้วย
ถามแบบกว้างไปหน่อย คือจำกัดแค่แมกแท้ที่ทำจากแมกนีเซียมใช่มั๊ยความเบามันก็พอๆกัน ส่วนแม็กมิเนียมหนักกว่าล้อซี่แน่นอน ส่วนการตกหลุมก็ไม่รู้หลุมขนาดไหนยางแก้มเตี้ยรึเปล่า คำตอบคือพังทั้งคู่กับไม่พังทั้งคู่ความแข็งแรงพอๆกัน(แท้ทั้งคู่นะ)
ขอบคุณครับ รอเก็บข้อมูลอีกหน่อย
เท่าที่ทราบมานะครับ
ล้อพวกนี้น้ำหนักเบา ถึงขนาดเอามาแขวนบนหลอดนี่ออน ยังไม่แตก
ส่วนเรื่องความแข็งแรง...แข็งแรงมากครับแต่เวลาที่โดนอะไรมากระทำแรงๆ แม็กทั่วไปจะดุ้งหรือคดก่อน
แต่แม็กพวกนี้ จะแตกเลยครับ เข้าตำรา แข็งแต่เปราะนั่นเอง ไงก็ลองฟังผู้รู้ท่านอื่นมาตอบอีกทีนะครับ
เข้ามาดูด
เอาเฉพาะเรื่อง นน
ล้อ+ยางที่เบากว่า....จะได้ในเรื่อง Performance ที่ดีกว่า
หนักกว่า....จะได้ในเรื่องของ Balancing ที่ดีกว่า
ปจบ โลหะวิทยาไปไกลมาก วัสดุเดียวกันผ่านกรรมวิธีที่แตกต่างกันไป การผสมต่างๆๆๆ
ดังนั้นล้อที่เราเรียกกันว่าล้อแม็กซ์ก็ย่อมาจากคำว่า Mag Wheel
ในยุค 60 มีการผลิตล้อแม็กซ์สำหรับสนามแข่งขันโดยมีส่วนผสมหลักคือ Magnesium และ Aluminum และอื่นๆๆ
เมื่อได้รับความนิยมก็ผลิตออกมาสู่ตลาค
ในปจบล้อแม็กซ์ใช้ส่วนผสมของ Magnesium เพียงเล็กน้อยเท่านั้นแต่มีความแข็งแรงกว่าล้อดั้งเดิมหลายเท่า
ในการผลิตก็มีหลายกรรมวิธีจากราคาแพงลงไปถูกอาทิเช่น
-Forge
-High Pressure Die Casting
-Low Pressure Casting
-Gravity Casting
ข้อมูลเชิงลึกไม่ทราบได้เพราะไม่ได้อยู่ในวงการผลิตล้อ แต่การเป็น End user ผมใช้ล้อแท้
เลือกรุ่นที่รับนนได้เหมาะสมกับนนของยานพาหนะ รวมถึง Load index ของยางด้วย
ล้อ+ยาง ยี้ห้อใดก็ตามที่ไม่สามารถบอก spec พื้นฐานได้ ก็ควรหลีเลี่ยงห่างไกลครับ
เคยเห็น RS ปีเก่าๆเป็นล้อซี่ลวด พอปีใหม่ๆมาก็เปลี่ยนเป็นล้อแม็กซ์ ผมว่ามันต้องมีประโยชน์อะไรสักอย่างแน่ๆ
ผมว่าจะใส่ล้อแบบไหนดูที่เราจะใช้งานมันลักษณะใด
อันนี้ความเห็นส่วนตัวเด้อ อิอิ
อย่าคิดแค่ว่าขอบล้อมิเนียมแล้วจะเบากว่าสิคั้บ คุณต้องบวกน้ำหนุกซี่ล้อ ดุมล้อ ยางใน เข้าไปด้วยย
ล้อแบบซี่จะซับแรงสะเทือนได้ดีกว่าล้อแม็กครับ
แต่ในเรื่องของความมั่นคงในการทรงตัวต้องยกไห้ล้อแม็ก เพราะเขาทำไส่รถสนาม ที่ไช้แข่ง
ที่ต้องเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง กาบข้างของล้อแม็กจะรับแรงไม่เท่ากันในแต่ละข้างตอนเข้าโค้ง พูดง่ายๆคือ เข้าโค้งซ้าย
ขอบล้อฝั่งซ้ายก้ต้องรับแรวกด ที่มาจากความเร็ว บวกน้ำหนักรถ บวกแรงเหวี่ยง จากการแบนรถด้วยความเร็ว ซึ่งล้อแบบซี่จะไม่สเถียรเท่าไรนัก
เพราะล้อซี่จะออกแบบไห้สามารถไห้ตัวได้เมื่อรับแรงกดมากๆ ทำไห้การเข้าโค้งไม่มั่นคงครับ
และต่อมาลองนึกถึงการขับมาด้วยความเร็วสูงๆ แล้วต้องเบรคหนักๆ ระบบห้ามล้อต้องรับภาระในการหยุดวงล้อ แต่ส่วนที่ต้องรับแรงโดยตรงคือยาง และขอบล้อที่ต้องเสียดสีกับถนน
และซี่ล้อที่ต้องรับน้ำหนัก แรงเค้นมากๆ ก้ไม่เหมาะสำหรับการไช้งานในสนามมากกว่าล้อแม๊กครับ
อ่อ พอเข้าใจแล้วครับ อย่าเอาเรื่องความเบามาตัดสิน แต่ให้นึกถึงการใช้งานแล้วความเหมาะสมและคุณสมบัติของล้อแต่ละประเภท
คนที่ผมคุยด้วยเค้ามักจะเปิดหัวก่อนเลยว่าเบาที่นี้แหละผมจะได้ดักทางเค้าถูก
อ้างจาก: << ZenSoNic >> เมื่อ ตุลาคม 15, 2012, 04:26:55 หลังเที่ยง
อย่าคิดแค่ว่าขอบล้อมิเนียมแล้วจะเบากว่าสิคั้บ คุณต้องบวกน้ำหนุกซี่ล้อ ดุมล้อ ยางใน เข้าไปด้วยย
ล้อแบบซี่จะซับแรงสะเทือนได้ดีกว่าล้อแม็กครับ
แต่ในเรื่องของความมั่นคงในการทรงตัวต้องยกไห้ล้อแม็ก เพราะเขาทำไส่รถสนาม ที่ไช้แข่ง
ที่ต้องเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง กาบข้างของล้อแม็กจะรับแรงไม่เท่ากันในแต่ละข้างตอนเข้าโค้ง พูดง่ายๆคือ เข้าโค้งซ้าย
ขอบล้อฝั่งซ้ายก้ต้องรับแรวกด ที่มาจากความเร็ว บวกน้ำหนักรถ บวกแรงเหวี่ยง จากการแบนรถด้วยความเร็ว ซึ่งล้อแบบซี่จะไม่สเถียรเท่าไรนัก
เพราะล้อซี่จะออกแบบไห้สามารถไห้ตัวได้เมื่อรับแรงกดมากๆ ทำไห้การเข้าโค้งไม่มั่นคงครับ
และต่อมาลองนึกถึงการขับมาด้วยความเร็วสูงๆ แล้วต้องเบรคหนักๆ ระบบห้ามล้อต้องรับภาระในการหยุดวงล้อ แต่ส่วนที่ต้องรับแรงโดยตรงคือยาง และขอบล้อที่ต้องเสียดสีกับถนน
และซี่ล้อที่ต้องรับน้ำหนัก แรงเค้นมากๆ ก้ไม่เหมาะสำหรับการไช้งานในสนามมากกว่าล้อแม๊กครับ
อั๊ยย่ะ ตัวจริงทำเอง ขี่เอง มาตอบเชวนะ
เสริมเรื่องซับแรงสะเทือนนิดนึง ล้อที่เบาทำไมถึงนิ่มนวลกว่านั้นก็เพราะว่าUnsprung Weight หรือน้ำหนักใต้สปริงครับ
ยิ่งน้ำหนักตรงส่วนนี้เบาเท่าไหร่ ล้อมันก็เคลื่อนที่ขึ้นลงได้ง่ายตามแรงGหรือแดงดึงดูดของโลก ยิ่งหนักมากมันก็ขึ้นยาก
พอขึ้นยากก็จะไม่ทันกับการรับแรงสะเทือน เอาง่ายๆเช่นขับรถขึ้นหลังเต่า แทนที่ล้อจะลอยขึ้นหลังเต่าแล้วตัวสปริงช็อคจะกดไว้ไม่ให้มันขึ้นไปถึงส่วนที่เรานั่งและจับ
มันก็จะกลายเป็นว่าขึ้นมาทั้งกระบอกทั้งคันแบบนี้เราก็เลือกว่าไม่นุ่มนั้นแหละ
ในส่วนของสปริงเองโดยทั่วๆไปแล้วจะมีสปริง 2ค่าความแข็ง คือถี่กับห่าง
ด้านถี่จะอยู่ล่างด้านห่างจะอยู่บน เพื่ออะไรนั้นก็เพื่อให้ล้อที่จะขึ้นมา ขึ้นมาได้ง่ายที่สุดพอถึงจุดๆนึงแล้วก็จะไปเจอกับช่วงห่าง เพื่อดันไม่ให้ล้อขึ้นสูงเกินไป
จนทำให้ด้านบนรู้สึกกระเทือนเลยจากจุดนั้นไปก็ต้อบเตรียมตัวเด้งกันหน่อย
และในทางกลับกันช่วงยุบ ล้อจะต้องตกลงพื้นเร็วที่สุดและมีสปริงแข็งๆรองรับไว้ไม่ให้ด้านบนยุบลงไปมากจนกระเทือน
แต่ก็ไม่ใช่แข็งโปีกนะเดี๋ยวแขนหักกระดูกสันหลังเคลื่อนเอา
ล้อเบาๆมันถึงได้นิ่มนวลกว่า และในอีกด้านเมื่อทราบถึงน้ำหนักใต้สปริงแล้วว่ามันสำคัญแล้วทำไมเราต้องเอาอะไรที่หนักๆอย่างกระบอกโช๊คไปไว้ข้างล่างด้วย
ก็กลับหัวมันสิ มันจึงเป็นที่มาของโช๊คหัวกลับแบบทุกๆวันนี้ไงเพราะเรื่องนี้แหละ
ล้อเบาๆมันก็มีนะไม่จำเป็นต้องล้อซี่ลวดเสมอไป
เพราะวัศดุที่ใช้ทำมันมีหลายอย่างที่แข็งกว่าและเบากว่า อีกทั้งยังมีด้านการวางก้านล้อด้วยที่จะช่วยให้มันแข็งแรงขึ้นแต่เบาลง
เข้ามาดู
มาดู + เก็บข้อมูลครับ
อันนี้แล้วแต่กรใช้งานนะครับ
พวกล้อแม็กหนักกว่าครับ แต่ทำความสะอาดดูแลรักษาง่าย ทนกว่า
พวกล้อซี่ลวดเบากว่า ทำความสะอาดยากกว่า ซี่ลวดมีโค้งงอได้เป็นธรรมดา
ให้สังเกตุจาก พวกรถวิบาก จะเป็นล้อซี่ลวดทั้งนั้น เพื่อเป็นการเซฟตี้จากแรงกระแทกครับ
ถ้าใส่แม็กเอาไปลุยอาจหักได้ เป็นซี่อย่างน้อยมันก้อแค่งอ
ปล KR ของผม หลังล้อแม็ก หน้าล้อซี่ลวด
อ้างจาก: << ZenSoNic >> เมื่อ ตุลาคม 15, 2012, 04:26:55 หลังเที่ยง
อย่าคิดแค่ว่าขอบล้อมิเนียมแล้วจะเบากว่าสิคั้บ คุณต้องบวกน้ำหนุกซี่ล้อ ดุมล้อ ยางใน เข้าไปด้วยย
ล้อแบบซี่จะซับแรงสะเทือนได้ดีกว่าล้อแม็กครับ
แต่ในเรื่องของความมั่นคงในการทรงตัวต้องยกไห้ล้อแม็ก เพราะเขาทำไส่รถสนาม ที่ไช้แข่ง
ที่ต้องเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง กาบข้างของล้อแม็กจะรับแรงไม่เท่ากันในแต่ละข้างตอนเข้าโค้ง พูดง่ายๆคือ เข้าโค้งซ้าย
ขอบล้อฝั่งซ้ายก้ต้องรับแรวกด ที่มาจากความเร็ว บวกน้ำหนักรถ บวกแรงเหวี่ยง จากการแบนรถด้วยความเร็ว ซึ่งล้อแบบซี่จะไม่สเถียรเท่าไรนัก
เพราะล้อซี่จะออกแบบไห้สามารถไห้ตัวได้เมื่อรับแรงกดมากๆ ทำไห้การเข้าโค้งไม่มั่นคงครับ
และต่อมาลองนึกถึงการขับมาด้วยความเร็วสูงๆ แล้วต้องเบรคหนักๆ ระบบห้ามล้อต้องรับภาระในการหยุดวงล้อ แต่ส่วนที่ต้องรับแรงโดยตรงคือยาง และขอบล้อที่ต้องเสียดสีกับถนน
และซี่ล้อที่ต้องรับน้ำหนัก แรงเค้นมากๆ ก้ไม่เหมาะสำหรับการไช้งานในสนามมากกว่าล้อแม๊กครับ
ไอยะ อธิบายจนเห็นภาพเลย ชอบๆๆๆๆๆ
ล้อติดรถ..ดีสุด
เข้ามาเก็บความรู้ครับ
อ้างจาก: HerulayAMG เมื่อ ตุลาคม 15, 2012, 05:27:26 หลังเที่ยง
เสริมเรื่องซับแรงสะเทือนนิดนึง ล้อที่เบาทำไมถึงนิ่มนวลกว่านั้นก็เพราะว่าUnsprung Weight หรือน้ำหนักใต้สปริงครับ
ยิ่งน้ำหนักตรงส่วนนี้เบาเท่าไหร่ ล้อมันก็เคลื่อนที่ขึ้นลงได้ง่ายตามแรงGหรือแดงดึงดูดของโลก ยิ่งหนักมากมันก็ขึ้นยาก
พอขึ้นยากก็จะไม่ทันกับการรับแรงสะเทือน เอาง่ายๆเช่นขับรถขึ้นหลังเต่า แทนที่ล้อจะลอยขึ้นหลังเต่าแล้วตัวสปริงช็อคจะกดไว้ไม่ให้มันขึ้นไปถึงส่วนที่เรานั่งและจับ
มันก็จะกลายเป็นว่าขึ้นมาทั้งกระบอกทั้งคันแบบนี้เราก็เลือกว่าไม่นุ่มนั้นแหละ
ในส่วนของสปริงเองโดยทั่วๆไปแล้วจะมีสปริง 2ค่าความแข็ง คือถี่กับห่าง
ด้านถี่จะอยู่ล่างด้านห่างจะอยู่บน เพื่ออะไรนั้นก็เพื่อให้ล้อที่จะขึ้นมา ขึ้นมาได้ง่ายที่สุดพอถึงจุดๆนึงแล้วก็จะไปเจอกับช่วงห่าง เพื่อดันไม่ให้ล้อขึ้นสูงเกินไป
จนทำให้ด้านบนรู้สึกกระเทือนเลยจากจุดนั้นไปก็ต้อบเตรียมตัวเด้งกันหน่อย
และในทางกลับกันช่วงยุบ ล้อจะต้องตกลงพื้นเร็วที่สุดและมีสปริงแข็งๆรองรับไว้ไม่ให้ด้านบนยุบลงไปมากจนกระเทือน
แต่ก็ไม่ใช่แข็งโปีกนะเดี๋ยวแขนหักกระดูกสันหลังเคลื่อนเอา
ล้อเบาๆมันถึงได้นิ่มนวลกว่า และในอีกด้านเมื่อทราบถึงน้ำหนักใต้สปริงแล้วว่ามันสำคัญแล้วทำไมเราต้องเอาอะไรที่หนักๆอย่างกระบอกโช๊คไปไว้ข้างล่างด้วย
ก็กลับหัวมันสิ มันจึงเป็นที่มาของโช๊คหัวกลับแบบทุกๆวันนี้ไงเพราะเรื่องนี้แหละ
ล้อเบาๆมันก็มีนะไม่จำเป็นต้องล้อซี่ลวดเสมอไป
เพราะวัศดุที่ใช้ทำมันมีหลายอย่างที่แข็งกว่าและเบากว่า อีกทั้งยังมีด้านการวางก้านล้อด้วยที่จะช่วยให้มันแข็งแรงขึ้นแต่เบาลง
"Unsprung Weight" ลุง HerulayAMG อธิบายได้น่าฟังครับ :D :D
เอา UTube ไปดูเพิ่มเติม ตามที่ลุง HerulayAMG อธิบายนะครับ
Unsprung Mass (http://www.youtube.com/watch?v=9FZrJBWQ7-g#)
เข้ามาดูดด้วยคนครับ
กฎฟิสิกส์อีกเรื่องที่ควรรู้ (ที่เกี่ยวข้องกับล้อ) คือค่า.... "โมเมนต์ความเฉื่อย" (Moment of Inertia) ซึ่งจะมีผลเกี่ยวกับ "อัตตราเร่ง" (Acceleration)
เป็นปริมาณที่ต่อต้านการหมุนของวัตถุ นั่นคือ ถ้า.. โมเมนต์ความเฉื่อยมาก ก็ต้องใช้ทอร์คมากในการทำให้วัตถุหมุน
(มีขนาดเท่ากับผลคูณของมวลกับระยะทางกำลังสองจากจุดหมุนถึงมวล) ผมอ่านแล้วก็ยัง.. งงๆ น่ะครับ (ของเด็ก ม.4 เค้าเรียนกัน เด็กช่างอย่างผม มึน อ่ะ)
เอา UTube ไปดูดีกว่า จะได้เข้าใจเพิ่มว่า... ถ้าล้อเบา ควรจะไปเบาที่ตรงไหนจึงจะดี ไม่ใช่ว่า.. มวลเท่ากัน แล้วมันจะหมุนได้เหมือนกันนะ ???
Moment of Inertia - Ροπή Αδράνειας (http://www.youtube.com/watch?v=i6bbIO6nQss#)
อ้างจาก: cache เมื่อ ตุลาคม 22, 2012, 11:36:28 ก่อนเที่ยง
กฎฟิสิกส์อีกเรื่องที่ควรรู้ (ที่เกี่ยวข้องกับล้อ) คือค่า.... "โมเมนต์ความเฉื่อย" (Moment of Inertia) ซึ่งจะมีผลเกี่ยวกับ "อัตตราเร่ง" (Acceleration)
เป็นปริมาณที่ต่อต้านการหมุนของวัตถุ นั่นคือ ถ้า.. โมเมนต์ความเฉื่อยมาก ก็ต้องใช้ทอร์คมากในการทำให้วัตถุหมุน
(มีขนาดเท่ากับผลคูณของมวลกับระยะทางกำลังสองจากจุดหมุนถึงมวล) ผมอ่านแล้วก็ยัง.. งงๆ น่ะครับ (ของเด็ก ม.4 เค้าเรียนกัน เด็กช่างอย่างผม มึน อ่ะ)
เอา UTube ไปดูดีกว่า จะได้เข้าใจเพิ่มว่า... ถ้าล้อเบา ควรจะไปเบาที่ตรงไหนจึงจะดี ไม่ใช่ว่า.. มวลเท่ากัน แล้วมันจะหมุนได้เหมือนกันนะ ???
Moment of Inertia - Ροπή Αδράνειας (http://www.youtube.com/watch?v=i6bbIO6nQss#)
เข้าใจหามาให้ดูครับ
เข้าใจง่าย ขอบคุณครับ
จากแฟนคลับ
ใช้ คอลเกต ฟันไม่ผุ
ท่าน C ท่าน K มากันพร้อมหน้า
คิดฮอดหลายๆๆๆครับ
อ้างจาก: Kumlar เมื่อ ตุลาคม 22, 2012, 06:10:47 หลังเที่ยง
อ้างจาก: cache เมื่อ ตุลาคม 22, 2012, 11:36:28 ก่อนเที่ยง
กฎฟิสิกส์อีกเรื่องที่ควรรู้ (ที่เกี่ยวข้องกับล้อ) คือค่า.... "โมเมนต์ความเฉื่อย" (Moment of Inertia) ซึ่งจะมีผลเกี่ยวกับ "อัตตราเร่ง" (Acceleration)
เป็นปริมาณที่ต่อต้านการหมุนของวัตถุ นั่นคือ ถ้า.. โมเมนต์ความเฉื่อยมาก ก็ต้องใช้ทอร์คมากในการทำให้วัตถุหมุน
(มีขนาดเท่ากับผลคูณของมวลกับระยะทางกำลังสองจากจุดหมุนถึงมวล) ผมอ่านแล้วก็ยัง.. งงๆ น่ะครับ (ของเด็ก ม.4 เค้าเรียนกัน เด็กช่างอย่างผม มึน อ่ะ)
เอา UTube ไปดูดีกว่า จะได้เข้าใจเพิ่มว่า... ถ้าล้อเบา ควรจะไปเบาที่ตรงไหนจึงจะดี ไม่ใช่ว่า.. มวลเท่ากัน แล้วมันจะหมุนได้เหมือนกันนะ ???
Moment of Inertia - Ροπή Αδράνειας (http://www.youtube.com/watch?v=i6bbIO6nQss#)
เข้าใจหามาให้ดูครับ
เข้าใจง่าย ขอบคุณครับ
จากแฟนคลับ
อ้างจาก: Kot เมื่อ ตุลาคม 23, 2012, 09:26:07 ก่อนเที่ยง
ท่าน C ท่าน K มากันพร้อมหน้า
คิดฮอดหลายๆๆๆครับ
เฮียหล้า เค้าคงไปติดสาวเวียดกง อยู่มั้งครับ :-\ เลยนานๆ แวะเข้าทีนึง
ส่วน..เฮียคช ก็...หันไปควง น้องNEX เอาเงินไปทุ่มให้น้องเค้าซ๊ะหมดแล้วนิ... :-[
ผมยังก็...วนเวียนอยู่แถวนี้แหละครับ เฮียคช เข้ามาแอบอ่าน(ความรู้) มากกว่าตอบน่ะครับ
รักษาสุขภาพครับ เฮียทั้ง2..... ???
อ้างจาก: cache เมื่อ ตุลาคม 23, 2012, 07:56:28 หลังเที่ยง
อ้างจาก: Kumlar เมื่อ ตุลาคม 22, 2012, 06:10:47 หลังเที่ยง
อ้างจาก: cache เมื่อ ตุลาคม 22, 2012, 11:36:28 ก่อนเที่ยง
กฎฟิสิกส์อีกเรื่องที่ควรรู้ (ที่เกี่ยวข้องกับล้อ) คือค่า.... "โมเมนต์ความเฉื่อย" (Moment of Inertia) ซึ่งจะมีผลเกี่ยวกับ "อัตตราเร่ง" (Acceleration)
เป็นปริมาณที่ต่อต้านการหมุนของวัตถุ นั่นคือ ถ้า.. โมเมนต์ความเฉื่อยมาก ก็ต้องใช้ทอร์คมากในการทำให้วัตถุหมุน
(มีขนาดเท่ากับผลคูณของมวลกับระยะทางกำลังสองจากจุดหมุนถึงมวล) ผมอ่านแล้วก็ยัง.. งงๆ น่ะครับ (ของเด็ก ม.4 เค้าเรียนกัน เด็กช่างอย่างผม มึน อ่ะ)
เอา UTube ไปดูดีกว่า จะได้เข้าใจเพิ่มว่า... ถ้าล้อเบา ควรจะไปเบาที่ตรงไหนจึงจะดี ไม่ใช่ว่า.. มวลเท่ากัน แล้วมันจะหมุนได้เหมือนกันนะ ???
Moment of Inertia - Ροπή Αδράνειας (http://www.youtube.com/watch?v=i6bbIO6nQss#)
เข้าใจหามาให้ดูครับ
เข้าใจง่าย ขอบคุณครับ
จากแฟนคลับ
อ้างจาก: Kot เมื่อ ตุลาคม 23, 2012, 09:26:07 ก่อนเที่ยง
ท่าน C ท่าน K มากันพร้อมหน้า
คิดฮอดหลายๆๆๆครับ
เฮียหล้า เค้าคงไปติดสาวเวียดกง อยู่มั้งครับ :-\ เลยนานๆ แวะเข้าทีนึง
ส่วน..เฮียคช ก็...หันไปควง น้องNEX เอาเงินไปทุ่มให้น้องเค้าซ๊ะหมดแล้วนิ... :-[
ผมยังก็...วนเวียนอยู่แถวนี้แหละครับ เฮียคช เข้ามาแอบอ่าน(ความรู้) มากกว่าตอบน่ะครับ
รักษาสุขภาพครับ เฮียทั้ง2..... ???
ก็มันขาวเนียนๆๆๆๆ
อัด รอบต่ำก็มัน
รอบสูงก็ตอบสนอง
ตอบสนองทั่งตีนต้น และ ตีนปลาย เสียดายไม่ได้วัด คาบูโตเท่าไร อิอิอิอิ
อ้างจาก: Kumlar เมื่อ ตุลาคม 23, 2012, 08:36:36 หลังเที่ยง
ก็มันขาวเนียนๆๆๆๆ
อัด รอบต่ำก็มัน
รอบสูงก็ตอบสนอง
ตอบสนองทั่งตีนต้น และ ตีนปลาย เสียดายไม่ได้วัด คาบูโตเท่าไร อิอิอิอิ
"ก็มันขาวเนียนๆๆๆๆ"
อืม....ม ผมเชื่อเฮีย ของเค้าดีจริง... :D
เปิดผ้ามา....
.....
.....
เปิดผ้า ผ้าคลุมหน้า....:-[
(http://upic.me/i/55/114774-12wince.jpg) (http://upic.me/show/40411514)
.....
.....
สุโค่ย.... ช้างเผือก :D
(http://upic.me/i/fk/130511-48wince.jpg) (http://upic.me/show/40411538)
แล้ว...สายการบินนี้ เค้ายังทำแบบนี้อยู่ปล่าวอ่ะ เฮียหล้า "ไอ แอม เครซี่ ฟอร์ บานานา"
ผมอยากไปบินด้วยอ่ะ :-[
ขอโทษ จขกท. ด้วย ที่พา กท. ออกทะเลนะครับ ???
ปล. อยากชิมขวดนี้อ่ะ เฮียหล้า หิ้วมาฝากด้วยดิครับ เดี๋ยว..ผมกะเฮียคช จะตั้งโต๊ะรอ... :-[
[url=http://upic.me/show/40412235](http://upic.me/i/xc/0images2.jpg) (http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=8kDhSgA4TGQ#!%5B/url)
ตั้งโต้ะรอจะไม่คุ้มทุนนาครัฟฟฟฟ
ผมว่าบินไปกะบาน้าน่า ไปเปิดผ้าคลุมหน้า แล้วก็พาหล่อนๆๆไปชงและจิบเหล้าซะเลยดีกว่าม้าาาาาา
งามซะขนาดนี่...อนุญาติครับ
ความรู้ทั้งนั้น
ดัน ๆ
มึน .....ใส่ล้อซี่1.2 พอแระ แว๊นส์ๆๆๆๆ