เพื่อนๆมีประสบการณ์ในการซื้อขายรถกันแล้วในกรณีที่คนซื้อต่อเราไปแล้วเค้าก็ไม่ไปโอนเปลี่ยนกรรมสิทธ์ยังขับรถเป็นชื่อเราบ้างก็ใช้นขายต่อไปอีกทอดแล้วชื่อก็ยังเป็นคนแรกอยู่เลยใช้จนบัตรเจ้าของเดิมหมดอายุต้องไปตามหากันวุ่นวาย ผมก็คิดว่าเจ้าของมือแรกๆเค้าก็ไม่น่าจะแฮปปี้ แล้วทำไมคนซื้อก็ยังทนขี่รถในชื่อคนอื่นอยู่อย่างนั้น ไม่น่าจะใช่แนวทางที่ถูกต้องคุณเสียตังส์ซื้อของมาครอบครองแล้วกลับไม่ยอมจัดการเรื่องกรรมสิทธ์ให้ถูกต้องจะได้สบายใจกันทั้งคนซื้อคนขาย ที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาก็ไม่ได้ตั้งใจจะกระทบใครโดยเจาะจง เพราะบางท่านก็ทำเป็นธุรกิจซื้อมาขายไปก็อีกเรื่องเข้าใจในเหตูผลของการที่ต้องคงชุดโอนลอยไว้ แต่ที่ตั้งข้อสังเกตและเสนอแนวคิดนี้ขึ้นมาก็เจอปัญหากะตัวเอง ผมขายรถต่อมือไปอีกทอดไปเป็นปีแล้ววันดีคืนดีก็มีจดหมายสตช.มาแจ้งให้ไปเสียค่าปรับจราจรไม่ใช่แค่ใบเดียวมีมาไม่ต่ำกว่า3ใบติดต่อคนซื้อต่อไปเค้าบอกว่าขายต่อมือไปอีกทอดอแล้วจะติดต่อให้ ผ่านไปอีก2เดือนก็มีใบสั่งจราจรมาอีก เพื่อนๆลองคิดดูถ้าไม่ใช่แค่ใบสั่งจราจรเป็นหมายเรียก หมายศาลคุณจะปวดหัวแค่ไหนถึงจะมีสัญญาซื้อขายก็เถอะ กระทู้นี้ตั้งขึ้นเพื่อแชณ์ประสบการณ์และเสนอแนวคิดใครเห็นต่างอย่างไรยินดีรับฟังครับ
ผม เอง ก็เคยขายรถ ในชื่อตัวเอง แบบ เซนต์ โอนลอย ไป คงไม่ต่ำกว่า 10 คันแล้ว
ยังไม่เคยเจอปัญหา อะไร ....คงยังไม่ถึง คราวซวย กระมัง นิ
Kawasaki AR 125 คันนึง ขายให้ เจ้าที่ รับซื้อล้อแม็กซ์ ในเว็บ นั่น ก็ชื่อผม เป็นเจ้าของ
จากรูปถ่ายที่เห็น ป่านนี้ ไปอยู่ ต่างประเทศโน่นแล้วนิ
บอกให้ น้องเค้า ส่ง สัญญา ซื้อ- ขายมาให้ เซนต์ ก็เงียบไป ..เป็น 2 ปี แล้ว ไม่ทำอะไรสักอย่าง
ก็ ...ไม่เป็นไร ผม ไม่ เคยกลัว เลยว่า จะเกิด โน่น นี่ นั่น ปัญหาอะไร มาหาตัวเอง ในภายหน้า
กลัว ไม่มี ตังค์ ใช้ มากกว่า เพราะ ลูกก็เยอะ เมีย ก็แยะ ;)
นี่เป็น มุมมองส่วนตัว นะครับ คนอื่น คงคิืดไม่เหมือนผมหรอก
.
ผมก็ขี่รถเป็นชื่อคนอื่นมาหลายเดือนแล้วเหมือนกัน ตอนนี้รอเอกสารจากเจ้าของเดิมอยู่ เร็วๆนี้ว่าจะไปโอนซะที ช่วงนี้ก็ขี่แบบระวังไปก่อนครับ
ผมก็ซื้อต่อเค้ามา วันไปดูรถ กำเงินไปยัดใส่มือเจ้าของเดิม
บอกว่า ผมจะเอารถไปก่อน เรื่องโอน ลอยมาเลยก็ได้ เจ้าของเดิม
เค้าไม่ยอม นัดเจอขนส่ง จ่ายตังค์ โอนให้เรียบร้อย สบายใจ
ทุกฝ่าย เค้าบอกกลัว พวกซื้อเอาไปลงภาคใต้ เด๋วจะอยู่ไม่เป็นสุข
ผมเองก็เห็นด้วยนะครับ จบดีทุกฝ่าย
ผมว่า ไม่น่ามีปัญหานะ ของแบบนี้มันเชคกันได้ สำหรับผม ไม่เคยกลัวเรื่องแบบนี้ครับ
ผมขายไปทางใต่้ เพื่อนบอก ไม่กลัวมันเอาไประเบิดเหรอวะ ผมบอก ก็ดีซิ อยากเจอ เรื่องแบบนี้เหมือนกัน มันจะยุ่งขนาดใหน
ผมว่า ซื้อหวย ว่าถูกยากแล้ว เรื่องแบบนี้ ยากกว่า เยอะ ที่จะเจอ
แล้วแต่จังหวะ บางคนก็โดนหนักเลย ชนแล้วหนีหมายศาลมาถึงบ้านกว่าจะแก้ตัวกันได้เหนื่อยเลย
มันเป็นเรื่องน่า ปวดหัว ที่ไม่ควรเกิด. แบบ เค้า อึ แล้ว!! เราต้องไปราดน้ำหรือกดชักโครกให้เค้า .. ธุระมิใช่
กลัวที่สุด เอาไปแล้วยังไม่โอน เสียเวลาไปโรงพัก อิอิ..
อ้างจาก: JO เมื่อ มีนาคม 13, 2014, 09:12:21 ก่อนเที่ยง
กลัวที่สุด เอาไปแล้วยังไม่โอน เสียเวลาไปโรงพัก อิอิ..
ตัวเค้ามีรถหลายคัน ยังไม่ได้โอนเลย ยืมเงินไปโอนหน่อยจิ...
อ้างจาก: ควีนส์ปาร์ค เมื่อ มีนาคม 13, 2014, 11:26:39 ก่อนเที่ยง
อ้างจาก: JO เมื่อ มีนาคม 13, 2014, 09:12:21 ก่อนเที่ยง
กลัวที่สุด เอาไปแล้วยังไม่โอน เสียเวลาไปโรงพัก อิอิ..
ตัวเค้ามีรถหลายคัน ยังไม่ได้โอนเลย ยืมเงินไปโอนหน่อยจิ...
เก็บไว้ซื้อLS ครับ อิอิ..
ถ้าผมขายรถผมๆจัดการแจ้งจอดให้ก่อนแลย จบเรื่อง...
คนซื้อจะเอาไปทำไรต่อก็ทำไป เพราะรถจะต่อทะเบียนไม่ได้ ต้องเอาไปทำโอนก่อน...
สำหรับผมถ้าขาย บังคับโอนครับ
ไม่โอนลอยเด็ดขาด อยากได้โอนลอยก็ไปซื้อคันอื่น
อีกวิธี ทำสัญญา โอนลอย บังคับให้โอนภายในกี่เดือนก็ว่าไป โอนเสร็จคืนตังให้
ถ้าไม่โอนก็ยึดค่าค้ำประกันครับ ขี้คร้านจะรีบโอนในอาทิตย์2อาทิตย์แรกด้วยซ้ำ
ถ้ายังไม่มีปัญหาอะไรก็ดีไป ถ้าคราวซวยขึ้นมาจะว่าไง
จริงๆก็ทำอะไรไม่ได้ ตรวจสอบได้ ว่าเราขายไปแล้ว มีหลักฐานซื้อขายแล้ว (เอกสารจะเก็บไว้นานแค่ไหน ถ้าชอบสะสมเอกสารซื้อขายก็ดีไป แต่ผมไม่)
กรณีที่มีปัญหา เอกสารมียืนยันได้จริง แต่มันใช่เรื่องมั้ย ที่ต้องเสียเวลา เสียงานเสียการ
กะของที่เราขายไปแล้ว 4-5 ปี หรือนานกว่านั้น จนลืมแล้ว
ผมเคยซื้อรถจากพ่อค้ารถ ก็ZX ผมนี่แหล่ะ ได้ชุดโอนลอยมา แต่พ่อค้าเค้าขายรถพร้อมโอน ได้รถพร้อมเล่มที่เป็นชื่อเราเรียบร้อย
รถที่ออกจากร้านเค้า ทุกคัน จะต้องโอนเป็นชื่อลูกค้าเรียบร้อย ถ้าเราจะไม่โอนเค้า หรือบอกจะโอนเองในวันหลัง เค้าจะไม่ขายให้ เค้าบอกมันเป็นจรรยาบรรณ
ขายรถให้เค้าโอนลอยมา แต่ออกจากร้านเค้าต้องชื่อลูกค้าเท่านั้น เค้าเห็นใจคนขายรถให้เค้า ป้องกันทุกกรณีที่อาจเกิดขึ้น
สำหรับพ่อค้า ซื้อโอนลอย ขายโอนลอย ไม่ใส่ใจเจ้าของมือแรก คงไม่ต่อว่าหรือวิจารณ์อะไร ไม่บวกไม่ลบ
แต่ถ้าพ่อค้าที่เป็นแบบที่ผมเจอมา ผมยกนิ้วให้ครับ
ขอบคุณในทุกๆความเห็นและประสบการณ์ ไม่ใช่เฉพาะรถมอเตอร์ไซค์ยิ่งรถยนต์นี่ยิ่งเรื่องสำคัญเลย เสียเวลากับค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อยอย่าละเลย ถ้่รอจนมีปัญหามาแล้วค่อยคิดแก้แล้วจะมานั่งนึกอยากเขกหัวตัวเองครับ
จริงครับ...เห็นด้วยกับทุกๆความคิดเห็นครับ...
อ้างจาก: 150CC.only เมื่อ มีนาคม 13, 2014, 01:04:03 หลังเที่ยง
สำหรับผมถ้าขาย บังคับโอนครับ
ไม่โอนลอยเด็ดขาด อยากได้โอนลอยก็ไปซื้อคันอื่น
อีกวิธี ทำสัญญา โอนลอย บังคับให้โอนภายในกี่เดือนก็ว่าไป โอนเสร็จคืนตังให้
ถ้าไม่โอนก็ยึดค่าค้ำประกันครับ ขี้คร้านจะรีบโอนในอาทิตย์2อาทิตย์แรกด้วยซ้ำ
ถ้ายังไม่มีปัญหาอะไรก็ดีไป ถ้าคราวซวยขึ้นมาจะว่าไง
จริงๆก็ทำอะไรไม่ได้ ตรวจสอบได้ ว่าเราขายไปแล้ว มีหลักฐานซื้อขายแล้ว (เอกสารจะเก็บไว้นานแค่ไหน ถ้าชอบสะสมเอกสารซื้อขายก็ดีไป แต่ผมไม่)
กรณีที่มีปัญหา เอกสารมียืนยันได้จริง แต่มันใช่เรื่องมั้ย ที่ต้องเสียเวลา เสียงานเสียการ
กะของที่เราขายไปแล้ว 4-5 ปี หรือนานกว่านั้น จนลืมแล้ว
ผมเคยซื้อรถจากพ่อค้ารถ ก็ZX ผมนี่แหล่ะ ได้ชุดโอนลอยมา แต่พ่อค้าเค้าขายรถพร้อมโอน ได้รถพร้อมเล่มที่เป็นชื่อเราเรียบร้อย
รถที่ออกจากร้านเค้า ทุกคัน จะต้องโอนเป็นชื่อลูกค้าเรียบร้อย ถ้าเราจะไม่โอนเค้า หรือบอกจะโอนเองในวันหลัง เค้าจะไม่ขายให้ เค้าบอกมันเป็นจรรยาบรรณ
ขายรถให้เค้าโอนลอยมา แต่ออกจากร้านเค้าต้องชื่อลูกค้าเท่านั้น เค้าเห็นใจคนขายรถให้เค้า ป้องกันทุกกรณีที่อาจเกิดขึ้น
สำหรับพ่อค้า ซื้อโอนลอย ขายโอนลอย ไม่ใส่ใจเจ้าของมือแรก คงไม่ต่อว่าหรือวิจารณ์อะไร ไม่บวกไม่ลบ
แต่ถ้าพ่อค้าที่เป็นแบบที่ผมเจอมา ผมยกนิ้วให้ครับ
เป็นทางเลือกที่ดีวิธีหนึงครับ
แต่ผมเองก็ยังไม่ได้โอนรถเป็นชื่อของตนอีกหลายคัน
สิ่งสำคัญสำหรับคนขายคือตอนขาย ต้องทำสัญญาซื้อขายไว้แล้วเก็บให้ดี เมื่อมีปัญหาเราก็เอามาอ้างได้ และตามกฏหมายเท่าที่รู้มาคนซื้อหากไม่โอนเป็นชื่อตนเองภายในกำหนด(อันนี้ผมไม่รู้ระยะเวลา)ก็มีความผิดเหมือนกันครับ
คิดมาก โอนลอยกันทั้งประเทศ 40 ล้านคนโดนกันหมดละ ถ้าเรื่องมันจะเกิด
อีกรายเพื่อนผมเองเป็นตำรวจ (ขนาดตำรวจนะ) ขายรถยนต์ให้เพื่อนที่เป็นตำรวจด้วยกันโรงพักอื่น สักสามเดือนได้ไอ้หมอนั่นเอาไปก่อเหตุยิงคน แล้วเขาจำทะเบียนได้ ปรากฏว่าเพื่อนผมโดนร้อยเวรโรงพักที่เกิดเหตุ เรียกไปสอบในฐานะผู้ต้องหา !!! วิ่งโร่มาหาผมใหญ่ปรึกษาว่าจะทำไงดี มันโมโหคนซื้อมาก แต่ก็รอดมาได้อ่ะนะ เพราะมีหลักฐานการซื้อขายและเขาตามจับคนยิงตัวจริงได้
อ้างจาก: ip-man เมื่อ มีนาคม 13, 2014, 04:31:55 หลังเที่ยง
อีกรายเพื่อนผมเองเป็นตำรวจ (ขนาดตำรวจนะ) ขายรถยนต์ให้เพื่อนที่เป็นตำรวจด้วยกันโรงพักอื่น สักสามเดือนได้ไอ้หมอนั่นเอาไปก่อเหตุยิงคน แล้วเขาจำทะเบียนได้ ปรากฏว่าเพื่อนผมโดนร้อยเวรโรงพักที่เกิดเหตุ เรียกไปสอบในฐานะผู้ต้องหา !!! วิ่งโร่มาหาผมใหญ่ปรึกษาว่าจะทำไงดี มันโมโหคนซื้อมาก แต่ก็รอดมาได้อ่ะนะ เพราะมีหลักฐานการซื้อขายและเขาตามจับคนยิงตัวจริงได้
ก็นั่นแหละครับ
กฎหมายไทยเป็นระบบพยานหลักฐานสุดท้ายหากเราไม่ได้ทำ ความรับผิดก็ไม่เกิดขึ้นได้
ใครสะดวกจะมากพิธีก็เป็นสิทธิส่วนตัวของเขา
แต่สำหรับผมเอง แม้จะเป็นนักกฎหมาย แต่ก็ไม่ใคร่จะมาซีเครียดสสสอะไรมากนักกับกรณีนี้
ค้ารถมาก็เยอะ .แต่ที่เคยซื้อจากมือเจ้าของจริงๆก็น้อยมากประมาณ2-3%
นั่นแสดงให้เห็นว่ารถที่ซื้อขายกัน . ส่วนมากมันโอนลอยกันมาทั้งนั้นแหละครับ
อืม! รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม +1จขกท
ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่มีหลักฐานไม่มีหลักฐาน แต่อยู่ที่การรู้จักป้องกันเหตอันไม่พึงประสงค์น่ะครับอย่าไปบอกว่าเป็นเรื่องคิดมากใครเคยเจอเหตุกะตัวจะไม่กล้าบอกคำนี้ ขอบตุณในทุกความเห็นอีกครั้ง
อ้างจาก: PegasO เมื่อ มีนาคม 13, 2014, 01:11:39 ก่อนเที่ยง
ผมก็ซื้อต่อเค้ามา วันไปดูรถ กำเงินไปยัดใส่มือเจ้าของเดิม
บอกว่า ผมจะเอารถไปก่อน เรื่องโอน ลอยมาเลยก็ได้ เจ้าของเดิม
เค้าไม่ยอม นัดเจอขนส่ง จ่ายตังค์ โอนให้เรียบร้อย สบายใจ
ทุกฝ่าย เค้าบอกกลัว พวกซื้อเอาไปลงภาคใต้ เด๋วจะอยู่ไม่เป็นสุข
ผมเองก็เห็นด้วยนะครับ จบดีทุกฝ่าย
จบแบบนี้ดี ที่ซู้ด
ใจชักไม่ค่อยดี แต่ก็โอนลอยไป 2-3 คันแล้ว ยังไม่มีปัญหา
ผมได้รับมาทอดที่สอง ตอนนี้บัตรเจ้าของหมดอายุ ส่งจดหมายไปขอตามที่อยู่
ส่งไปโอน ไปไห้เซน เช็คข้อมูลแล้วเอกสารถึงบ้านแล้ว แต่เงียบ แบบนี้หมายความว่าไงน้อ
อ้างจาก: vios3455 เมื่อ มีนาคม 15, 2014, 08:07:03 ก่อนเที่ยง
ผมได้รับมาทอดที่สอง ตอนนี้บัตรเจ้าของหมดอายุ ส่งจดหมายไปขอตามที่อยู่
ส่งไปโอน ไปไห้เซน เช็คข้อมูลแล้วเอกสารถึงบ้านแล้ว แต่เงียบ แบบนี้หมายความว่าไงน้อ
ผมก็เจอแบบนี้เหมือนกัน ไม่เซ้นให้ ก็ระเบิดรถทำอะไหล่ไปเลย ไม่ชอบไหว้วานใครให้มีบุญคุณครับ
การซื้อการขายต้องมีหลักฐานครับ
1. ถ้าคุณเป็นคนขี้กลัวหรือกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับท่านเรื่องรถ เวลาขายรถก็บังคับให้ผู้ซื้อไปโอนรถด้วยกัน ซึ่งยากพอสมควรที่จะหาเวลาที่ลงตัวสำหรับผู้ซื้อและผู้ขาย และถ้าผู้ซื้อและผู้ขายอยู่คนละภาค คนละจังหวัดกันล่ะครับ ยิ่งยากเข้าไปใหญ่
2. ถ้าคุณคิดว่ามันไม่น่าจะมีอะไรและเป็นคนที่สบายๆ ซื้อง่ายขายคล่อง ก็โอนลอยได้เลยครับ แต่กันพลาดไว้นิดหน่อยคือ ทำสัญญาซื้อขายไว้ เพื่อเป็นหลักฐาน
3. ถ้าเป็นคนขี้เกียจเก็บหลักฐาน หรือ ไม่ใส่ใจอะไรกับเรื่องพวกนี้ ก็ชิวๆเลยครับ โอนลอยไป อย่าคิดมาก ใครๆเค้าก็ทำกัน
4. ถ้าคุณเป็นคนกลัวมากๆ แม้ว่าคนซื้อจะรับปากแล้วว่าจะรีบโอนให้เสร็จในเร็ววัน หรือแม้กระทั่งทำสัญญาซื้อขายไว้แล้ว ท่านก็ยังไม่สบายใจอยู่ ให้ท่านกลับไปเลือกใช้วิธีการในข้อที่ 1 ครับ หรือ ไม่ต้องขายแม่งเลย จบครับ
เลือกเอาว่าท่านจะเลือกแบบไหนครับ
แต่จะไปโทษคนซื้อฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ครับ ต้องโทษคนขายด้วยที่ไม่รอบคอบ ไม่ทันได้คิดเรื่องพวกนี้ แต่ก็อย่างว่าทุกวันนี้ มิจฉาชีพมันเยอะ ลำพังแค่จะซื้อหรือจะขายรถแบบไม่ให้โดนหลอกยังยากแล้วครับ
ผมก็เคยเจอมาในแบบประมาณนี้เหมือนกันครับ แต่ผมเป็นคนซื้อ และไม่ได้ตั้งใจจะเอารถไปทำอะไรที่ผิดกฏหมาย แค่เอามาขายต่อ แต่เจ้าของเค้าก็ยังโอนลอยมาให้ผม และโทรมาให้ผมรีบๆโอนรถให้เรียบร้อย ซึ่งอันนี้ก็ต้องตกลงกันก่อนซื้อขายด้วยนะครับ ไม่งั้นยุ่ง เสียรมณ์ด้วยกันทั้ง 2 ฝ่ายแน่นอนครับ โดยเฉพาะ เวลาซื้อขายรถกับคนที่อยู่ในละแวกเดียวกันหรือ คนรู้จักกันครับ