ผมมีท่อสูตรอยู่ใบนึง ใส่แล้วสู้ท่อเดิมไม่ได้ ต้นใช้ได้แต่ปลายหดไม่มีแรง ผมก็พอทราบมาบ้างว่าต้อง ปาดฝา ขยับไฟ ขัดพอร์ท ไล่นมหนู แต่ยังไม่กล้าลงมือทำเกรงว่าจะทำแล้วจะไม่ได้ผล
ก็เลยอยากถามผู้รู้ก่อนว่า มันจะช่วยให้อาการของรถดีขึ้นได้ไหมครับ สูตรนี้ใช้ได้กับรถ 2t ทุกรุ่นที่ใส่ท่อสูตรแล้ววิ่งไม่ออกรึปล่าว ผมอยากให้มันวิ่งได้เท่าท่อเดิมก็ใช้ได้แล้ว
พอดีผมชอบเสียงกับรูปทรงของท่อสูตร สภาพเครื่องตอนนี้ฟิต พังเร็วขึ้นผมรับได้ครับ
อยากรู้ด้วยคนครับ เพราะกำลังจะโมอยู่พอดี ผมก็ใช้ท่อสูตรครับของเปียกอมร รอบมาลึกครับปลายมันดี แต่ต้นนั้นสู้ท่อเดิมไม่ได้เลย ก็จะปาดฝาเพิ่มกำลังอัดจะลองสัก0.5มิลก่อนหรือ1มิลไปเลยเพราะเติมe20 แล้วผมก็อยากรู้ ด้วยครับว่าเจียร์ลิ่ม กับ เลื่อนจานไฟ ผมเข้าใจว่ามีค่าเท่ากันทำไงก็ได้ให้แถบแม่เหล็กมันตัดที่พันเซอร์เร็วกว่าเดิมใช่ไหมครับ และเพราะค้นดูกระทู้เก่าๆ ดันไปเจอ ข้อข้อหนึ่งที่บอกว่าyamahaเจียร์ลิ้มไม่ดีกล่องไม่เหมือนค่ายอื่น มันจริงหรือไม่ครับ เจียร์ลิ่มส่วนใหญก็ขับไม่มาก อาจจะ1-2มิล แต่ถ้าขยับจานไฟต้องขยับมากถึง5-6มิลเลยหรือครับ เพราะอะไรชอบคุณครับ
ของผมก็รอบลึกนะ ลากได้แตะ 13000 เลยล่ะ แต่พอขึ้นเกียร์ 5 แรงหดหาย สับ 6 ไม่ต้องสืบ กับเวลาได้รอบมันแรงดึงน้อยกว่าท่อเดิมหน่อยนึง หุหุ ความคิดผมตามที่เข้าใจ
ผมกะจะเล่นฝา 1 มิล ก่อนเพื่อชดเชยกำลังอัดจากท่อที่โล่งขึ้นก่อนยังไม่อยากไปยุ่งกับพอร์ท เผื่อถ้าทำแล้วเน่าจะได้เปลี่ยนแค่ฝาอย่างเดียว
ปกติผมใช้ e20 เหมือนกันครับรถเดิมๆขยับพัลเชอร์ไฟแก่เกือบ 5 mm วิ่งดีใช้ได้ีเลยครับ ผมอยากให้วิ่งดีเท่าท่อเดิมก็พอไม่จำเป็นต้องแรงขึ้น ชอบเสียงท่อสูตรกับรอบลึกๆ
อ้างจาก: Arm TZ เมื่อ มิถุนายน 19, 2014, 08:31:30 หลังเที่ยง
ผมมีท่อสูตรอยู่ใบนึง ใส่แล้วสู้ท่อเดิมไม่ได้ ต้นใช้ได้แต่ปลายหดไม่มีแรง ผมก็พอทราบมาบ้างว่าต้อง ปาดฝา ขยับไฟ ขัดพอร์ท ไล่นมหนู แต่ยังไม่กล้าลงมือทำเกรงว่าจะทำแล้วจะไม่ได้ผล
ก็เลยอยากถามผู้รู้ก่อนว่า มันจะช่วยให้อาการของรถดีขึ้นได้ไหมครับ สูตรนี้ใช้ได้กับรถ 2t ทุกรุ่นที่ใส่ท่อสูตรแล้ววิ่งไม่ออกรึปล่าว ผมอยากให้มันวิ่งได้เท่าท่อเดิมก็ใช้ได้แล้ว
พอดีผมชอบเสียงกับรูปทรงของท่อสูตร สภาพเครื่องตอนนี้ฟิต พังเร็วขึ้นผมรับได้ครับ
อ้างจาก: Arm TZ เมื่อ มิถุนายน 22, 2014, 12:00:38 ก่อนเที่ยง
ของผมก็รอบลึกนะ ลากได้แตะ 13000 เลยล่ะ แต่พอขึ้นเกียร์ 5 แรงหดหาย สับ 6 ไม่ต้องสืบ กับเวลาได้รอบมันแรงดึงน้อยกว่าท่อเดิมหน่อยนึง หุหุ ความคิดผมตามที่เข้าใจ
ผมกะจะเล่นฝา 1 มิล ก่อนเพื่อชดเชยกำลังอัดจากท่อที่โล่งขึ้นก่อนยังไม่อยากไปยุ่งกับพอร์ท เผื่อถ้าทำแล้วเน่าจะได้เปลี่ยนแค่ฝาอย่างเดียว
ปกติผมใช้ e20 เหมือนกันครับรถเดิมๆขยับพัลเชอร์ไฟแก่เกือบ 5 mm วิ่งดีใช้ได้ีเลยครับ ผมอยากให้วิ่งดีเท่าท่อเดิมก็พอไม่จำเป็นต้องแรงขึ้น ชอบเสียงท่อสูตรกับรอบลึกๆ
ท่อจารย์เปี๊ยก เหรอ แหะๆ ลองแล้วครับ รอบลึกมากกกกก แต่ยอมรับว่ามัน ฝุดๆ
อันนี้ไม่เกี่ยวกะท่อจารย์เปี๊ยกนะ ตอบเจ้าของกระจู๋ก่อน
รถพังรับได้นะ อิอิ
แรกๆ ยังไม่ต้องทำอะไรครับ เปลี่ยนเชื้อเพลิงก่อนครับ ลองถ่ายน้ำมันเก่า เอา เบนซิน 95 ใส่แล้วลองเทสต์ดู ผมค่อยข้างเชื่อว่า อาการจะดีขึ้น
กลับมาเชคสีหัวเทียนเล็กน้อย
สมมติว่าดีสมบูรณ์ พูนสุข แต่รู้สึกว่า กำลังยังขาดอยากได้มากกว่านี้ ลองเพิ่มสเตอร์หลังดูครับ ฟัน หรือ 2 ฟัน
จริงๆแล้ว วิชาเครื่องแรง มีอยู่ ประมาณ 2 สาย
สายนึง วิชาสเตอร์เล็ก เพิ่มกำลัง ไม่เพิ่มรอบ
อีกสายนึง เพิ่มรอบ และเพิ่มกำลัง (เล็กน้อย)
ท่อเป็นตัวกำหนดรอบเครื่อง ท่านได้ท่อใบนี้มา เดาว่า ท่านคงได้ ของเล่นสายที่ 2 มา ก็ลองเพิ่มสเตอร์ดูครับ
คิดงี้ครับ สมมติว่า รอบหมุนมากขึ้น แต่กำลังยังเท่าเดิม หากรถท่านพยายาม แหวกอากาศที่ความเร็วมากกว่า แต่รถท่านดันมีพลังเท่าเดิม มันจักแหวกม่าน ได้เยี่ยงไร
พอนึกภาพออกนะ ทีนี้สมมติต่อว่า ดันไปลงตัวที่ การเพิ่มสเตอร์หลัง 2 ฟัน เกียร์รถท่านก็จะชิดขึ้น ไปอีกนิดนึง สับเร็วขึ้น
ต้น ดึงแรงขึ้น ปรี๊ด ปรี๊ด ปรี๊ด
อ่อ ตอนขากลับมาใช้ E20 ก็ ทำคล้ายๆกับ ตอนที่ท่าน ปรับรถเดิม ให้ใช้ E20 แหล่ะครับ แต่ระวังนิดนึง การตั้งองศาไฟจุดระเบิดแก่มากเกินไป แล้วเครื่องยนต์หมุนด้วยรอบสูง ขนาดนั้น ระวังแล้วก็ สังเกตุอาการ ดีๆนะ
อย่าลืมว่า เครื่องยนต์ยิ่งหมุนรอบสูงมากแค่ไหน คาบเวลาในการเผาไหม้ ก็จะน้อยลงไปอีก แล้วก็ อย่าลืมว่า เครื่องยนต์ที่ตั้งองศาไฟ แก่กว่าปกติ จะมีปัญหาต้านรอบให้รอบหมุนสูงๆ
อ่อ ทำเสื้อ ปาดฝา ทำพอต เอาไว้ทีหลัง เพราะทำแล้วเอากลับไม่ได้นะเออ จริงๆ จะบอกว่า เสื้อฝาชุดนั้น ยามาฮ่า ทำมาดีมากๆ แล้วนะ อย่าไปยุ่งกะมันเลย
อ้างจาก: เด็กชาย_โหน่ง_ เมื่อ มิถุนายน 23, 2014, 09:07:09 ก่อนเที่ยง
อ้างจาก: Arm TZ เมื่อ มิถุนายน 19, 2014, 08:31:30 หลังเที่ยง
ผมมีท่อสูตรอยู่ใบนึง ใส่แล้วสู้ท่อเดิมไม่ได้ ต้นใช้ได้แต่ปลายหดไม่มีแรง ผมก็พอทราบมาบ้างว่าต้อง ปาดฝา ขยับไฟ ขัดพอร์ท ไล่นมหนู แต่ยังไม่กล้าลงมือทำเกรงว่าจะทำแล้วจะไม่ได้ผล
ก็เลยอยากถามผู้รู้ก่อนว่า มันจะช่วยให้อาการของรถดีขึ้นได้ไหมครับ สูตรนี้ใช้ได้กับรถ 2t ทุกรุ่นที่ใส่ท่อสูตรแล้ววิ่งไม่ออกรึปล่าว ผมอยากให้มันวิ่งได้เท่าท่อเดิมก็ใช้ได้แล้ว
พอดีผมชอบเสียงกับรูปทรงของท่อสูตร สภาพเครื่องตอนนี้ฟิต พังเร็วขึ้นผมรับได้ครับ
อ้างจาก: Arm TZ เมื่อ มิถุนายน 22, 2014, 12:00:38 ก่อนเที่ยง
ของผมก็รอบลึกนะ ลากได้แตะ 13000 เลยล่ะ แต่พอขึ้นเกียร์ 5 แรงหดหาย สับ 6 ไม่ต้องสืบ กับเวลาได้รอบมันแรงดึงน้อยกว่าท่อเดิมหน่อยนึง หุหุ ความคิดผมตามที่เข้าใจ
ผมกะจะเล่นฝา 1 มิล ก่อนเพื่อชดเชยกำลังอัดจากท่อที่โล่งขึ้นก่อนยังไม่อยากไปยุ่งกับพอร์ท เผื่อถ้าทำแล้วเน่าจะได้เปลี่ยนแค่ฝาอย่างเดียว
ปกติผมใช้ e20 เหมือนกันครับรถเดิมๆขยับพัลเชอร์ไฟแก่เกือบ 5 mm วิ่งดีใช้ได้ีเลยครับ ผมอยากให้วิ่งดีเท่าท่อเดิมก็พอไม่จำเป็นต้องแรงขึ้น ชอบเสียงท่อสูตรกับรอบลึกๆ
ท่อจารย์เปี๊ยก เหรอ แหะๆ ลองแล้วครับ รอบลึกมากกกกก แต่ยอมรับว่ามัน ฝุดๆ
อันนี้ไม่เกี่ยวกะท่อจารย์เปี๊ยกนะ ตอบเจ้าของกระจู๋ก่อน
รถพังรับได้นะ อิอิ
แรกๆ ยังไม่ต้องทำอะไรครับ เปลี่ยนเชื้อเพลิงก่อนครับ ลองถ่ายน้ำมันเก่า เอา เบนซิน 95 ใส่แล้วลองเทสต์ดู ผมค่อยข้างเชื่อว่า อาการจะดีขึ้น
กลับมาเชคสีหัวเทียนเล็กน้อย
สมมติว่าดีสมบูรณ์ พูนสุข แต่รู้สึกว่า กำลังยังขาดอยากได้มากกว่านี้ ลองเพิ่มสเตอร์หลังดูครับ ฟัน หรือ 2 ฟัน
จริงๆแล้ว วิชาเครื่องแรง มีอยู่ ประมาณ 2 สาย
สายนึง วิชาสเตอร์เล็ก เพิ่มกำลัง ไม่เพิ่มรอบ
อีกสายนึง เพิ่มรอบ และเพิ่มกำลัง (เล็กน้อย)
ท่อเป็นตัวกำหนดรอบเครื่อง ท่านได้ท่อใบนี้มา เดาว่า ท่านคงได้ ของเล่นสายที่ 2 มา ก็ลองเพิ่มสเตอร์ดูครับ
คิดงี้ครับ สมมติว่า รอบหมุนมากขึ้น แต่กำลังยังเท่าเดิม หากรถท่านพยายาม แหวกอากาศที่ความเร็วมากกว่า แต่รถท่านดันมีพลังเท่าเดิม มันจักแหวกม่าน ได้เยี่ยงไร
พอนึกภาพออกนะ ทีนี้สมมติต่อว่า ดันไปลงตัวที่ การเพิ่มสเตอร์หลัง 2 ฟัน เกียร์รถท่านก็จะชิดขึ้น ไปอีกนิดนึง สับเร็วขึ้น
ต้น ดึงแรงขึ้น ปรี๊ด ปรี๊ด ปรี๊ด
อ่อ ตอนขากลับมาใช้ E20 ก็ ทำคล้ายๆกับ ตอนที่ท่าน ปรับรถเดิม ให้ใช้ E20 แหล่ะครับ แต่ระวังนิดนึง การตั้งองศาไฟจุดระเบิดแก่มากเกินไป แล้วเครื่องยนต์หมุนด้วยรอบสูง ขนาดนั้น ระวังแล้วก็ สังเกตุอาการ ดีๆนะ
อย่าลืมว่า เครื่องยนต์ยิ่งหมุนรอบสูงมากแค่ไหน คาบเวลาในการเผาไหม้ ก็จะน้อยลงไปอีก แล้วก็ อย่าลืมว่า เครื่องยนต์ที่ตั้งองศาไฟ แก่กว่าปกติ จะมีปัญหาต้านรอบให้รอบหมุนสูงๆ
อ่อ ทำเสื้อ ปาดฝา ทำพอต เอาไว้ทีหลัง เพราะทำแล้วเอากลับไม่ได้นะเออ จริงๆ จะบอกว่า เสื้อฝาชุดนั้น ยามาฮ่า ทำมาดีมากๆ แล้วนะ อย่าไปยุ่งกะมันเลย
ขอบคุณมากเลยครับ สำหรับคำแนะนำดีๆ
มิมีปัญหาครับ
ข้อหา จำได้ว่า เคยมาม่า กันมาก่อน หะๆๆๆ
กึ๋ย....ผมจำไม่ได้ว่าไปมาม่ากับท่านตอนไหน อิอิ ลืมไปแล้วครับ งั้นถามต่อเลยแล้วกัน
ผมมีฝาสูบสำรองไว้เพื่อทดสอบอยู่แล้ว พอดีมันอยู่กับเสื้อฝาชุดเก่าที่ขึนขอบขาวหมดสภาพ ถ้าปาดฝาอย่างเดียว มันจะช่วยให้เห็นผลดีขึ้นไหมครับ คือถ้าปาดแล้วผม
จะถอยไฟให้อ่อนลงจากเดิมที่ตั้งไว้แก่ งานนี้ผมไม่ยุ่งกับพอร์ทอยู่แล้วครับ
เก็บข้อมูลครับ
อ้างจาก: Arm TZ เมื่อ มิถุนายน 23, 2014, 11:17:46 ก่อนเที่ยง
กึ๋ย....ผมจำไม่ได้ว่าไปมาม่ากับท่านตอนไหน อิอิ ลืมไปแล้วครับ งั้นถามต่อเลยแล้วกัน
ผมมีฝาสูบสำรองไว้เพื่อทดสอบอยู่แล้ว พอดีมันอยู่กับเสื้อฝาชุดเก่าที่ขึนขอบขาวหมดสภาพ ถ้าปาดฝาอย่างเดียว มันจะช่วยให้เห็นผลดีขึ้นไหมครับ คือถ้าปาดแล้วผม
จะถอยไฟให้อ่อนลงจากเดิมที่ตั้งไว้แก่ งานนี้ผมไม่ยุ่งกับพอร์ทอยู่แล้วครับ
คือต้องเรียนให้ทราบว่า แค่คุ้นๆ เรื่องไร ไม่รู้ ปล่อยมันเหอะ หะๆๆ
ผมตอบไม่ได้หรอกครับ ว่า ปาดฝาแล้วจะดีขึ้น ไหม คือไม่กล้าฟันธง แต่จะลองเล่าให้ฟังอย่างนี้
จริงๆแล้ว ปริมาตรที่เบ้าฝาสูบนั้น ไม่มีสูตรคำนวนได้ตายตัวหรอกครับ ว่า มันควรจะเป็นเท่าไหร่ เพราะในความเป็นจริงแล้ว คิดเหรอครับว่า เครี่องยนต์แต่ละตัวสูบไอดีได้เท่ากับความจุ คิกๆ
ทีนี้อยากรู้ว่า ดีสุดแค่ไหน ก็ต้องลองทำครับ เวลาปาดก็ เอาซัก 0.2-0.4 มิลลิเมตรพอ ไล่ทีละน้อยๆ ที่ปาดๆกัน ที่ละ มิลครึ่งมิล ผมว่ามันเยอะไป สำคัญคืออย่าโลภ
ถามว่า ปาดฝาเพิ่มกำลังอัดทำไม คือทุกคนเข้าใจตรงกันอยู่แล้วนะว่า ยิ่งอัตราส่วนกำลังอัด สูงจนเกือบถึงขีดจำกัด จะให้งานที่มากกว่า ชิมิ
เพิ่มกำลังอัด ใช้ไฟอ่อน ควรต้องเพิ่มความแรงของไฟด้วยนะ จริงๆในคู่มือซ่อม รู้สึกจะบอกไว้ด้วยว่า ไฟที่ออกจากคอยล์ต้องอยู่ที่กี่โวลต์ กลับบ้านก่อนละกัน
ถามว่าทำไม ต้องเพิ่มความแรงของไฟ สมมติว่า ปริมาณเชื้อเพลิง มีเท่าเดิม แต่อัตราส่วนกำลังอัดเพิ่มขึ้น มันจะติดไฟยากขึ้น ถูกไหม
ที่นี้ ถ้ามันติดยากขึ้น ด้วยไฟที่เขี้ยวหัวเทียนมันเท่าเดิม กว่าจะเผาหมด หรือ กว่าจะถึงแรงดันการเผาไหม้สูงสุด มันก็เลยจุดที่ดีที่สุดไปแล้ว (หลังศูนย์ตายบนไปกี่องศาไม่รู้นะ)
ก็เลยเป็นเหตุให้ต้องเพิ่มไฟ (แยกดีๆนะ เพิ่มไฟ กับ ตั้งแก่ไฟ มันคนละเรื่องกัน)
สุดท้ายผมก็ตอบอะไร ไมได้ ตรงๆ เหมือนเดิม หะๆๆๆ
เออ ระวังด้วยนะ รอบเครื่องหมุนไปขนาดนั้น ระวังทูที กับ น้ำมันด้วยนะ หมุนไปขนาดนั้น พลาดมา ชิปไม่อยู่ทีเดียวเชียว
อ้างจาก: เด็กชาย_โหน่ง_ เมื่อ มิถุนายน 23, 2014, 11:54:54 ก่อนเที่ยง
อ้างจาก: Arm TZ เมื่อ มิถุนายน 23, 2014, 11:17:46 ก่อนเที่ยง
กึ๋ย....ผมจำไม่ได้ว่าไปมาม่ากับท่านตอนไหน อิอิ ลืมไปแล้วครับ งั้นถามต่อเลยแล้วกัน
ผมมีฝาสูบสำรองไว้เพื่อทดสอบอยู่แล้ว พอดีมันอยู่กับเสื้อฝาชุดเก่าที่ขึนขอบขาวหมดสภาพ ถ้าปาดฝาอย่างเดียว มันจะช่วยให้เห็นผลดีขึ้นไหมครับ คือถ้าปาดแล้วผม
จะถอยไฟให้อ่อนลงจากเดิมที่ตั้งไว้แก่ งานนี้ผมไม่ยุ่งกับพอร์ทอยู่แล้วครับ
คือต้องเรียนให้ทราบว่า แค่คุ้นๆ เรื่องไร ไม่รู้ ปล่อยมันเหอะ หะๆๆ
ผมตอบไม่ได้หรอกครับ ว่า ปาดฝาแล้วจะดีขึ้น ไหม คือไม่กล้าฟันธง แต่จะลองเล่าให้ฟังอย่างนี้
จริงๆแล้ว ปริมาตรที่เบ้าฝาสูบนั้น ไม่มีสูตรคำนวนได้ตายตัวหรอกครับ ว่า มันควรจะเป็นเท่าไหร่ เพราะในความเป็นจริงแล้ว คิดเหรอครับว่า เครี่องยนต์แต่ละตัวสูบไอดีได้เท่ากับความจุ คิกๆ
ทีนี้อยากรู้ว่า ดีสุดแค่ไหน ก็ต้องลองทำครับ เวลาปาดก็ เอาซัก 0.2-0.4 มิลลิเมตรพอ ไล่ทีละน้อยๆ ที่ปาดๆกัน ที่ละ มิลครึ่งมิล ผมว่ามันเยอะไป สำคัญคืออย่าโลภ
ถามว่า ปาดฝาเพิ่มกำลังอัดทำไม คือทุกคนเข้าใจตรงกันอยู่แล้วนะว่า ยิ่งอัตราส่วนกำลังอัด สูงจนเกือบถึงขีดจำกัด จะให้งานที่มากกว่า ชิมิ
เพิ่มกำลังอัด ใช้ไฟอ่อน ควรต้องเพิ่มความแรงของไฟด้วยนะ จริงๆในคู่มือซ่อม รู้สึกจะบอกไว้ด้วยว่า ไฟที่ออกจากคอยล์ต้องอยู่ที่กี่โวลต์ กลับบ้านก่อนละกัน
ถามว่าทำไม ต้องเพิ่มความแรงของไฟ สมมติว่า ปริมาณเชื้อเพลิง มีเท่าเดิม แต่อัตราส่วนกำลังอัดเพิ่มขึ้น มันจะติดไฟยากขึ้น ถูกไหม
ที่นี้ ถ้ามันติดยากขึ้น ด้วยไฟที่เขี้ยวหัวเทียนมันเท่าเดิม กว่าจะเผาหมด หรือ กว่าจะถึงแรงดันการเผาไหม้สูงสุด มันก็เลยจุดที่ดีที่สุดไปแล้ว (หลังศูนย์ตายบนไปกี่องศาไม่รู้นะ)
ก็เลยเป็นเหตุให้ต้องเพิ่มไฟ (แยกดีๆนะ เพิ่มไฟ กับ ตั้งแก่ไฟ มันคนละเรื่องกัน)
สุดท้ายผมก็ตอบอะไร ไมได้ ตรงๆ เหมือนเดิม หะๆๆๆ
เออ ระวังด้วยนะ รอบเครื่องหมุนไปขนาดนั้น ระวังทูที กับ น้ำมันด้วยนะ หมุนไปขนาดนั้น พลาดมา ชิปไม่อยู่ทีเดียวเชียว
เมื่อก่อนผมรู้แบบพอผิวเผิน ตอนทำให้ผมกระจ่างกับเรื่องเหล่านี้มากขึ้นเลยทีเดียว ขอบคุณอีกครั้งครับ
ถ้ากำลังอัดมาก ไม่จำเป็นต้องตั้งไฟ แก่ ไฟแก่คือองศาจุดระเบิด เร็วกว่าเดิมใช่ไหม่ครับ แต่การเพ่ิมไฟคือทำให้ไฟแรงขึ้น ทำได้โดยวิธีไดครับ ใช่ มัดไฟ แต่ง หรือป่าวครับ
อ้างจาก: thaibody เมื่อ มิถุนายน 23, 2014, 02:54:54 หลังเที่ยง
ถ้ากำลังอัดมาก ไม่จำเป็นต้องตั้งไฟ แก่ ไฟแก่คือองศาจุดระเบิด เร็วกว่าเดิมใช่ไหม่ครับ แต่การเพ่ิมไฟคือทำให้ไฟแรงขึ้น ทำได้โดยวิธีไดครับ ใช่ มัดไฟ แต่ง หรือป่าวครับ
อันนี้ ถามผม ชิมิ
จริงๆ มันตอบไม่ยากครับ แต่จะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ มันจะพลานงง กันซะหมด
กำลังอัดมากไม่จำเป็นต้องตั้งไฟแก่ ใช่หรือไม่
ก็ไม่ใช่ทั้งหมดนะ ต้องดูก่อนว่า อยากได้อะไร อยากได้เครื่อง หรือ เครื่องตัวนั้นบุคคลิค แบบไหน
ท่อที่ได้มา คนตีเขาตีแบบไหน ทะโหล่ ละกรู
"กำลังอัดมากไม่จำเป็นต้องตั้งไฟแก่ ใช่หรือไม่"
ไม่เสียทั้งหมดครับ ผมสรุปให้ไม่ได้ หรอกครับ ว่า "จะต้อง" เป็นแบบไหน
ไฟแก่ คือ การเพิ่มคาบเวลาให้การเผาไหม้ หรือ จุดก่อนศูนย์ตายบน มากกว่าเดิม เล็กน้อย หรือ มากกว่าอีกเล็กน้อย
ไฟแรง คือ การเพิ่มเอาท์พุตที่หัวเทียน นั่นแหล่ะครับ สมมติว่า เคยเจอเครื่องเก่าๆ ไหมครับ หัวเทียนเดี๋ยวบอด เดี๋ยวบอด ทั้งๆที่ น้ำมันเครื่องก็ไม่ได้เข้าห้องแคร๊งค์ซะหน่อย นั่นแหล่ะ คือมันเผาไม่หมด อันนั้นเลวร้ายสุดๆเลยนะนั่น คือถ้าเผาหมดแต่ไม่ให้กำลัง ยังพอทำเนา แต่อินี่ เผาไม่หมด คิกๆ
ไฟแก่ ก็ ฝานลิ่ม ขยับล้อแม่เหล็ก ขยับจานไฟ เปลี่ยนกล่องเมพ ฯลฯ
ไฟแรงก็ พวก เปลี่ยนคอยล์ เปลี่ยนกล่อง เพิ่มอินพุตที่คอยล์
คือจะบอกว่า มันไม่มีวิธีไหนดี หรือ ถูกที่สุดนะ เล่าให้ฟังเฉยๆ แล้วไปเลือกวิธีเล่นกันเอา
ส่วนเรื่องมัดแต่ง อันนี้ผมไม่ทราบจริงๆ ครับ ไม่เคยเล่นอ่ะครับ แต่เพื่อนผมว่า จี๊ดเบย ยยย
ปล. เข้ามามั่ว
อ้างจาก: Arm TZ เมื่อ มิถุนายน 23, 2014, 02:22:47 หลังเที่ยง
อ้างจาก: เด็กชาย_โหน่ง_ เมื่อ มิถุนายน 23, 2014, 11:54:54 ก่อนเที่ยง
อ้างจาก: Arm TZ เมื่อ มิถุนายน 23, 2014, 11:17:46 ก่อนเที่ยง
กึ๋ย....ผมจำไม่ได้ว่าไปมาม่ากับท่านตอนไหน อิอิ ลืมไปแล้วครับ งั้นถามต่อเลยแล้วกัน
ผมมีฝาสูบสำรองไว้เพื่อทดสอบอยู่แล้ว พอดีมันอยู่กับเสื้อฝาชุดเก่าที่ขึนขอบขาวหมดสภาพ ถ้าปาดฝาอย่างเดียว มันจะช่วยให้เห็นผลดีขึ้นไหมครับ คือถ้าปาดแล้วผม
จะถอยไฟให้อ่อนลงจากเดิมที่ตั้งไว้แก่ งานนี้ผมไม่ยุ่งกับพอร์ทอยู่แล้วครับ
คือต้องเรียนให้ทราบว่า แค่คุ้นๆ เรื่องไร ไม่รู้ ปล่อยมันเหอะ หะๆๆ
ผมตอบไม่ได้หรอกครับ ว่า ปาดฝาแล้วจะดีขึ้น ไหม คือไม่กล้าฟันธง แต่จะลองเล่าให้ฟังอย่างนี้
จริงๆแล้ว ปริมาตรที่เบ้าฝาสูบนั้น ไม่มีสูตรคำนวนได้ตายตัวหรอกครับ ว่า มันควรจะเป็นเท่าไหร่ เพราะในความเป็นจริงแล้ว คิดเหรอครับว่า เครี่องยนต์แต่ละตัวสูบไอดีได้เท่ากับความจุ คิกๆ
ทีนี้อยากรู้ว่า ดีสุดแค่ไหน ก็ต้องลองทำครับ เวลาปาดก็ เอาซัก 0.2-0.4 มิลลิเมตรพอ ไล่ทีละน้อยๆ ที่ปาดๆกัน ที่ละ มิลครึ่งมิล ผมว่ามันเยอะไป สำคัญคืออย่าโลภ
ถามว่า ปาดฝาเพิ่มกำลังอัดทำไม คือทุกคนเข้าใจตรงกันอยู่แล้วนะว่า ยิ่งอัตราส่วนกำลังอัด สูงจนเกือบถึงขีดจำกัด จะให้งานที่มากกว่า ชิมิ
เพิ่มกำลังอัด ใช้ไฟอ่อน ควรต้องเพิ่มความแรงของไฟด้วยนะ จริงๆในคู่มือซ่อม รู้สึกจะบอกไว้ด้วยว่า ไฟที่ออกจากคอยล์ต้องอยู่ที่กี่โวลต์ กลับบ้านก่อนละกัน
ถามว่าทำไม ต้องเพิ่มความแรงของไฟ สมมติว่า ปริมาณเชื้อเพลิง มีเท่าเดิม แต่อัตราส่วนกำลังอัดเพิ่มขึ้น มันจะติดไฟยากขึ้น ถูกไหม
ที่นี้ ถ้ามันติดยากขึ้น ด้วยไฟที่เขี้ยวหัวเทียนมันเท่าเดิม กว่าจะเผาหมด หรือ กว่าจะถึงแรงดันการเผาไหม้สูงสุด มันก็เลยจุดที่ดีที่สุดไปแล้ว (หลังศูนย์ตายบนไปกี่องศาไม่รู้นะ)
ก็เลยเป็นเหตุให้ต้องเพิ่มไฟ (แยกดีๆนะ เพิ่มไฟ กับ ตั้งแก่ไฟ มันคนละเรื่องกัน)
สุดท้ายผมก็ตอบอะไร ไมได้ ตรงๆ เหมือนเดิม หะๆๆๆ
เออ ระวังด้วยนะ รอบเครื่องหมุนไปขนาดนั้น ระวังทูที กับ น้ำมันด้วยนะ หมุนไปขนาดนั้น พลาดมา ชิปไม่อยู่ทีเดียวเชียว
เมื่อก่อนผมรู้แบบพอผิวเผิน ตอนทำให้ผมกระจ่างกับเรื่องเหล่านี้มากขึ้นเลยทีเดียว ขอบคุณอีกครั้งครับ
เมื่อก่อน ผมก็รู้แค่ผิวเผินครับ เด๋วนี้พัฒนาแล้วครับ ก็ยังรู้แค่ผิวเผิน เหมือนเดิมครับ
ตอบได้คลายความสงสัยมากเลยครับ ความรู้เน้นๆๆ เลย ขอบคุณมากครับ
อ้างจาก: เด็กชาย_โหน่ง_ เมื่อ มิถุนายน 23, 2014, 03:44:17 หลังเที่ยง
อ้างจาก: thaibody เมื่อ มิถุนายน 23, 2014, 02:54:54 หลังเที่ยง
ถ้ากำลังอัดมาก ไม่จำเป็นต้องตั้งไฟ แก่ ไฟแก่คือองศาจุดระเบิด เร็วกว่าเดิมใช่ไหม่ครับ แต่การเพ่ิมไฟคือทำให้ไฟแรงขึ้น ทำได้โดยวิธีไดครับ ใช่ มัดไฟ แต่ง หรือป่าวครับ
อันนี้ ถามผม ชิมิ
จริงๆ มันตอบไม่ยากครับ แต่จะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ มันจะพลานงง กันซะหมด
กำลังอัดมากไม่จำเป็นต้องตั้งไฟแก่ ใช่หรือไม่
ก็ไม่ใช่ทั้งหมดนะ ต้องดูก่อนว่า อยากได้อะไร อยากได้เครื่อง หรือ เครื่องตัวนั้นบุคคลิค แบบไหน
ท่อที่ได้มา คนตีเขาตีแบบไหน ทะโหล่ ละกรู
"กำลังอัดมากไม่จำเป็นต้องตั้งไฟแก่ ใช่หรือไม่"
ไม่เสียทั้งหมดครับ ผมสรุปให้ไม่ได้ หรอกครับ ว่า "จะต้อง" เป็นแบบไหน
ไฟแก่ คือ การเพิ่มคาบเวลาให้การเผาไหม้ หรือ จุดก่อนศูนย์ตายบน มากกว่าเดิม เล็กน้อย หรือ มากกว่าอีกเล็กน้อย
ไฟแรง คือ การเพิ่มเอาท์พุตที่หัวเทียน นั่นแหล่ะครับ สมมติว่า เคยเจอเครื่องเก่าๆ ไหมครับ หัวเทียนเดี๋ยวบอด เดี๋ยวบอด ทั้งๆที่ น้ำมันเครื่องก็ไม่ได้เข้าห้องแคร๊งค์ซะหน่อย นั่นแหล่ะ คือมันเผาไม่หมด อันนั้นเลวร้ายสุดๆเลยนะนั่น คือถ้าเผาหมดแต่ไม่ให้กำลัง ยังพอทำเนา แต่อินี่ เผาไม่หมด คิกๆ
ไฟแก่ ก็ ฝานลิ่ม ขยับล้อแม่เหล็ก ขยับจานไฟ เปลี่ยนกล่องเมพ ฯลฯ
ไฟแรงก็ พวก เปลี่ยนคอยล์ เปลี่ยนกล่อง เพิ่มอินพุตที่คอยล์
คือจะบอกว่า มันไม่มีวิธีไหนดี หรือ ถูกที่สุดนะ เล่าให้ฟังเฉยๆ แล้วไปเลือกวิธีเล่นกันเอา
ส่วนเรื่องมัดแต่ง อันนี้ผมไม่ทราบจริงๆ ครับ ไม่เคยเล่นอ่ะครับ แต่เพื่อนผมว่า จี๊ดเบย ยยย
ปล. เข้ามามั่ว
มาแชร์ครับ ตอนแรกว่าจะปาดฝาสูบ แต่ ไปคนลังเก็บของดันเจอลูกtzที่เคยซื้อมาทำjrแล้วถอดเก็บไว้ยังใหม่อยู่เลย เลยเอามาใส่tzmเพราะว่าหัวมันนูนกว่าแรงอัดน่าจะเพิ่ม ผมลองวัดซีๆฝาดู ลูกtzm 13cc. tzr 11.5 cc แล้วผมก็ขัดลื่นไอเสีย รอบมาไวดี รู้สึกต่างจากเก่าเลยช่วง 120-160 แต่ผมไม่กล้าอัดต่อ เพราะ ลูกเพิ่งใส่ แล้วก็ล้อหน้าไม่ไดศูนย์เหล็กถ่วงมันหลวม ขีเกิน150แล้ว มันสบัด ผมอยากทราบครับเวลาขยับพันเซอร์ไฟแก่ต้องย้อนทางกับเครื่องหมุน ใช่ไหมครับ แต่ถ้าผ่าลิ่ม จานไฟต้องหมุนตามเครื่อง ถึงแก่ใช่ไหมครับ
อ้างจาก: thaibody เมื่อ มิถุนายน 23, 2014, 10:24:05 หลังเที่ยง
มาแชร์ครับ ตอนแรกว่าจะปาดฝาสูบ แต่ ไปคนลังเก็บของดันเจอลูกtzที่เคยซื้อมาทำjrแล้วถอดเก็บไว้ยังใหม่อยู่เลย เลยเอามาใส่tzmเพราะว่าหัวมันนูนกว่าแรงอัดน่าจะเพิ่ม ผมลองวัดซีๆฝาดู ลูกtzm 13cc. tzr 11.5 cc แล้วผมก็ขัดลื่นไอเสีย รอบมาไวดี รู้สึกต่างจากเก่าเลยช่วง 120-160 แต่ผมไม่กล้าอัดต่อ เพราะ ลูกเพิ่งใส่ แล้วก็ล้อหน้าไม่ไดศูนย์เหล็กถ่วงมันหลวม ขีเกิน150แล้ว มันสบัด ผมอยากทราบครับเวลาขยับพันเซอร์ไฟแก่ต้องย้อนทางกับเครื่องหมุน ใช่ไหมครับ แต่ถ้าผ่าลิ่ม จานไฟต้องหมุนตามเครื่อง ถึงแก่ใช่ไหมครับ
ใช่ครับตามนั้นเลยครับ อย่าลืมเช็คดูสีหัวเทียนด้วยนะครับอย่าให้บางไป
ลองดูเล่นๆครับ
http://www.youtube.com/watch?v=RgT5JXRuV-4 (http://www.youtube.com/watch?v=RgT5JXRuV-4)
ชอบ ๆๆ อ่านความรู้ทั้งนั้น ชักลืมๆไม่ค่อยได้ใช้ ได้อ่านที่เพื่อนๆคุยกันก็ยังดี จะได้ไม่ลืม
หลังจากที่กำลังอัดเพิ่มขึ้น น้ำมันจะบางลงทันที่ ผมไล่นมหนูไป2เบอร์และขยับเข็มเร่งขึ้นหน้าไปอีกเลยยกลงแล้วเอาป๋อง2tของเชลมาตัดทำแหวนรองเข่มเร่งเอาใช้ได้เลยครับ แล้วรอบมาเนียนแล้วครับ แล้วก็ได้ขยับพันเซอร์ ที่แรก 1มิล ไม่ค่อยเห็นผล แต่พ่อขยับมา 2มิลก็เห็นผลชัดขึ้นคือ รอบต้นมาไว้ แบบตอนใช้ท่อเดิมเลยครับ แล้วรอบ7000รอบขึ้นไปรู้สึกว่าดึงกว่าเก่า ความร้อนแทบไม่ต่างจากเดิมเลย ขึ้นมานิดเดียว เอามือจับเสื้อสูบได้หลังจากซัดมา ผมอยากรู้ว่าผมสามารถขยับพันเซอร์ได้อีกไหมครับ เห็นคุณ Arm TZ บอกว่าขยับไป 5 มิล เพราะผมลองหาดูกระทู้เก่า ตั้งไฟโดยผ่าลิ่ม ส่วนมากผ่าไม่เกิน1มิล แต่ถ้าเราขยับพันเซอร์ 1มิลมันจะเท่ากับผ่าลิม1มิลป่าวครับ เพราะผมขยับไปแล้ว2มิลแล้ว หรือเราจะขยับไปเท่าไหล่ก็ได้ ตราบใดที่เครื่องไม่น็อคหรือป่าว ครับ
"แต่ถ้าเราขยับพันเซอร์ 1มิลมันจะเท่ากับผ่าลิม1มิลป่าวครับ"
ไม่เท่าครับ ลองขยับเล่นๆ ก็ได้ครับ เอาติ่งจุดระเบิดเป็นเกณก็ได้ ขยับไปขยับมา มันจะเกิน 1 มิลลิเมตร
ทั้งนี้ขึ้นอยู่ที่ความโตของล้อแม่เหล็ก
วิชาคณิตศาตร์ ตอน ม.ต้น ถ้าจำไม่ผิด "ภาคตัดกรวย"
"หรือเราจะขยับไปเท่าไหล่ก็ได้ ตราบใดที่เครื่องไม่น็อคหรือป่าว ครับ"
ผิดครับ อาการนอค ไม่ได้เกิดจากการตั้งไฟแก่เกิน นะครับ มันเกิดจากการจุดเองของ เชื้อเพลิง หรือ เขาเรียกว่าชิงจุด
หรือจุดด้วยความร้อน จากตัวมันเอง หรือ จากแหล่งอื่น
แล้วจะต้องขยับเท่าไหร่ ก็ ขยับไป จนกว่า เครื่องมันจะพัง แหล่ะมั้งครับ
คิกๆ
ท้องท่อใหญ่ คือเหมะกับรอบสูงถึงสูงมาก ผลที่ตามมาคือจุดด้อยของคาร์บูที่ยิ่งรอบสูงยิ่งบาง เมื่อน้ำมันบางก็ชิงจุดระเบิดได้ง่ายอาจจะเพราะตั้งไฟแก่หรือเครื่องมันร้อนสะสมอยู่แล้วมันก็จุดระเบิดไอน้ำมันที่มีน้อยอยู่แล้วได้ง่ายๆ ชิงจุดระเบิดก็เกี่ยวกับอ๊อคเทนด้วย 91 ก็ชิงระเบิดง่ายกว่า รถแข่งใช้อ๊อกเทน100 เพราะเครื่องมันร้อนองศาไฟจุดระเบิดแก่ มันจะระเบิดก่อนได้ง่าย แต่ถ้าน้ำมันพอทุกปัญหาก็จบ พวกหัวฉีดจึงมีจุดเด่นขึ้นมา ฉีดน้ำมันได้มากตอนรอบสูงๆ รอบสูงๆพวกรถแข่งไม่ได้เอาน้ำมันเยอะๆมาเพิ่มแรงอย่างเดียวแต่ยังช่วยลดความร้อนอีกด้วย ดูโมโตจีพีตอนเร่งเครื่องออกจากโค้งน้ำมันพุ่งออกจากท่อเป็นฝอยๆเลย หรือพวกรถ dragster ใช้น้ำมันวินาทีละ8ลิตร ไม่ใช่แค่ใช้ระเบิดอย่างเดียวแต่ใช้ลดความร้อนบวกกับการขยายตัวของของเหลวด้วย เรื่องไฟให้แอมป์สูงขึ้นก็สำคัญไม่ใช่เพิ่มโวลต์สูงขึ้นแต่เป็นแอมป์สูงช่วยจุดระเบิดให้เผาให้หมดซึ่งเป็นเรื่องยาก เรื่องพวกนี้คือลดความต้านทานให้แอมป์สูงๆ บ้างก็ใช้สายไฟต่างๆทำด้วยเงิน หรือทองแดงเส้นหนาๆ เมื่อไฟแรงก็แบตหมดไวไฟหน้ามืด หน่วงเครื่องอีกหน่อย คนส่วนใหญ่นึกว่าเพิ่มโวลต์ โวลต์สูงๆมันกระโดดข้ามจุดอื่นแทนเขี่ยวหัวเทียนลงกราวเฉยกลายเป็นหัวเทียนบอด เป็นปัญหาน่าหนักใจพอควร ท่อสูตรที่ว่าเน้นแรงม้ารึเปล่าถ้าเน้นแรงม้าก็ตามนี้ หม้อน้ำธรรมดาๆอาจจะไม่พอต้องใหญ่ๆกว้างๆ
คิดว่ารถแข่ง แท้ๆ ไฟแก่ จริงๆ หรือครับ
ไม่ค่อยแน่ใจนะครับท่านโหน่ง คิดว่าเค้าใช้คอมพิวเตอร์จูนองศาไฟจุดระเบิดครับเป็นกราฟรอบต่างๆ รอบต่ำๆไฟแก่แน่ๆครับ แต่รอบสูงๆจะอ่อนมากๆ แต่น่าจะสูงกว่ารถตลาดครับ มั่วๆนะท่านผิดพลาดประการใดขออภัย
ก็ไม่รู้สิครับ ไม่เคยเจอรถแข่ง แท้ๆ ซักที
อ้างจาก: thaibody เมื่อ มิถุนายน 25, 2014, 02:34:53 หลังเที่ยง
หลังจากที่กำลังอัดเพิ่มขึ้น น้ำมันจะบางลงทันที่ ผมไล่นมหนูไป2เบอร์และขยับเข็มเร่งขึ้นหน้าไปอีกเลยยกลงแล้วเอาป๋อง2tของเชลมาตัดทำแหวนรองเข่มเร่งเอาใช้ได้เลยครับ แล้วรอบมาเนียนแล้วครับ แล้วก็ได้ขยับพันเซอร์ ที่แรก 1มิล ไม่ค่อยเห็นผล แต่พ่อขยับมา 2มิลก็เห็นผลชัดขึ้นคือ รอบต้นมาไว้ แบบตอนใช้ท่อเดิมเลยครับ แล้วรอบ7000รอบขึ้นไปรู้สึกว่าดึงกว่าเก่า ความร้อนแทบไม่ต่างจากเดิมเลย ขึ้นมานิดเดียว เอามือจับเสื้อสูบได้หลังจากซัดมา ผมอยากรู้ว่าผมสามารถขยับพันเซอร์ได้อีกไหมครับ เห็นคุณ Arm TZ บอกว่าขยับไป 5 มิล เพราะผมลองหาดูกระทู้เก่า ตั้งไฟโดยผ่าลิ่ม ส่วนมากผ่าไม่เกิน1มิล แต่ถ้าเราขยับพันเซอร์ 1มิลมันจะเท่ากับผ่าลิม1มิลป่าวครับ เพราะผมขยับไปแล้ว2มิลแล้ว หรือเราจะขยับไปเท่าไหล่ก็ได้ ตราบใดที่เครื่องไม่น็อคหรือป่าว ครับ
ผ่าลิ่ม 1 mm มากกว่าขยับพัลเชอร์ 5 มิลครับ เพราะถ้าผ่าลิ่มเราไปขยับที่จุดศูนย์กลางวงล้อแม่ ขยับ 1 mm ถ้าล้อเหล็กใหญ่แถมแม่เหล็กตรงพัลเชอร์ก็จะไปเยอะ
แต่ขยับพัลเชอร์เราไปขยับที่ส่วนปลายเลยต้องขยับเยอะถึงจะเห็นผลครับ ผมเคยวัดนะตระกูล tz ขยับตรงลิ่ม 1 mm แบบคร่าวๆแถบแม่เหล็กที่ตัดพัลเชอร์ไปถึง 6-7 มิลเลยทีเดียว
ผมเคยไปอ่านเจอบทความของ อ.ศิริบูรณ์ เนาว์ถิ่นสุข "ถ้าเครื่องยนต์เหมือนกันแรงม้าเท่ากัน จูนเนอร์คนไหนใช้ไฟจุดระเบิดอ่อนที่สุด คนนั้นเก่งที่สุด"
อ้างจาก: Arm TZ เมื่อ มิถุนายน 25, 2014, 09:03:31 หลังเที่ยง
ผมเคยไปอ่านเจอบทความของ อ.ศิริบูรณ์ เนาว์ถิ่นสุข "ถ้าเครื่องยนต์เหมือนกันแรงม้าเท่ากัน จูนเนอร์คนไหนใช้ไฟจุดระเบิดอ่อนที่สุด คนนั้นเก่งที่สุด"
ตามนี้เลยครับ
อืม อ.ศิริบุรณ์ เนาว์ถิ่นสุข ที่ลงหนังสือบอกให้คนอย่างเราๆรู้และคิดเป็น ดีมากครับ
แจ่มมากตาโหน่ง