ไม่ได้คิดจะเปลี่ยนใจเปลี่ยนแนว หรือเปลี่ยนรถนะครับ
ผมได้คันนี้มาช่วง สิงหา ปี 54 รวมระยะเวลาก็ ประมาณ สี่ปีกว่าแล้วที่อยู่กับผมมา ถือว่าเป็นรถที่ดีคันหนึ่ง มีงอแงบ้างแต่ก็ไม่ถึงกับต้องซ่อมใหญ่(ผ่าเครื่อง)ก็มีเรื่องเล็กๆเช่น แผ่นชาร์ท ออฟรัน หลอดไฟ ประมาณนี้ ไม่ค่อยได้ออกทริปทางไกล (ไปกลับไม่เกิน 100 โล)
มีเดินทางไกลครั้งเดียวตอนได้มาจากเจ้าของ 450 โล ขอนแก่น-แปดริ้ว มีซัด 160 (ไมลหลอกๆ) ตามสภาพถนนจะอำนวย จนปัจจุบัน ก็ขี่เพลินๆไปซื้อกับข้าวบ้าง แว๊นบ้างในบางอารม จนตอนนี้เริ่มรู้สึกว่าเขาเริ่มอ่อนล้าแล้วครับ จากลากรอบทะลุ 10,000 ความเร็ว เกิน 160 แต่ตอนนี้ ลากเกือบแตะขีดแดง ความเร็ว 140 ที่เกียร์ 5 พอตบ 6 รอบตกวูบมาที่ 9,000 แต่ความเร็วกลับสงบนิ่งอยู่ที่ 140 ลากไปต่ออีกก็ไม่เกิน 150 เลย ลืมบอกไป ผม ใช้หัวเทียนแท้เบิกจาก 0 น้ำมัน E20 นานๆถึงจะ E91 2T ใช้ ptt hispeed ผมควรทำไงดีครับ
1. เปลี่ยน ลูก+แหวน ช่วยได้มากไหมครับ
2. เปลี่ยน เสื้อ+ลูก+แหวน ชุดใหญ่ไปเลย
3. ลองปรับจูน คาบูว์ เปลี่ยนหัวเทียน ไหม่ (เพิ่งล้างจูน เมื่ออาทิตย์ก่อน)
4. E20 เกี่ยวไหม (อ่านในห้องสนทนาคงต้องบอกว่าไม่เกี่ยว)
สุดท้ายนี้ต้องขอบอกว่า ขอบคุณครับที่เข้ามา ดู เฉยๆ อ่านเฉยๆ และ เข้ามาตอบ
เปิดเสื้อมาดูถ้าสภาพดีไม่มีรอยถลอกของสารเคลือบ เปลี่ยนลูกเปลี่ยนแหวน แต้ถ้าเอาชัวๆเปลี่ยนเสื้อไปเลย ถ้าท่อนล่างไม่ดังแค่นี้จบ อ่ออย่าลืมเช็คว่าท่อไม่ตันนะครับที่วิ่งไม่ออกเดี๋ยวจะตายน้ำตื้น 555
ตอบ เรื่องแรกลูกและแหวนมีระยะในการเปลี่ยนแต่ไม่ค่อยจะเปลี่ยนกันเรื่องที่สองเสื้อหนึ่งตัวติดรถสามารถใช้งานแตะแสนโลสบายถ้าได้เปลี่ยนแหวนตามระยะกำหนดใช้มาแล้วเปลี่ยนแหวนไปสี่แหวนลูกอีกหนึ่งลูกเรื่องน้ำมันหากจะใช้อี20แบบเนียนๆควรเปลี่ยนนมหนูเป้น45-160ออโตลู้บสำคัญมากควรใช้เกรดสูงหน่อยพวกเอฟดีตัวผมเองได้รถมาปี54เลขไมล25000+ไมลตีกลับเมื่อกันยายนปีที่แล้วตอนรับมาไหม่ๆ31โลต่อลิตรที่รอบ6500ตอนเลขไมล97000เหลือแค่26-27โลต่อลิตรที่รอบ6500เคยเดินทางไกลสุด1080โลไปกลับคนซ้อนรวมคนขับหนัก150โลได้รวมสัมภาระรอบที่ใช้ในการเดินทาง7000-8000หมดน้ำมันไป35.6ลิตรน้ำมันอี20 เนิ่มใช้ตั้งแต่ไมล49000จนถึงปัจจุบัน
ปัจจุบัน00405เลขไมล์แต่พึ่งเอาออกมาจากร้านเพราะจัดหนักครั้งไหญ่เสื้อ,ลูก,แหวน,ก้าน,ฝา,หรีด,ชุดชามคลัท,ชุดแผ่นคลัท,บาล้านเซอร,แกนเสตอร,มอเตอรวาว,ชุดสายไฟ,แผ่นชารต,ท่อ,แกนโช้คหน้าและซีล,โช้คหลัง,โคมไฟหน้า,ชุดสีทั้งคัน,ลูกปืนในเครื่อง,ซีลในเครื่อง,สาเหตุที่จัดหนักที่ผ่านมาไม่เคยผ่าเครื่องและมันไม่เคยงอแงแต่เครื่องมีดังอยุ่เลยจัดหนักให้มันเพราะที่ผ่านมาใช้งานเอง75000โลถือว่าคุ้มค่าสำหรัลผมเลยปรับสภาพครั้งไหญ่ตอนนี้เครื่องเงียบหนักแน่นติดมือขึ้นเยอะรอพ้นรันอินก่อน
อ้างจาก: lettuce เมื่อ กุมภาพันธ์ 24, 2016, 04:28:24 หลังเที่ยง
ไม่ได้คิดจะเปลี่ยนใจเปลี่ยนแนว หรือเปลี่ยนรถนะครับ
ผมได้คันนี้มาช่วง สิงหา ปี 54 รวมระยะเวลาก็ ประมาณ สี่ปีกว่าแล้วที่อยู่กับผมมา ถือว่าเป็นรถที่ดีคันหนึ่ง มีงอแงบ้างแต่ก็ไม่ถึงกับต้องซ่อมใหญ่(ผ่าเครื่อง)ก็มีเรื่องเล็กๆเช่น แผ่นชาร์ท ออฟรัน หลอดไฟ ประมาณนี้ ไม่ค่อยได้ออกทริปทางไกล (ไปกลับไม่เกิน 100 โล)
มีเดินทางไกลครั้งเดียวตอนได้มาจากเจ้าของ 450 โล ขอนแก่น-แปดริ้ว มีซัด 160 (ไมลหลอกๆ) ตามสภาพถนนจะอำนวย จนปัจจุบัน ก็ขี่เพลินๆไปซื้อกับข้าวบ้าง แว๊นบ้างในบางอารม จนตอนนี้เริ่มรู้สึกว่าเขาเริ่มอ่อนล้าแล้วครับ จากลากรอบทะลุ 10,000 ความเร็ว เกิน 160 แต่ตอนนี้ ลากเกือบแตะขีดแดง ความเร็ว 140 ที่เกียร์ 5 พอตบ 6 รอบตกวูบมาที่ 9,000 แต่ความเร็วกลับสงบนิ่งอยู่ที่ 140 ลากไปต่ออีกก็ไม่เกิน 150 เลย ลืมบอกไป ผม ใช้หัวเทียนแท้เบิกจาก 0 น้ำมัน E20 นานๆถึงจะ E91 2T ใช้ ptt hispeed ผมควรทำไงดีครับ
1. เปลี่ยน ลูก+แหวน ช่วยได้มากไหมครับ
2. เปลี่ยน เสื้อ+ลูก+แหวน ชุดใหญ่ไปเลย
3. ลองปรับจูน คาบูว์ เปลี่ยนหัวเทียน ไหม่ (เพิ่งล้างจูน เมื่ออาทิตย์ก่อน)
4. E20 เกี่ยวไหม (อ่านในห้องสนทนาคงต้องบอกว่าไม่เกี่ยว)
สุดท้ายนี้ต้องขอบอกว่า ขอบคุณครับที่เข้ามา ดู เฉยๆ อ่านเฉยๆ และ เข้ามาตอบ
ตั้งกระทู้มาน่าคิดนะท่าน แจ๊ค
ก็จะขอตอบจากประสบการณ์ที่ใช้รถ สองล้อเครื่องมา นาน (ตั้งแต่เริ่มทำงานปี 2521) ผ่านรถมาหลายรุ่นหลายยี่ห้อ ปัจจุบัน ก็สะสมไว้พอควร
สำหรับความคิดเห็นส่วนตัว รถสปอร์ตขนาดพอประมาณกับคนไทย สุดยอดก็ เอ็นโปรนี่แหละ
ข้อดี 1.ขนาดรถเหมาะกับสรีระร่างกายคนไทยที่ส่วนสูงประมาณ 170+- ซ.ม. ขี่ทางไกลไม่เมื่อย ผมขี่ตืดต่อกัน7ชม.+ ประจำ (ทางประจำก็ บางปะอิน-สกลนคร เพราะผมต้องไปเดือนละ2-3ครั้ง) ซื้อ CBR250R มาขี่ได้3เที่ยว ไม่ไหวเมื่อยไหล่มากแทบไปไม่ถึง
2. การทรงตัว ขี่ง่ายอัตราเร่งพริ้วดี จะแซงจะหลบได้ดังใจ เกาะถนนดี เข้าโค้งได้มันส์ (โดยเฉพาะบนภูพาน มันส์มาก) ผมใช้มา5+ปีกว่า ล้มสไลด์ในโค้งครั้งเดียว เพราะรถบรรทุกทรายทำทรายร่วงเต็มถนน ไม่รู้จะหลบทางไหนเลยลื่นล้ม แต่ก็ไม่เป็นไร แค่รถเป็นรอยนิดๆ
3.ระบบไฟฟ้ายอดเยี่ยม ผ่านร้อน ผ่านฝนไม่สะทกสะท้าน ตั้งแต่ใช้มา(รถมือสอง)ยังไม่เคยทำให้เครียดเรื่องไฟฟ้าซักที กล่องไฟก็ทนมาก
4.สวย คลาสสิกกว่า 150 รุ่นอื่นๆ (ความคิดเห็นส่วนตัว น่าจ๊ะ) ขี่ CBR250 แฟนบอกไม่เท่ห์เหมือนเอ็นโปร
5.ถ้าเทียบกับ 150 ค่ายอื่น น่าจะเซฟเงินกว่า ทั้งค่าตัว ค่าอะไล่ ค่าเดินทาง ทางไกลที่ความเร็ว 120+-เล็กน้อย สิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่า CBR250 i ราวๆ 5% (ไม่คิดออโตลูปนะ)
6.เสียงหวานแหว๋ว ยิ่งตอนลากรอบเกิน8พันขึ้นไป ข้อนี้ชอบมาก เป็นเอกลักษณ์ของ2จังหวะ
7.เอ็นโปร อึด ทน ไม่มากเรื่อง ข้อสำคัญ อย่าไปทำไฟแก่ เช่นเจียรลิ่ม มันจะทำให้เสื้อขึ้นขอบ อายุการใช้งานสั้น ปกติรอบก็แตะหมื่นสบายๆแล้ว ถ้าอยากได้รอมมาเร็วขึ้นก็เจียร์ฝาเอาหน่อย
ก็นึกข้อดีได้แค่เนี๊ยะ ด้วยเหตุนี้ผมจึงสะสมไว้ 2 คัน อยากจะหาเก็ยไว้อีกซักคันอยู่
ส่วนข้อเสีย
1.เป้นรถมือสอง มักจะมีตำหนิบ้าง
2.ไม่เป็นที่ต้องตาขนอง คนยุคใหม่(วัยรุ่น)เขาไม่รู้จักกัน รู้จักแต่ชื่อ เช่นรู้ว่าคาบูร์เอ็นโปรดี แต่เจอรถเรากลับถามว่า พี่ๆรถพี่รุ่นไร? เลยไม่มีใครอยากได้ จอดทิ้งข้างทางยังไม่หาย (ผมเคยจอดทิ้งไว้ข้างทางตรงสี่แยกไฟแดง สมเด็จ กาฬสินธุ์ 3วัน3คืน ยังอยู่)
3.โช๊คหลังปรับไม่ได้แข็งไปหน่อย
ส่วนคำถาม ท่านแจ็ค
1.ลูกแหวนโครตทน ถึงจะเกิดเสียงน่ารำคาญ แต่ถ้าไม่ดังมากจนน่าเกลียดและยังติดง่ายอยู่ ก็ใช้ไปเถอะแค่ขูดเขม่าหัวและฝาสูบก็ใช้ได้ ลูกเทียม(rrw)ราคาไม่กี่ร้อย ยังใช้ได้เป็นหมื่นๆโลครับ (ถ้าคาบูเรเตอร์ดี หลวมโครก ยังติด) ถ้าดังมากเปลี่ยนแค่ชุด ลูก+แหวน+สลัก (ถ้าสลักไม่มีรอยก็ไม่ต้องเปลี่ยน)ส่วนเสื้อก็แล้วแต่สภาพ
2.ชุดนี้น่าคิด แท้ศุนย์ อาจขึ้นหลักหมื่นเลยละ คอยเก็บจากที่เขาประกาศขายอาจได้ราคาต่ำลงบ้าง
3.คาบูแท้ ทนถึก จูนก็ไม่ยาก ล้างทีนึงก็อยู่ไปหลายเดือน
4.เรื่อง E20 แล้วแต่จะคิดครับ สำหรับผม มอไซด์และรถยนต์ ทั้งบ้าน ผมใช้แต่ E20 ทั้งนั้น ใช้มาน๊านนานก่อนปีน้ำท่วมใหญ๋(54)อีก ก็ไม่เห็นมีคันไหนมีปัญหา
ข้อแนะนำ หากจะหามอฯไซด์มาใช้ทดแทน
ที่น่าเก็บอีกคันคื่อ CBR 250 R ถึงความเร็วสุดๆถึงได้ไม่เท่าเอ็นโปรก็เถอะ(เพราะส่วนมากเราก็ไม่ได้ขี่ท๊อปสปรีดตลอด) แต่ที่ความเร็ว 120-140 ขี่สนุก เกิน 150 อื้อ แต่ที่น่าใช้เพราะ ขี่แล้วสบายใจไร้กังวลเติมเบนซินอย่างเดียว ทนถึกมากๆ การดูแลรักษาค่าใช้จ่ายน้อย และที่สำคัญ ราคามือสองตอนนี้แค่ 5 หมื่นต้นๆ แล้วแต่สภาพการผ่านการใช้งาน บางคันใช้แค่หมื่นโลนิดหน่อย ผมว่าคุ้มนะครับ
อาดับลิวเอ้นโปรเอฟเอ้สเอ้กแหวนมีอายุการใช้งานและมีระยะกำหนดให้เปลี่ยนจากโรงงานนะท่านอ้อดใช้หลักการรถทั่วไปมิได้
ลูกแหวนเอ้นโปรนะทนอยุ่แต่ที่จะไม่ทนคือสารเคลือบที่แหวนเขาถึงกำหน พอใช้งานแหวนแท้ไปสักพักไหญ่ลองถอดมาสังเกตุดูขอบมันจะคมและไม่ลื่นช่างบ้านๆไม่รู้ก็จะบอกว่าแน่นอยุ่คมกะฝืดนึ่แหละจะไปขูดสารเคลือบที่เสื้อแทนแต่แหวนไหม่ลองสังเกตุดูขอบจะไม่คมเวลาไส่ไปจะลื่นๆ
ถ้าไม่เปลี่ยนตามระยะฝืนใช้คงไม่ถึงแสนโลแน่เสื้อเดิมนะ เต้มที่หกหมื่นก็ขาวมาเยือนแล้ว
ท่านอ้อดถ้าโช้คหลังท่านแข็งแสดงว่าแก้สไปแล้วละเพราะของเดิมมันจะซอพๆไม่แข็งนะ
อ้างจาก: บูรพาพยัคฆ์ เมื่อ กุมภาพันธ์ 28, 2016, 02:20:08 หลังเที่ยง
อาดับลิวเอ้นโปรเอฟเอ้สเอ้กแหวนมีอายุการใช้งานและมีระยะกำหนดให้เปลี่ยนจากโรงงานนะท่านอ้อดใช้หลักการรถทั่วไปมิได้
อ้างจาก: บูรพาพยัคฆ์ เมื่อ กุมภาพันธ์ 28, 2016, 02:27:50 หลังเที่ยง
ลูกแหวนเอ้นโปรนะทนอยุ่แต่ที่จะไม่ทนคือสารเคลือบที่แหวนเขาถึงกำหน พอใช้งานแหวนแท้ไปสักพักไหญ่ลองถอดมาสังเกตุดูขอบมันจะคมและไม่ลื่นช่างบ้านๆไม่รู้ก็จะบอกว่าแน่นอยุ่คมกะฝืดนึ่แหละจะไปขูดสารเคลือบที่เสื้อแทนแต่แหวนไหม่ลองสังเกตุดูขอบจะไม่คมเวลาไส่ไปจะลื่นๆ
อ้างจาก: บูรพาพยัคฆ์ เมื่อ กุมภาพันธ์ 28, 2016, 02:30:57 หลังเที่ยง
ถ้าไม่เปลี่ยนตามระยะฝืนใช้คงไม่ถึงแสนโลแน่เสื้อเดิมนะ เต้มที่หกหมื่นก็ขาวมาเยือนแล้ว
อ้างจาก: บูรพาพยัคฆ์ เมื่อ กุมภาพันธ์ 28, 2016, 02:34:54 หลังเที่ยง
ท่านอ้อดถ้าโช้คหลังท่านแข็งแสดงว่าแก้สไปแล้วละเพราะของเดิมมันจะซอพๆไม่แข็งนะ
ขอบคุณที่แนะนำมาหลายๆอย่างครับ
ผมก็ไม่ได้มีวิชาการอะไรหรอกครับ เพราะร่ำเรียนมาคนละด้าน วิชาที่ใช้ก็ได้จากประสบการณ์ และการที่มีใจรักและชอบซ่อมตามประสาคนมือบอน ชอบรื้อชอบแคะแกะเกลานั่นแหละ และรถผมคงจะวิ่งถึงแสนกิโลยาก คงนานลืมญาติกันไปเลยแหละ เพราะผมต้องวนสลับกันใช้ไปเรื่อยๆ เฉพาะตระกูลเอ็นก็ 4 คันไปแล้ว ยังรุ่นอื่นๆอีก จอดนานไม่ได้ใช้ก็จะมีปัญหาครับ แต่อย่างไรเพื่อกันเหนียวผมก็ตุนอะไหล่ที่สำคัญๆสำหรับเอ็นโปรไว้หลายชุดแล้วครับ
สรุป ผมคงจะไม่เลิกใช้ NSR SP รุ่นนี้จนกว่าจะขี่ไม่ไหวครับ
อ้างจาก: o_nsr เมื่อ กุมภาพันธ์ 25, 2016, 09:59:09 ก่อนเที่ยง
เปิดเสื้อมาดูถ้าสภาพดีไม่มีรอยถลอกของสารเคลือบ เปลี่ยนลูกเปลี่ยนแหวน แต้ถ้าเอาชัวๆเปลี่ยนเสื้อไปเลย ถ้าท่อนล่างไม่ดังแค่นี้จบ อ่ออย่าลืมเช็คว่าท่อไม่ตันนะครับที่วิ่งไม่ออกเดี๋ยวจะตายน้ำตื้น 555
จะลองถอดออกมาดูครับ สำหรับเสื้อ ส่วนท่อเนี้ยยังไม่ได้ลองเผาดูเลย ว่างจะเผาดูครับ
อ้างจาก: บูรพาพยัคฆ์ เมื่อ กุมภาพันธ์ 26, 2016, 08:10:42 หลังเที่ยง
ตอบ เรื่องแรกลูกและแหวนมีระยะในการเปลี่ยนแต่ไม่ค่อยจะเปลี่ยนกันเรื่องที่สองเสื้อหนึ่งตัวติดรถสามารถใช้งานแตะแสนโลสบายถ้าได้เปลี่ยนแหวนตามระยะกำหนดใช้มาแล้วเปลี่ยนแหวนไปสี่แหวนลูกอีกหนึ่งลูกเรื่องน้ำมันหากจะใช้อี20แบบเนียนๆควรเปลี่ยนนมหนูเป้น45-160ออโตลู้บสำคัญมากควรใช้เกรดสูงหน่อยพวกเอฟดีตัวผมเองได้รถมาปี54เลขไมล25000+ไมลตีกลับเมื่อกันยายนปีที่แล้วตอนรับมาไหม่ๆ31โลต่อลิตรที่รอบ6500ตอนเลขไมล97000เหลือแค่26-27โลต่อลิตรที่รอบ6500เคยเดินทางไกลสุด1080โลไปกลับคนซ้อนรวมคนขับหนัก150โลได้รวมสัมภาระรอบที่ใช้ในการเดินทาง7000-8000หมดน้ำมันไป35.6ลิตรน้ำมันอี20 เนิ่มใช้ตั้งแต่ไมล49000จนถึงปัจจุบัน
ขอบคุณครับ
อ้างจาก: aoaaued เมื่อ กุมภาพันธ์ 28, 2016, 10:30:08 ก่อนเที่ยง
อ้างจาก: lettuce เมื่อ กุมภาพันธ์ 24, 2016, 04:28:24 หลังเที่ยง
ไม่ได้คิดจะเปลี่ยนใจเปลี่ยนแนว หรือเปลี่ยนรถนะครับ
ผมได้คันนี้มาช่วง สิงหา ปี 54 รวมระยะเวลาก็ ประมาณ สี่ปีกว่าแล้วที่อยู่กับผมมา ถือว่าเป็นรถที่ดีคันหนึ่ง มีงอแงบ้างแต่ก็ไม่ถึงกับต้องซ่อมใหญ่(ผ่าเครื่อง)ก็มีเรื่องเล็กๆเช่น แผ่นชาร์ท ออฟรัน หลอดไฟ ประมาณนี้ ไม่ค่อยได้ออกทริปทางไกล (ไปกลับไม่เกิน 100 โล)
มีเดินทางไกลครั้งเดียวตอนได้มาจากเจ้าของ 450 โล ขอนแก่น-แปดริ้ว มีซัด 160 (ไมลหลอกๆ) ตามสภาพถนนจะอำนวย จนปัจจุบัน ก็ขี่เพลินๆไปซื้อกับข้าวบ้าง แว๊นบ้างในบางอารม จนตอนนี้เริ่มรู้สึกว่าเขาเริ่มอ่อนล้าแล้วครับ จากลากรอบทะลุ 10,000 ความเร็ว เกิน 160 แต่ตอนนี้ ลากเกือบแตะขีดแดง ความเร็ว 140 ที่เกียร์ 5 พอตบ 6 รอบตกวูบมาที่ 9,000 แต่ความเร็วกลับสงบนิ่งอยู่ที่ 140 ลากไปต่ออีกก็ไม่เกิน 150 เลย ลืมบอกไป ผม ใช้หัวเทียนแท้เบิกจาก 0 น้ำมัน E20 นานๆถึงจะ E91 2T ใช้ ptt hispeed ผมควรทำไงดีครับ
1. เปลี่ยน ลูก+แหวน ช่วยได้มากไหมครับ
2. เปลี่ยน เสื้อ+ลูก+แหวน ชุดใหญ่ไปเลย
3. ลองปรับจูน คาบูว์ เปลี่ยนหัวเทียน ไหม่ (เพิ่งล้างจูน เมื่ออาทิตย์ก่อน)
4. E20 เกี่ยวไหม (อ่านในห้องสนทนาคงต้องบอกว่าไม่เกี่ยว)
สุดท้ายนี้ต้องขอบอกว่า ขอบคุณครับที่เข้ามา ดู เฉยๆ อ่านเฉยๆ และ เข้ามาตอบ
ตั้งกระทู้มาน่าคิดนะท่าน แจ๊ค
ก็จะขอตอบจากประสบการณ์ที่ใช้รถ สองล้อเครื่องมา นาน (ตั้งแต่เริ่มทำงานปี 2521) ผ่านรถมาหลายรุ่นหลายยี่ห้อ ปัจจุบัน ก็สะสมไว้พอควร
สำหรับความคิดเห็นส่วนตัว รถสปอร์ตขนาดพอประมาณกับคนไทย สุดยอดก็ เอ็นโปรนี่แหละ
ข้อดี 1.ขนาดรถเหมาะกับสรีระร่างกายคนไทยที่ส่วนสูงประมาณ 170+- ซ.ม. ขี่ทางไกลไม่เมื่อย ผมขี่ตืดต่อกัน7ชม.+ ประจำ (ทางประจำก็ บางปะอิน-สกลนคร เพราะผมต้องไปเดือนละ2-3ครั้ง) ซื้อ CBR250R มาขี่ได้3เที่ยว ไม่ไหวเมื่อยไหล่มากแทบไปไม่ถึง
2. การทรงตัว ขี่ง่ายอัตราเร่งพริ้วดี จะแซงจะหลบได้ดังใจ เกาะถนนดี เข้าโค้งได้มันส์ (โดยเฉพาะบนภูพาน มันส์มาก) ผมใช้มา5+ปีกว่า ล้มสไลด์ในโค้งครั้งเดียว เพราะรถบรรทุกทรายทำทรายร่วงเต็มถนน ไม่รู้จะหลบทางไหนเลยลื่นล้ม แต่ก็ไม่เป็นไร แค่รถเป็นรอยนิดๆ
3.ระบบไฟฟ้ายอดเยี่ยม ผ่านร้อน ผ่านฝนไม่สะทกสะท้าน ตั้งแต่ใช้มา(รถมือสอง)ยังไม่เคยทำให้เครียดเรื่องไฟฟ้าซักที กล่องไฟก็ทนมาก
4.สวย คลาสสิกกว่า 150 รุ่นอื่นๆ (ความคิดเห็นส่วนตัว น่าจ๊ะ) ขี่ CBR250 แฟนบอกไม่เท่ห์เหมือนเอ็นโปร
5.ถ้าเทียบกับ 150 ค่ายอื่น น่าจะเซฟเงินกว่า ทั้งค่าตัว ค่าอะไล่ ค่าเดินทาง ทางไกลที่ความเร็ว 120+-เล็กน้อย สิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่า CBR250 i ราวๆ 5% (ไม่คิดออโตลูปนะ)
6.เสียงหวานแหว๋ว ยิ่งตอนลากรอบเกิน8พันขึ้นไป ข้อนี้ชอบมาก เป็นเอกลักษณ์ของ2จังหวะ
7.เอ็นโปร อึด ทน ไม่มากเรื่อง ข้อสำคัญ อย่าไปทำไฟแก่ เช่นเจียรลิ่ม มันจะทำให้เสื้อขึ้นขอบ อายุการใช้งานสั้น ปกติรอบก็แตะหมื่นสบายๆแล้ว ถ้าอยากได้รอมมาเร็วขึ้นก็เจียร์ฝาเอาหน่อย
ก็นึกข้อดีได้แค่เนี๊ยะ ด้วยเหตุนี้ผมจึงสะสมไว้ 2 คัน อยากจะหาเก็ยไว้อีกซักคันอยู่
ส่วนข้อเสีย
1.เป้นรถมือสอง มักจะมีตำหนิบ้าง
2.ไม่เป็นที่ต้องตาขนอง คนยุคใหม่(วัยรุ่น)เขาไม่รู้จักกัน รู้จักแต่ชื่อ เช่นรู้ว่าคาบูร์เอ็นโปรดี แต่เจอรถเรากลับถามว่า พี่ๆรถพี่รุ่นไร? เลยไม่มีใครอยากได้ จอดทิ้งข้างทางยังไม่หาย (ผมเคยจอดทิ้งไว้ข้างทางตรงสี่แยกไฟแดง สมเด็จ กาฬสินธุ์ 3วัน3คืน ยังอยู่)
3.โช๊คหลังปรับไม่ได้แข็งไปหน่อย
ส่วนคำถาม ท่านแจ็ค
1.ลูกแหวนโครตทน ถึงจะเกิดเสียงน่ารำคาญ แต่ถ้าไม่ดังมากจนน่าเกลียดและยังติดง่ายอยู่ ก็ใช้ไปเถอะแค่ขูดเขม่าหัวและฝาสูบก็ใช้ได้ ลูกเทียม(rrw)ราคาไม่กี่ร้อย ยังใช้ได้เป็นหมื่นๆโลครับ (ถ้าคาบูเรเตอร์ดี หลวมโครก ยังติด) ถ้าดังมากเปลี่ยนแค่ชุด ลูก+แหวน+สลัก (ถ้าสลักไม่มีรอยก็ไม่ต้องเปลี่ยน)ส่วนเสื้อก็แล้วแต่สภาพ
2.ชุดนี้น่าคิด แท้ศุนย์ อาจขึ้นหลักหมื่นเลยละ คอยเก็บจากที่เขาประกาศขายอาจได้ราคาต่ำลงบ้าง
3.คาบูแท้ ทนถึก จูนก็ไม่ยาก ล้างทีนึงก็อยู่ไปหลายเดือน
4.เรื่อง E20 แล้วแต่จะคิดครับ สำหรับผม มอไซด์และรถยนต์ ทั้งบ้าน ผมใช้แต่ E20 ทั้งนั้น ใช้มาน๊านนานก่อนปีน้ำท่วมใหญ๋(54)อีก ก็ไม่เห็นมีคันไหนมีปัญหา
ข้อแนะนำ หากจะหามอฯไซด์มาใช้ทดแทน
ที่น่าเก็บอีกคันคื่อ CBR 250 R ถึงความเร็วสุดๆถึงได้ไม่เท่าเอ็นโปรก็เถอะ(เพราะส่วนมากเราก็ไม่ได้ขี่ท๊อปสปรีดตลอด) แต่ที่ความเร็ว 120-140 ขี่สนุก เกิน 150 อื้อ แต่ที่น่าใช้เพราะ ขี่แล้วสบายใจไร้กังวลเติมเบนซินอย่างเดียว ทนถึกมากๆ การดูแลรักษาค่าใช้จ่ายน้อย และที่สำคัญ ราคามือสองตอนนี้แค่ 5 หมื่นต้นๆ แล้วแต่สภาพการผ่านการใช้งาน บางคันใช้แค่หมื่นโลนิดหน่อย ผมว่าคุ้มนะครับ
ขอบคุณครับป๋า ที่มาให้ความรู้
ขอถามหน่อย ตอนนี้ผมขับไปตรงคอสะพานกับพื้นถนนมันต่างระดับกัน แล้วตอนผมขับผ่านรถจะกระแทกดัง ปั๊ก!!!แรงมากเลยครับ
อาการแบบนี้ ช๊อคอับหลังน่าจะพังแล้วไหมครับ แบบว่าอุปกรณ์ในกล่องเครื่องมือไต้เบาะ กรทบกันได้ยินชัดเจนเลยอะ
ขอบคุณอีกรอบ
ถ้าโช้คหลังเด้งปั้กๆตามแรงสปริงไม่ซับแรงแสดว่าแก้สในโช้คท่านหมดไปแล้ว
เปลี่ยนลูก+แหวน ยังงัยก้อดีกว่าของเดิมตอนนี้แน่ๆ ผมเดาว่าน่าจะเก่าพอควร
ถ้าเงินถึงเปลี่ยนเสื้อด้วยยิ่งดีใหญ่ครับ
ผมสนับสนุนให้เปลี่ยนครับ งบน้อยจะเปลี่ยนแค่แหวนก้อได้ครับ
แหวนไม่กี่ตังค์ แต่ประโยชน์เกินค่าตัวครับ
1.ได้กำลัง
2.ไม่กินเสื้อ แหวนที่เริ่มหลวมมันจะกินเสื้อให้เป็นรอย
สองข้อนี้ก้อคุ้มละครับ
ถ้าใช้รถเยอะ ผมเปลี่ยนแหวนปีละครั้งครับ
อ้างจาก: Bell Cat เมื่อ มีนาคม 01, 2016, 03:41:55 ก่อนเที่ยง
เปลี่ยนลูก+แหวน ยังงัยก้อดีกว่าของเดิมตอนนี้แน่ๆ ผมเดาว่าน่าจะเก่าพอควร
ถ้าเงินถึงเปลี่ยนเสื้อด้วยยิ่งดีใหญ่ครับ
ผมสนับสนุนให้เปลี่ยนครับ งบน้อยจะเปลี่ยนแค่แหวนก้อได้ครับ
แหวนไม่กี่ตังค์ แต่ประโยชน์เกินค่าตัวครับ
1.ได้กำลัง
2.ไม่กินเสื้อ แหวนที่เริ่มหลวมมันจะกินเสื้อให้เป็นรอย
สองข้อนี้ก้อคุ้มละครับ
ถ้าใช้รถเยอะ ผมเปลี่ยนแหวนปีละครั้งครับ
ขอบคุณครับ คงจะเปลีย่น ลูก+แหวน ก่อนละครับ เสื้อคงจะดูข้างในก่อน ค่อยว่ากันตอนสิ้นปีรอโบนัสก่อนค่อยจัด
อ้างจาก: Bell Cat เมื่อ มีนาคม 01, 2016, 03:41:55 ก่อนเที่ยง
เปลี่ยนลูก+แหวน ยังงัยก้อดีกว่าของเดิมตอนนี้แน่ๆ ผมเดาว่าน่าจะเก่าพอควร
ถ้าเงินถึงเปลี่ยนเสื้อด้วยยิ่งดีใหญ่ครับ
ผมสนับสนุนให้เปลี่ยนครับ งบน้อยจะเปลี่ยนแค่แหวนก้อได้ครับ
แหวนไม่กี่ตังค์ แต่ประโยชน์เกินค่าตัวครับ
1.ได้กำลัง
2.ไม่กินเสื้อ แหวนที่เริ่มหลวมมันจะกินเสื้อให้เป็นรอย
สองข้อนี้ก้อคุ้มละครับ
ถ้าใช้รถเยอะ ผมเปลี่ยนแหวนปีละครั้งครับ
ของเอ้นโปรรอหลวมมิได้นะครับมันมีระยะกำหนดมาจากโรงงานว่าต้องเปลี่ยนเพราะอันที่ผมเปลี่ ยนออกไม่มีอันไหนหลวมสักอันแต่ที่เปลี่ยนเพราะถึงระยะกำหนดที่ต้องเปลี่ยนสารเคลือบที่ขอบแหวนก็แทบจะไม่เหลือแล้ว
แหวนเอ้นโปรเปลี่ยนที่ระยะไม่เกิน20000โลแต่ผมเปลี่ยนที่16000-17000แค่นี้ขอบแหวนก็เริ่มคมเริ่มฝืดแล้วละครับส่วนเรื่องเสื้อถ้างบถคงอยากจัดไหม่ก็ตามวบายแต่ผมยืนยันว่าเสื้อตัวเดิมติดรถแสนโลสบาย
แหวนเอ้นโปรเปลี่ยนที่ระยะไม่เกิน20000โล มันมีบอกในคู่มือหรือครับไม่ได้กวนนะครับอยากรู้จริงๆ
ตอนออกรถจะมีสมุดเช็คระยะจากศูนย์มาให้ถ้าเจ้าของรถยังเก็บไว้ต้องมี
อ้างจาก: o_nsr เมื่อ มีนาคม 03, 2016, 03:35:53 หลังเที่ยง
แหวนเอ้นโปรเปลี่ยนที่ระยะไม่เกิน20000โล มันมีบอกในคู่มือหรือครับไม่ได้กวนนะครับอยากรู้จริงๆ
อ้างจาก: บูรพาพยัคฆ์ เมื่อ มีนาคม 03, 2016, 08:35:39 หลังเที่ยง
ตอนออกรถจะมีสมุดเช็คระยะจากศูนย์มาให้ถ้าเจ้าของรถยังเก็บไว้ต้องมี
ถามต่อนิดนึง หากวิ่ง 20,000 โล.แล้วเครื่องยังแน่นสตาร์ทยังติดง่ายอยู่ ก็ต้องเปลี่ยนใช่มั๊ย? (ความรู้สึกส่วนตัวผม แหวนของ ฮอนด้าเขาจะเคลือบแข็งด้านนอก ตัวเนื้อในอ่อนกว่าเยอะ หากเคลือบหมด เนื้อในแหวนไม่น่าจะทำให้เสื้อสึกได้ เคลือบหมดเครื่องต้องหลวมก็จะติดยาก ถ้ารู้จักใช้น่าจะได้ระยะมากกว่านั้น ดูอย่างรถยนต์ เขาการันตีไว้แสน กม. รถที่บ้านบางคันไมลขึ้นไปรอบที่ 3 แล้วยังวิ่งปกติดีอยู่เลยครับ)
มันคนละหลักการเลยละท่านอ้อดไอ้สารช่วยลื่นหมดขอบแหวนจะคมขึ้นและความฝืดจะมาเยือนแต่แหวนไหม่จะลื่นๆแหวนฮอนด้าไม่ได้เคลือบแข้งนะท่านแต่เคลือบสารช่วยลื่นเคลือบแข้งนะมันของคาวาเขา
อย่าลืมเขม่าในร่องแหวน