พอดีผมมีความสนใจใน2จังหวะมาสักระยะแล้วครับ เลยคิดว่าอยากจะมีไว้ใช้งานสักคันครับ แต่ผมเกิดมาในยุค4จังหวะแล้วครับมีความรู้เรื่องเครื่องนิสหน่อยพอจะซ่อมเองได้บ้าง แต่2จังหวะไม่เคยทำมาก่อนเลยอยากจะถามพี่ๆที่เล่น2จังหวะมานานนมว่า
1 ระหว่างซื้อรถสะภาพดีๆสักคันมาเลยกับซื้อแบบมาปั้นเองแบบไหนจบกว่า
2 ตอนนี้ผมเล่ง ZX 150 ไว้ครับ อะไหล่จะหายากมัยครับ หรือพอจะมีรุ้นไหนแนะนำ ในใจอยากสะสมด้วยแล้วก็ใช้งานในชัวิตประจำวันได้ด้วยนะครับ
ขอบคุณทุกคำตอบนะครับ ???
มุมมองส่วนตัวนะครับ
1.ซื้อแบบ ต้องปั้น นิด ๆ กลาง ๆ แบบ ประเมินดูแล้ว เราไหว เราจะขยับขยาย อะไร ต่อไป ได้บ้าง..
ซื้อรถ หาก ราคา ยิ่งสูง ความเสี่ยง ก็สูงตาม ครับ รถมือ 2 ไม่ต้องซ่อมเลย ไม่เคยมี
2.ดีครับ คงเป็น 2 ที ที่สด ที่สุด..แล้ว ZX 150 แต่อะไหล่แพง กว่าใครเพื่อนเช่นกัน จะแพง กว่า N-PRO ด้วยซ้ำ ในหลาย ๆ ตัว
.
2จังหวะระบบไม่ซับซ้อนเหมือน4จังหวะ ถ้ามีความรู้ทางช่างอยู่แล้วยิ่งง่ายครับ
- ซื้อสำเร็จดีกว่า ถ้าจะปั้นต้องใจรักจริงๆครับ
- อะไหล่zxยังพอมีให้เบิกอยู่ครับ บางตัวหายากก็หามือสองแทน แต่ราคาอาจแรงไปนิ๊ดดด
ลองหาข้อมูลหลายๆรุ่นก่อนก็ได้ครับ
2จังหวะดีครับ!
แรง เสียงหวาน เสียอย่างเดียวไม่เหนียวเหมือน4จังหวะครับ
อ้างจาก: pune_pune เมื่อ มกราคม 13, 2014, 10:06:44 หลังเที่ยง
พอดีผมมีความสนใจใน2จังหวะมาสักระยะแล้วครับ เลยคิดว่าอยากจะมีไว้ใช้งานสักคันครับ แต่ผมเกิดมาในยุค4จังหวะแล้วครับมีความรู้เรื่องเครื่องนิสหน่อยพอจะซ่อมเองได้บ้าง แต่2จังหวะไม่เคยทำมาก่อนเลยอยากจะถามพี่ๆที่เล่น2จังหวะมานานนมว่า
1 ระหว่างซื้อรถสะภาพดีๆสักคันมาเลยกับซื้อแบบมาปั้นเองแบบไหนจบกว่า
2 ตอนนี้ผมเล่ง ZX 150 ไว้ครับ อะไหล่จะหายากมัยครับ หรือพอจะมีรุ้นไหนแนะนำ ในใจอยากสะสมด้วยแล้วก็ใช้งานในชัวิตประจำวันได้ด้วยนะครับ
ขอบคุณทุกคำตอบนะครับ ???
ยินดีครับ ที่มีคนสนใจมันเพิ่มขึ้น
1.1 ถ้าซื้อมาปั้นเอง ต้องถามว่าแรงใจ ล้นหลามไหมหล่ะครับ เพราะท่านจะเจอปัญหา หาของไม่ได้ หาได้แต่ราคาแพง ซื้อมาราคาแรงแต่ใช้ไม่ได้ ซื้อหลังพัน ปั้นหลักหมื่น
1.2 ซื้อรถที่ทำมาจนจบแล้ว ก็จะเจอปัญหาอีก รู้จักไหมครับ "สวยแต่รูป จูบแล้วเหม็น" เพราะท่านจะเจอกลิ่นขี้ฟัน คุยขโมงโฉงเฉง ยุคก่อน สามสี่ปีที่แล้ว ไม่มีครับ คนประเภทนี้ แต่ตอนนี้ ช่วงนี้เยอะมาก เข้าใจใครก็อยากขาย แต่คำว่ามิตรภาพที่สมอ้าง มันไม่มีจริงแล้ว
"รถสีสวย รวยของแต่ง เสียงเหมือนจะแรง แต่วิ่งได้ไม่ดี" มันมีเยอะแยะครับ
ไม่อยากโทษนักปั้นรถนะครับ เพราะจริงๆ นักปั้นรถทุกคนเจอปัญหาเดียวกันหมดครับ ถ้าปั้นใหม่ เอาให้หล่อ ทั้งในและนอก ราคารวมเบ็ดเสร็จ เกือบจะเกินรถใหม่ สมมติว่า เงิน 10,000 บาท ที่คุณคิดว่าจะจบ ผิดครับ เงิน10000 จะได้แค่ ท่อนบนใหม่ แทบไม่เหลือค่าแรงคนทำ
สุดท้าย ราคาขาย บวกกำไรพอสมควร ก็เกินที่คนซื้อใช้ จะรับได้แล้วครับ เพราะราคารถ จะเกินราคารถมือสองประมาณ 4 เท่าตัว (สำหรับรถที่ไม่ใช่รถยอดฮิตติดลมบน) เคอาร์ตูดเป็ดตัวแรก ราคาซื้อขาย ก็แถวๆ 5000-8000 บาท จับมาอาบน้ำอาบท่า แก้ผ้าผ่าไส้ ขายเกิน 30,000 จะซื้อไหม?
2. เล็ง ZX-150 หรือครับ ก็ดีนะ แต่ผมขี่แล้วเหมือนนั่ง อยู่บนรถ ไม่ได้เป็นหรืออยู่ในส่วนหนึ่งของรถ แต่ก็ช่างเหอะ เด๋วสาวก ZX จะด่าผมอีก อะไหล่หายากไหม คิดว่าไม่ยากนะ แค่จะมีเงินเบิก หรือเปล่า คนในเวบนี้ มีหลายคนที่พอจะมีเส้นสายเส้นทางเบิกอะไหล่ใหม่ ในราคาใหม่ให้ท่านได้หลายต่อหลายคน
คำแนะนำของผม ผมว่าท่าน เล่นรถที่เขาไม่เล่นเถอะครับ โดยเฉพาะ รถใหม่ค้างสตอค ถ้ากัดฟันซื้อไหวซื้อไปเถอะ ราคา อาจจะเกือบเท่าเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว แต่คุ้มครับ ถามว่าทำไมหน่ะเหรอ ในเวบนี้ เล่นรถเฉพาะกลุ่ม เฉพาะรุ่น แค่นั้น ไม่ได้เล่นทุกรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์สองจังหวะ นะครับ
คิดเล่นๆ ก็ ราวๆ 30 เปอร์เซนต์ ของจำนวนรุ่นรถที่ออกมาขาย หรืออาจจะไม่ถึง เสียด้วยซ้ำไป
อะไหล่ที่แพงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดก็มีแค่
150 ซีซีของ คาวาซากิ ทุกรุ่น
150 ซีซีของ ฮอนด้า บางรุ่น โดยเฉพาะ โปรอาร์ม
150 ซีซีของ ยามาฮ่า มีแค่ ทีแซดเอ็ม ทีแซดอาร์ กับ วีอาร์ แต่ก็เป็นประชากรส่วนน้อย ประมาณ 10-15 เปอร์เซน ที่หน้าเสียดายคือ อะไหล่ยามาฮ่า เขาว่า โดนทำลายทิ้งไปเยอะ ก็เลยทำให้ ราคาไม่แพง แต่หาของยาก
ซูนี่ไม่ต้องพูดถึง น้อยเกิน แกรมม่า เล่นกันถึงๆ ไม่เกิน 10 คน ตัวรถสมบูรณ์ๆ มีซัก 5 คันที่วิ่งได้มั้ง อาร์จีวี นี่ ลืมไปได้เลย จะว่าโม้ก็ได้ เพราะเหมือนจะมีแค่ผมคนเดียวที่เล่น (เวร)
เลี่ยงไปเล่นรุ่นที่เขาลืมๆ กันก็ดีนะครับ เห็นเขาว่า แถวๆ กทม. มีเพียบ ถ้าอยากได้ ลีโอสตาร์ ก็ ศรีราชามี จอด 3 คัน
ส่วนเรื่องการเอามาใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่ค่อยแนะนำ แฮะ แต่ถ้าสะสม เอาไว้ขี่เล่นเฉพาะกิจ อันนี้เห็นด้วย
แต่สิ่งที่ควรจำเอาไว้ อย่าเล่นตามใคร ให้เล่นอย่างที่ใจอยากทำก็พอ การเล่นตามชาวบ้าน ทำกระเป๋าฉีก ตูดบานมาแล้ว หลายสิบคน
ตามนั้น อิอิ
พีโหน่งจัดเต็ม...
ขอบคุนพี่ๆทุกคนที่เข้ามาตอบมากครับโดยเฉพาะพี่ เด็กชาย_โหน่ง_ ครับผม อีกอย่างที่สงสัยครับ ที่พี่บอกว่า เล็ง ZX-150 หรือครับ ก็ดีนะ แต่ผมขี่แล้วเหมือนนั่ง อยู่บนรถ ไม่ได้เป็นหรืออยู่ในส่วนหนึ่งของรถ มันเป็นยังไงเหรอครับ ผมก็ไม่เคยลองขี่2จังหวะแบบไกลๆสะด้วยสิเคยแต่ลองของพี่แถวบ้านเป็น KR 150แต่ก็แค่ทางสั้นๆรู้สึกว่าแรงดีตูดสะบัด :o
อ้างจาก: pune_pune เมื่อ มกราคม 14, 2014, 01:00:03 หลังเที่ยง
ขอบคุนพี่ๆทุกคนที่เข้ามาตอบมากครับโดยเฉพาะพี่ เด็กชาย_โหน่ง_ ครับผม อีกอย่างที่สงสัยครับ ที่พี่บอกว่า เล็ง ZX-150 หรือครับ ก็ดีนะ แต่ผมขี่แล้วเหมือนนั่ง อยู่บนรถ ไม่ได้เป็นหรืออยู่ในส่วนหนึ่งของรถ มันเป็นยังไงเหรอครับ ผมก็ไม่เคยลองขี่2จังหวะแบบไกลๆสะด้วยสิเคยแต่ลองของพี่แถวบ้านเป็น KR 150แต่ก็แค่ทางสั้นๆรู้สึกว่าแรงดีตูดสะบัด :o
แรงหน่ะมันแรงอยู่แล้วครับ แรงกว่าเครื่อง 4 จังหวะค่อนข้างแน่นอน อีกอย่างสเน่ห์ของเครื่องยนต์คาวา คือมัน ขี่ง่าย ให้แรงบิดที่ดี ตั้งแต่รอบต่ำ (ต่ำกว่ายี่ห้ออื่นๆในซีซีเท่ากัน) ขี่ในเมืองจะสนุกมาก อันนี้คอนเฟิร์มครับ เมื่อก่อนใช้อยู่
ส่วนเรื่อง ที่ถาม อันนี้เป็นไสยศาตสตร์ส่วนตัว เป็นความเชื่อส่วนบุคคล กับ เป็นเรื่องของความรู้สึกเฉยๆ นะ ไม่ต้องเชื่อก็ได้
เรื่องของเรื่อง เคยนั่งแซดเอ็กซ์ของลูกค้า ที่เอามาทำหน่ะครับ คือนั่งแล้วมัน ลอยๆ จะว่าแรงๆ ก็เหมือนนั่งขอนไม้ หน่ะครับ คือที่นั่งมันสูงไป หน่ะครับ ปาดเบาะแล้ว มันแก้ไม่หายด้วย เนื่องจากการออกแบบตัวรถ ของเขา
อารมณ์ประมาณ เบาะสูง แฮนด์ต่ำ ส่วนตัวผม ผมไม่ชอบท่านั่ง แนวๆ นี้
ซึ่งมันแตกต่างกับ โปรอาร์ม ที่เคยขี่ (ของเพื่อน) ท่านั่งมันจะ คล้ายรถนั่งอยู่ในรถ เหมือนโอบถังอยู่
บอกแล้วนะว่าเป็นความเชื่อความรู้สึกส่วนบุคคล ดังนั้น ท่านมีสิทธิ์ ที่จะไม่เชื่อนะครับ
ใช่ว่าโปรอาร์มจะดีเลิศนะครับ ข้อเสียเรื่องการขับขี่มันก็มี นะ ผมเจอข้อนึง เจอวันเดียวกับที่เอารถเพื่อนไปซัด มานั่นแหล่ะ อิอิ
ก็คือ รถมันเหมือนจะมั่นคงเกินไป ไม่ใช่เกินไปสิ มันนิ่ง จนคนที่เคยขี่รถที่เลี้ยวง่าย คล่องตัว อย่างเคอาร์ เซอร์ปิโก้ แทบร้องเลย วันนั้นหวด ออกมาจากพิท คือปกติ เซอร์มันแค่ เลี้ยว แต่นี่เลี้ยวแล้วมันไม่ไป ฮา าาาา เอาซะฟราย เลย ลงไปเกี่ยวหญ้าข้างสนาม
เรียกได้ว่า จะเลี้ยวต้องย้ายก้น แหล่ะ
รถมันขี่แล้วเหมือนจะค่อนข้างหนักครับ ไม่คล่องตัวเหมือน ค่ายคาวา ถ้าเอามาใช้ในเมือง คิดว่า คงเหนื่อย
ค่ายอื่นๆ ไม่ต้องถามนะครับ ยังไม่เคยขี่
ทีนี้ จะเอารุ่นไหน ถ้าได้ลองขี่ จะดีมาก ถ้าขี่แล้วชอบ ก็ซื้อโลด
แต่ตอนนี้ ผมเลิกใช้สองจังหวะไปไหนมาไหนแล้ว บังเอิญไปหลงรัก เบสส์ 125 กับ เรดเดอร์ 150 ที่คล่องตัวกว่า ยิ่งเบสส์125 นี่ยิ่งชอบใหญ่เลย เพราะมันมีตะกร้า มีที่เก็บของ มีคลัชมือ มีล้อแมกซ์ ดิสเบรคด้วย แถมแรงดี อีกตะหาก แต่ไม่ต้องถามนะครับ เพราะรถที่ผมขี่ ไม่มีเครื่องเดิมซักคัน คิกๆ
อ้างจาก: เด็กชาย_โหน่ง_ เมื่อ มกราคม 14, 2014, 02:05:48 หลังเที่ยง
อ้างจาก: pune_pune เมื่อ มกราคม 14, 2014, 01:00:03 หลังเที่ยง
ขอบคุนพี่ๆทุกคนที่เข้ามาตอบมากครับโดยเฉพาะพี่ เด็กชาย_โหน่ง_ ครับผม อีกอย่างที่สงสัยครับ ที่พี่บอกว่า เล็ง ZX-150 หรือครับ ก็ดีนะ แต่ผมขี่แล้วเหมือนนั่ง อยู่บนรถ ไม่ได้เป็นหรืออยู่ในส่วนหนึ่งของรถ มันเป็นยังไงเหรอครับ ผมก็ไม่เคยลองขี่2จังหวะแบบไกลๆสะด้วยสิเคยแต่ลองของพี่แถวบ้านเป็น KR 150แต่ก็แค่ทางสั้นๆรู้สึกว่าแรงดีตูดสะบัด :o
แรงหน่ะมันแรงอยู่แล้วครับ แรงกว่าเครื่อง 4 จังหวะค่อนข้างแน่นอน อีกอย่างสเน่ห์ของเครื่องยนต์คาวา คือมัน ขี่ง่าย ให้แรงบิดที่ดี ตั้งแต่รอบต่ำ (ต่ำกว่ายี่ห้ออื่นๆในซีซีเท่ากัน) ขี่ในเมืองจะสนุกมาก อันนี้คอนเฟิร์มครับ เมื่อก่อนใช้อยู่
ส่วนเรื่อง ที่ถาม อันนี้เป็นไสยศาตสตร์ส่วนตัว เป็นความเชื่อส่วนบุคคล กับ เป็นเรื่องของความรู้สึกเฉยๆ นะ ไม่ต้องเชื่อก็ได้
เรื่องของเรื่อง เคยนั่งแซดเอ็กซ์ของลูกค้า ที่เอามาทำหน่ะครับ คือนั่งแล้วมัน ลอยๆ จะว่าแรงๆ ก็เหมือนนั่งขอนไม้ หน่ะครับ คือที่นั่งมันสูงไป หน่ะครับ ปาดเบาะแล้ว มันแก้ไม่หายด้วย เนื่องจากการออกแบบตัวรถ ของเขา
อารมณ์ประมาณ เบาะสูง แฮนด์ต่ำ ส่วนตัวผม ผมไม่ชอบท่านั่ง แนวๆ นี้
ซึ่งมันแตกต่างกับ โปรอาร์ม ที่เคยขี่ (ของเพื่อน) ท่านั่งมันจะ คล้ายรถนั่งอยู่ในรถ เหมือนโอบถังอยู่
บอกแล้วนะว่าเป็นความเชื่อความรู้สึกส่วนบุคคล ดังนั้น ท่านมีสิทธิ์ ที่จะไม่เชื่อนะครับ
ใช่ว่าโปรอาร์มจะดีเลิศนะครับ ข้อเสียเรื่องการขับขี่มันก็มี นะ ผมเจอข้อนึง เจอวันเดียวกับที่เอารถเพื่อนไปซัด มานั่นแหล่ะ อิอิ
ก็คือ รถมันเหมือนจะมั่นคงเกินไป ไม่ใช่เกินไปสิ มันนิ่ง จนคนที่เคยขี่รถที่เลี้ยวง่าย คล่องตัว อย่างเคอาร์ เซอร์ปิโก้ แทบร้องเลย วันนั้นหวด ออกมาจากพิท คือปกติ เซอร์มันแค่ เลี้ยว แต่นี่เลี้ยวแล้วมันไม่ไป ฮา าาาา เอาซะฟราย เลย ลงไปเกี่ยวหญ้าข้างสนาม
เรียกได้ว่า จะเลี้ยวต้องย้ายก้น แหล่ะ
รถมันขี่แล้วเหมือนจะค่อนข้างหนักครับ ไม่คล่องตัวเหมือน ค่ายคาวา ถ้าเอามาใช้ในเมือง คิดว่า คงเหนื่อย
ค่ายอื่นๆ ไม่ต้องถามนะครับ ยังไม่เคยขี่
ทีนี้ จะเอารุ่นไหน ถ้าได้ลองขี่ จะดีมาก ถ้าขี่แล้วชอบ ก็ซื้อโลด
แต่ตอนนี้ ผมเลิกใช้สองจังหวะไปไหนมาไหนแล้ว บังเอิญไปหลงรัก เบสส์ 125 กับ เรดเดอร์ 150 ที่คล่องตัวกว่า ยิ่งเบสส์125 นี่ยิ่งชอบใหญ่เลย เพราะมันมีตะกร้า มีที่เก็บของ มีคลัชมือ มีล้อแมกซ์ ดิสเบรคด้วย แถมแรงดี อีกตะหาก แต่ไม่ต้องถามนะครับ เพราะรถที่ผมขี่ ไม่มีเครื่องเดิมซักคัน คิกๆ
ขอบคุณพี่มากครับเข้าใจแจ่มแจ้ง ครับผม^^
ต้องลองนั่งTZM และนั่ง พวกZX KR NSR สลับกันครับ ยิ่งถ้าได้ลองขี่นะจะรู้ว่านั่งบนรถหรือ อยู่ในรถมันเป็นยังไง
เข้ามาดู เด็กชายโหน่ง บ่นๆๆๆ ฮ้า ฮ้า
ตามนั้น ชอบท่าทางการนั่งของTZMครับ มันคุมรถนิ่ง ง่ายดี แต่รถใหญ่ หนัก และอืด
TZR ก็เบาไป หน้าสูง ตูดต่ำ เน้นแวนส์ทางตรงอะมันส์ เขาเลยแหละ
แต่NSR เป็นอะไรที่เลี้ยวง่ายกว่าในโค้งกว่า (รวมทั้งตัวโปรอาร์มด้วย) โค้งแคบๆต้องเขาเลยหละ ไปได้เร็วมากๆ (เทียบกะKR กะ TZM)
ส่วนKR มันเน้นเลี้ยวง่าย เอียงตัวก็เข้าโค้งได้แล้ว ไม่ต้องย้ายก้นถ่ายน้ำหนักมากมาย ไปชิลล์ๆ แรงบิดรอบต่ำดี ทำให้ขี่ง่าย แต่ถ้าเป็นโค้ง Hi speed ที่เข้ากันระดับความเร็ว140ขึ้นไป แต่เวลาโหนก็มีเสียวๆ เหมือนรถมันเบา หน้ามันไวไป มีว๊อกแว๊ก อาจจะเป็นที่การออกแบบรถให้ช่วงหน้ามันสูง จุดศูนย์ถ่วงเลยไม่ดี ต้องให้คนขี่แบบถนัดๆจนชิน ถึงจะเข้าได้พริ้ว
ของแบบนี้ แนวใครแนวมัน อยู่ที่ชอบ แล้วจะรู้ว่ารถมันใช่ ต่อเมื่อใจมันบอก
หาที่จบๆจะดีกว่าครับไม่ต้องมานั่งปั้นให้เสียเวลา รอจังหวะงามๆ เดี๋ยวก็มีปล่อยมาเรื่อยๆ KAWA ก็เห็นแต่ KR นี่แร่ะอะไหล่พอหาง่าย ณ ตอนนี้
พี่ชอบฮอนด้า แบนโค้งมันส์จุง
:Dมาแล้ว zen sonic. ขาแบนของจริง
เอ็นโปรเห้อ ขี่มาหมดละ ยังไงก็รักคันนี้นะ
เอาตามที่ใจตัวเองชอบนะ ดีเเล้วครับ จะได้ไม่ฝืนความรู้สึกตัวเอง
ปล.ผมมีทั้ง ZX ทั้ง N PRO นะ รักทั้งสองคันเลย..
คันนึงไหลปลายเข้าโค้งนิ่ง อิกคัน นั่งไกลๆไม่ปวดหลัง
ตีนต้นปรุ๊ดปร๊าด..เลือกเอาครับ...
อ้างจาก: เดช..ไอ้เสื้อทอง เมื่อ มกราคม 13, 2014, 11:09:21 หลังเที่ยง
มุมมองส่วนตัวนะครับ
1.ซื้อแบบ ต้องปั้น นิด ๆ กลาง ๆ แบบ ประเมินดูแล้ว เราไหว เราจะขยับขยาย อะไร ต่อไป ได้บ้าง..
ซื้อรถ หาก ราคา ยิ่งสูง ความเสี่ยง ก็สูงตาม ครับ รถมือ 2 ไม่ต้องซ่อมเลย ไม่เคยมี
2.ดีครับ คงเป็น 2 ที ที่สด ที่สุด..แล้ว ZX 150 แต่อะไหล่แพง กว่าใครเพื่อนเช่นกัน จะแพง กว่า N-PRO ด้วยซ้ำ ในหลาย ๆ ตัว
.
ชอบอันนี้ครับ จขกท. ตรงๆเลย เข้าใจง่าย และที่สำคัญ เจ้าของ คคห. เป็นพ่อค้าจับรถ และขายอะไหล่ ย่อมรู้และเห็นราคารถและราคาอะไหล่มามาก
รถราคาแรงและจบ ไม่ต้องทำอะไร มันไม่มีจริงหรอก มีแต่แรงโม้ ยังไงท่านต้องมีงบแต่งตามใจแยกไว้ต่างหากอีก
เป็นซากเอามาปั้นก็จุกแน่ แพงกว่าซื้อแน่นอน เอาสภาพมาซัก70-80%แต่ของสำคัญอยู่ครบ ราคาอาจแพงนิดๆแพงกว่าซาก มาทำต่อจะดีกว่า
อยากเล่นสะสม เอาความขลังก็อิงกระแส อยากเล่นเพื่อขี่เพื่อสนุกไม่ต้องอิงกระแสก็ได้ เพราะจะสบายกระเป๋ากว่าเยอะ
ทุกอย่างต้องตัวเราเป็นหลัก รุ่นนั้นเข้าโค้งดี รุ่นนี้รอบปลายดีบิด200 รุ่นนั้นเป็นงั้นเป็นงี้ หาข้อมูลมาหน่ะดีแล้ว
แต่ว่า ถ้าไม่ได้ใช้มันจะเอามาทำไม เอาพอดีที่เราใช้ที่เราชอบก็พอมั้งครับ จะได้ไม่ต้องจ่ายหนัก
ทุกวันนี้ ยังอ่านอาการรถไม่ออกเลยครับ ว่าคันไหนดี คันไหนขี่ยาก คือที่ขี่ ๆ อยู่ ก็แค่ชอบอะครับ "ชอบ" คำเดียวเท่านั้น พยายามอยากเป็นนักแข่งอย่างเค้าบ้าง อยากทำรถให้มันขี่ดี ขี่แรงอย่างเค้าบ้าง มีตังค์ก็ทำ ไม่มีตังค์ก็หยุดครับ อนาคต ถ้ามีตังค์ คงจะหาโปรอาร์มมาทำเป็นตัวแข่งลองดูสักทีครับ ไม่มีอะไรครับ ก็แค่ลูกชายผม ชื่อ "โปรอาร์ม" ครับ
เก็บข้อมูล
อ้างจาก: เด็กชาย_โหน่ง_ เมื่อ มกราคม 14, 2014, 02:05:48 หลังเที่ยง
อ้างจาก: pune_pune เมื่อ มกราคม 14, 2014, 01:00:03 หลังเที่ยง
ขอบคุนพี่ๆทุกคนที่เข้ามาตอบมากครับโดยเฉพาะพี่ เด็กชาย_โหน่ง_ ครับผม อีกอย่างที่สงสัยครับ ที่พี่บอกว่า เล็ง ZX-150 หรือครับ ก็ดีนะ แต่ผมขี่แล้วเหมือนนั่ง อยู่บนรถ ไม่ได้เป็นหรืออยู่ในส่วนหนึ่งของรถ มันเป็นยังไงเหรอครับ ผมก็ไม่เคยลองขี่2จังหวะแบบไกลๆสะด้วยสิเคยแต่ลองของพี่แถวบ้านเป็น KR 150แต่ก็แค่ทางสั้นๆรู้สึกว่าแรงดีตูดสะบัด :o
แรงหน่ะมันแรงอยู่แล้วครับ แรงกว่าเครื่อง 4 จังหวะค่อนข้างแน่นอน อีกอย่างสเน่ห์ของเครื่องยนต์คาวา คือมัน ขี่ง่าย ให้แรงบิดที่ดี ตั้งแต่รอบต่ำ (ต่ำกว่ายี่ห้ออื่นๆในซีซีเท่ากัน) ขี่ในเมืองจะสนุกมาก อันนี้คอนเฟิร์มครับ เมื่อก่อนใช้อยู่
ส่วนเรื่อง ที่ถาม อันนี้เป็นไสยศาตสตร์ส่วนตัว เป็นความเชื่อส่วนบุคคล กับ เป็นเรื่องของความรู้สึกเฉยๆ นะ ไม่ต้องเชื่อก็ได้
เรื่องของเรื่อง เคยนั่งแซดเอ็กซ์ของลูกค้า ที่เอามาทำหน่ะครับ คือนั่งแล้วมัน ลอยๆ จะว่าแรงๆ ก็เหมือนนั่งขอนไม้ หน่ะครับ คือที่นั่งมันสูงไป หน่ะครับ ปาดเบาะแล้ว มันแก้ไม่หายด้วย เนื่องจากการออกแบบตัวรถ ของเขา
อารมณ์ประมาณ เบาะสูง แฮนด์ต่ำ ส่วนตัวผม ผมไม่ชอบท่านั่ง แนวๆ นี้
ซึ่งมันแตกต่างกับ โปรอาร์ม ที่เคยขี่ (ของเพื่อน) ท่านั่งมันจะ คล้ายรถนั่งอยู่ในรถ เหมือนโอบถังอยู่
บอกแล้วนะว่าเป็นความเชื่อความรู้สึกส่วนบุคคล ดังนั้น ท่านมีสิทธิ์ ที่จะไม่เชื่อนะครับ
ใช่ว่าโปรอาร์มจะดีเลิศนะครับ ข้อเสียเรื่องการขับขี่มันก็มี นะ ผมเจอข้อนึง เจอวันเดียวกับที่เอารถเพื่อนไปซัด มานั่นแหล่ะ อิอิ
ก็คือ รถมันเหมือนจะมั่นคงเกินไป ไม่ใช่เกินไปสิ มันนิ่ง จนคนที่เคยขี่รถที่เลี้ยวง่าย คล่องตัว อย่างเคอาร์ เซอร์ปิโก้ แทบร้องเลย วันนั้นหวด ออกมาจากพิท คือปกติ เซอร์มันแค่ เลี้ยว แต่นี่เลี้ยวแล้วมันไม่ไป ฮา าาาา เอาซะฟราย เลย ลงไปเกี่ยวหญ้าข้างสนาม
เรียกได้ว่า จะเลี้ยวต้องย้ายก้น แหล่ะ
รถมันขี่แล้วเหมือนจะค่อนข้างหนักครับ ไม่คล่องตัวเหมือน ค่ายคาวา ถ้าเอามาใช้ในเมือง คิดว่า คงเหนื่อย
ค่ายอื่นๆ ไม่ต้องถามนะครับ ยังไม่เคยขี่
ทีนี้ จะเอารุ่นไหน ถ้าได้ลองขี่ จะดีมาก ถ้าขี่แล้วชอบ ก็ซื้อโลด
แต่ตอนนี้ ผมเลิกใช้สองจังหวะไปไหนมาไหนแล้ว บังเอิญไปหลงรัก เบสส์ 125 กับ เรดเดอร์ 150 ที่คล่องตัวกว่า ยิ่งเบสส์125 นี่ยิ่งชอบใหญ่เลย เพราะมันมีตะกร้า มีที่เก็บของ มีคลัชมือ มีล้อแมกซ์ ดิสเบรคด้วย แถมแรงดี อีกตะหาก แต่ไม่ต้องถามนะครับ เพราะรถที่ผมขี่ ไม่มีเครื่องเดิมซักคัน คิกๆ
ท่านผู้นี้ขยันพิมพ์จริงๆ นับถือๆ อ่ะ+1 ให้ครับ
เห็บข้อมูล เผื่อมาปั้นรถบ้าง
เก็บข้อมูลครับ
เก็บข้อมูลเหมือนกันครับ
ขออีกนิดครับผม เสื้อปลอก กับ เสื้อไม่ปลอกดูเหมือนจะมีอิธิพลกับชาวสองจังหวะจังเลยครับ อยากทราบว่า ระหว่าเสื่อปลอกแล้วกับไม่ปลอกมันต่างกันมากเลยเหรอครับ :P
อ้างจาก: pune_pune เมื่อ มกราคม 19, 2014, 08:08:44 หลังเที่ยง
ขออีกนิดครับผม เสื้อปลอก กับ เสื้อไม่ปลอกดูเหมือนจะมีอิธิพลกับชาวสองจังหวะจังเลยครับ อยากทราบว่า ระหว่าเสื่อปลอกแล้วกับไม่ปลอกมันต่างกันมากเลยเหรอครับ :P
แล้วแต่ปัจจัยครับ ถ้าปลอกดี ๆ เหล็กดี ๆ พอร์ทเนียน ๆ ก็ไม่มีผลหรอกครับ
แต่ถ้าเนียนไม่พอ ก็มีปัญหาความร้อน ส่วนมากเค้าก็เลยเลือกเสื้อที่ไม่ปลอก มาตีปลอกเองดีกว่าน่ะครับ
//หมายถึง ถ้ามันจะมีปัญหา ก็ให้มีปัญหาด้วยมือตัวเอง หรือด้วยความประมาทของตัวเอง ดีกว่าน่ะครับ ;)
อ้างจาก: pune_pune เมื่อ มกราคม 19, 2014, 08:08:44 หลังเที่ยง
ขออีกนิดครับผม เสื้อปลอก กับ เสื้อไม่ปลอกดูเหมือนจะมีอิธิพลกับชาวสองจังหวะจังเลยครับ อยากทราบว่า ระหว่าเสื่อปลอกแล้วกับไม่ปลอกมันต่างกันมากเลยเหรอครับ :P
ก็นะ เอาให้สั่นสะเทือนเลยไหมครับ รู้สึกอยากกินผลกุระ กุระ นะครับ คิกๆ
Honda RC116 1966 เครื่องยนต์ 4 จังหวะ 2 สูบ 50 ซีซี แรงม้าสูงสุด อยู่ราว ๆ 19 แรงม้า ที่ 21,500 รอบต่อนาที
Suzuki RP 668 1968 เครื่องยนต์ 2 จังหวะ 3 สูบ 50 ซีซี แรงม้าสูงสุด ราวๆ 19 แรงม้า ที่ 20,000 รอบต่อนาที่
รถสองคัน นี้ เกิดเมื่อ ราวๆ 47 ปีที่แล้ว ซึ่ง เทคโนโลยีโลหะวิทยา แล้วก็ การพัฒนาของสารหล่อลื่น ยัง ไม่ก้าวไกลขนาดนี้
ทำไม มัน อยู่ได้จนจบการแข่งขันหล่ะครับ
เสื้อปลอกไม่ปลอกนี่ มันปัญหาโลกแตกชัดๆ เถียงกันตั้งแต่เปิดเวบแล้วมั้ง ว่าอันไหนดีกว่า
ของมันแน่อยู่แล้วครับ เสื้อที่เคลือบผิว ยังไงมันก็ดีกว่าอยู่แล้วครับ ไร้รอยต่อ ทอเต็มผืน แต่รู้สึกจะไม่เหมาะกับนีสัยคนไทยแฮะ
เพราะส่วนมาก เสื้อ ลูกแหวน ชุดเดียว เสียวตั้งแต่ตอนทำยันลูกบวช
เคล็ดลับง่ายๆ ในการใช้เสื้อเคลือบสารพิเศษ ต่างๆ ก็คือ ทำตามข้อกำหนดของผู้ผลิตให้ได้ อย่างเช่น มี จยย. ยี่ห้อหนึ่งกำหนดให้ เปลี่ยนลูกสูบแหวน ทุกๆ 20,000 กิโลเมตร ฯลฯ
เสื้อเคลือบ พวกนี้รู้ไหมครับว่ามัน แพ้อะไร ของพวกนี้ แพ้ของคมๆ แหลมๆ นะครับ โดยเฉพาะแหวนที่มีความคม เพราะผ่านการใช้งานมายาวนาน
ขอบแหวนทุกๆยี่ห้อ ทั้งปลอกและไม่ปลอก เข้าลบมุมแหวนก็เพราะเหตุนี้แหล่ะครับ
แล้วก็ อันนี้ความเห็นส่วนตัว ไม่มีหลักฐาน เหมือนเดิม ผมมองว่า การที่หลายๆ ค่ายๆ พยายามพัฒนาเทคโนโลยี สารเคลือบผิวพวกนี้มีเหตุผล
ประมาณนี้
อย่างแรก ไม่มีอะไรจะขาย
อย่างที่สอง ขยายขีดจำกัดเครื่องยนต์
จริงๆมันก็แค่ พยายามหา อะไรที่มันฝืดน้อยๆ เสียพลังงานน้อยๆ แล้วก็ เกิดอยากทะลึ่งหมุนซัก 16,000 -18,000 แล้วไม่ต้องพัฒนา สารหล่อลื่นให้มันเกาะผิวโลหะได้ดีขึ้น เพราะ ตัวมันเองก็ลื่น
หรือ .... จะเคยคิดถึงกันไหมหนอ ในเครื่องยนต์สองจังหวะ มีข้อด้อยหนึ่งข้อ ที่ให้ตายก็สู้เครื่องสี่จังหวะ ไม่ได้ก็คือ เอาเชื้อเพลิงเพียวๆไปเผาไม่ได้
มันก็คล้ายๆ ทำไม ต้องพัฒนาเครื่องระบายความร้อนด้วยน้ำออกมานั่นแหล่ะครับ ถ้ารู้จักถ่างตา หาอะไรอ่านกันบ้างก็จะรู้นะครับ ว่ามันคืออะไร
หลายๆคนรังเกียจเสื้อปลอก รวมถึงผมด้วย ปัญหาหลักๆ ก็ หนึ่งวัสดุที่เอามา ทำปลอก สองความเนียนของรูต่างๆ ว่ามันเหมือนเดิมไหม แค่นั้นเองครับ
หรือง่ายๆ ซื้อมาแล้วให้ความมั่นใจไม่ได้ว่า มันจะตีมาเหมือนเดิม
ส่วนเสื้อไม่ปลอก ปัญหาที่พบเจอมาก คือ ขอบขึ้นขาวครับ ขึ้นเป็นวงๆ ที่มันขึ้นเป็นวงๆ ก็เพราะ ไม่ยอมเปลี่ยนแหวน ตามระยะ ที่เขากำหนดแหล่ะ
จริงๆ คนส่วนใหญ่ไม่ได้รังเกียจเสื้อปลอกหรอกครับ แต่รังเกียจเสื้อปลอกที่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำมามากกว่านะ
อ้างจาก: เด็กชาย_โหน่ง_ เมื่อ มกราคม 20, 2014, 09:57:04 ก่อนเที่ยง
อ้างจาก: pune_pune เมื่อ มกราคม 19, 2014, 08:08:44 หลังเที่ยง
ขออีกนิดครับผม เสื้อปลอก กับ เสื้อไม่ปลอกดูเหมือนจะมีอิธิพลกับชาวสองจังหวะจังเลยครับ อยากทราบว่า ระหว่าเสื่อปลอกแล้วกับไม่ปลอกมันต่างกันมากเลยเหรอครับ :P
ก็นะ เอาให้สั่นสะเทือนเลยไหมครับ รู้สึกอยากกินผลกุระ กุระ นะครับ คิกๆ
Honda RC116 1966 เครื่องยนต์ 4 จังหวะ 2 สูบ 50 ซีซี แรงม้าสูงสุด อยู่ราว ๆ 19 แรงม้า ที่ 21,500 รอบต่อนาที
Suzuki RP 668 1968 เครื่องยนต์ 2 จังหวะ 3 สูบ 50 ซีซี แรงม้าสูงสุด ราวๆ 19 แรงม้า ที่ 20,000 รอบต่อนาที่
รถสองคัน นี้ เกิดเมื่อ ราวๆ 47 ปีที่แล้ว ซึ่ง เทคโนโลยีโลหะวิทยา แล้วก็ การพัฒนาของสารหล่อลื่น ยัง ไม่ก้าวไกลขนาดนี้
ทำไม มัน อยู่ได้จนจบการแข่งขันหล่ะครับ
เสื้อปลอกไม่ปลอกนี่ มันปัญหาโลกแตกชัดๆ เถียงกันตั้งแต่เปิดเวบแล้วมั้ง ว่าอันไหนดีกว่า
ของมันแน่อยู่แล้วครับ เสื้อที่เคลือบผิว ยังไงมันก็ดีกว่าอยู่แล้วครับ ไร้รอยต่อ ทอเต็มผืน แต่รู้สึกจะไม่เหมาะกับนีสัยคนไทยแฮะ
เพราะส่วนมาก เสื้อ ลูกแหวน ชุดเดียว เสียวตั้งแต่ตอนทำยันลูกบวช
เคล็ดลับง่ายๆ ในการใช้เสื้อเคลือบสารพิเศษ ต่างๆ ก็คือ ทำตามข้อกำหนดของผู้ผลิตให้ได้ อย่างเช่น มี จยย. ยี่ห้อหนึ่งกำหนดให้ เปลี่ยนลูกสูบแหวน ทุกๆ 20,000 กิโลเมตร ฯลฯ
เสื้อเคลือบ พวกนี้รู้ไหมครับว่ามัน แพ้อะไร ของพวกนี้ แพ้ของคมๆ แหลมๆ นะครับ โดยเฉพาะแหวนที่มีความคม เพราะผ่านการใช้งานมายาวนาน
ขอบแหวนทุกๆยี่ห้อ ทั้งปลอกและไม่ปลอก เข้าลบมุมแหวนก็เพราะเหตุนี้แหล่ะครับ
แล้วก็ อันนี้ความเห็นส่วนตัว ไม่มีหลักฐาน เหมือนเดิม ผมมองว่า การที่หลายๆ ค่ายๆ พยายามพัฒนาเทคโนโลยี สารเคลือบผิวพวกนี้มีเหตุผล
ประมาณนี้
อย่างแรก ไม่มีอะไรจะขาย
อย่างที่สอง ขยายขีดจำกัดเครื่องยนต์
จริงๆมันก็แค่ พยายามหา อะไรที่มันฝืดน้อยๆ เสียพลังงานน้อยๆ แล้วก็ เกิดอยากทะลึ่งหมุนซัก 16,000 -18,000 แล้วไม่ต้องพัฒนา สารหล่อลื่นให้มันเกาะผิวโลหะได้ดีขึ้น เพราะ ตัวมันเองก็ลื่น
หรือ .... จะเคยคิดถึงกันไหมหนอ ในเครื่องยนต์สองจังหวะ มีข้อด้อยหนึ่งข้อ ที่ให้ตายก็สู้เครื่องสี่จังหวะ ไม่ได้ก็คือ เอาเชื้อเพลิงเพียวๆไปเผาไม่ได้
มันก็คล้ายๆ ทำไม ต้องพัฒนาเครื่องระบายความร้อนด้วยน้ำออกมานั่นแหล่ะครับ ถ้ารู้จักถ่างตา หาอะไรอ่านกันบ้างก็จะรู้นะครับ ว่ามันคืออะไร
หลายๆคนรังเกียจเสื้อปลอก รวมถึงผมด้วย ปัญหาหลักๆ ก็ หนึ่งวัสดุที่เอามา ทำปลอก สองความเนียนของรูต่างๆ ว่ามันเหมือนเดิมไหม แค่นั้นเองครับ
หรือง่ายๆ ซื้อมาแล้วให้ความมั่นใจไม่ได้ว่า มันจะตีมาเหมือนเดิม
ส่วนเสื้อไม่ปลอก ปัญหาที่พบเจอมาก คือ ขอบขึ้นขาวครับ ขึ้นเป็นวงๆ ที่มันขึ้นเป็นวงๆ ก็เพราะ ไม่ยอมเปลี่ยนแหวน ตามระยะ ที่เขากำหนดแหล่ะ
จริงๆ คนส่วนใหญ่ไม่ได้รังเกียจเสื้อปลอกหรอกครับ แต่รังเกียจเสื้อปลอกที่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำมามากกว่านะ
สะเทือนเลยครับผม ขอบคุณมากครับ เท่านี้ก็หมดขอสงสัยแล้วครับผม :o
อ้างจาก: กาฝาก เมื่อ มกราคม 20, 2014, 09:39:07 ก่อนเที่ยง
อ้างจาก: pune_pune เมื่อ มกราคม 19, 2014, 08:08:44 หลังเที่ยง
ขออีกนิดครับผม เสื้อปลอก กับ เสื้อไม่ปลอกดูเหมือนจะมีอิธิพลกับชาวสองจังหวะจังเลยครับ อยากทราบว่า ระหว่าเสื่อปลอกแล้วกับไม่ปลอกมันต่างกันมากเลยเหรอครับ :P
แล้วแต่ปัจจัยครับ ถ้าปลอกดี ๆ เหล็กดี ๆ พอร์ทเนียน ๆ ก็ไม่มีผลหรอกครับ
แต่ถ้าเนียนไม่พอ ก็มีปัญหาความร้อน ส่วนมากเค้าก็เลยเลือกเสื้อที่ไม่ปลอก มาตีปลอกเองดีกว่าน่ะครับ
//หมายถึง ถ้ามันจะมีปัญหา ก็ให้มีปัญหาด้วยมือตัวเอง หรือด้วยความประมาทของตัวเอง ดีกว่าน่ะครับ ;)
ขอบคุณคราบผม พังด้วยมือตัวเองดีกว่าใช่มัยครับ 555+ (ผิดเป็นครู)
เก็บด้วยคน
อ้างจาก: pune_pune เมื่อ มกราคม 20, 2014, 10:47:39 ก่อนเที่ยง
อ้างจาก: กาฝาก เมื่อ มกราคม 20, 2014, 09:39:07 ก่อนเที่ยง
อ้างจาก: pune_pune เมื่อ มกราคม 19, 2014, 08:08:44 หลังเที่ยง
ขออีกนิดครับผม เสื้อปลอก กับ เสื้อไม่ปลอกดูเหมือนจะมีอิธิพลกับชาวสองจังหวะจังเลยครับ อยากทราบว่า ระหว่าเสื่อปลอกแล้วกับไม่ปลอกมันต่างกันมากเลยเหรอครับ :P
แล้วแต่ปัจจัยครับ ถ้าปลอกดี ๆ เหล็กดี ๆ พอร์ทเนียน ๆ ก็ไม่มีผลหรอกครับ
แต่ถ้าเนียนไม่พอ ก็มีปัญหาความร้อน ส่วนมากเค้าก็เลยเลือกเสื้อที่ไม่ปลอก มาตีปลอกเองดีกว่าน่ะครับ
//หมายถึง ถ้ามันจะมีปัญหา ก็ให้มีปัญหาด้วยมือตัวเอง หรือด้วยความประมาทของตัวเอง ดีกว่าน่ะครับ ;)
ขอบคุณคราบผม พังด้วยมือตัวเองดีกว่าใช่มัยครับ 555+ (ผิดเป็นครู)
เจริญพร ญาติโยม
ตามที่ท่านโหน่งว่านั่นแล ถูกต้องแร้ววว >:(
อ้างจาก: เด็กชาย_โหน่ง_ เมื่อ มกราคม 20, 2014, 09:57:04 ก่อนเที่ยง
อ้างจาก: pune_pune เมื่อ มกราคม 19, 2014, 08:08:44 หลังเที่ยง
ขออีกนิดครับผม เสื้อปลอก กับ เสื้อไม่ปลอกดูเหมือนจะมีอิธิพลกับชาวสองจังหวะจังเลยครับ อยากทราบว่า ระหว่าเสื่อปลอกแล้วกับไม่ปลอกมันต่างกันมากเลยเหรอครับ :P
ก็นะ เอาให้สั่นสะเทือนเลยไหมครับ รู้สึกอยากกินผลกุระ กุระ นะครับ คิกๆ
Honda RC116 1966 เครื่องยนต์ 4 จังหวะ 2 สูบ 50 ซีซี แรงม้าสูงสุด อยู่ราว ๆ 19 แรงม้า ที่ 21,500 รอบต่อนาที
Suzuki RP 668 1968 เครื่องยนต์ 2 จังหวะ 3 สูบ 50 ซีซี แรงม้าสูงสุด ราวๆ 19 แรงม้า ที่ 20,000 รอบต่อนาที่
รถสองคัน นี้ เกิดเมื่อ ราวๆ 47 ปีที่แล้ว ซึ่ง เทคโนโลยีโลหะวิทยา แล้วก็ การพัฒนาของสารหล่อลื่น ยัง ไม่ก้าวไกลขนาดนี้
ทำไม มัน อยู่ได้จนจบการแข่งขันหล่ะครับ
เสื้อปลอกไม่ปลอกนี่ มันปัญหาโลกแตกชัดๆ เถียงกันตั้งแต่เปิดเวบแล้วมั้ง ว่าอันไหนดีกว่า
ของมันแน่อยู่แล้วครับ เสื้อที่เคลือบผิว ยังไงมันก็ดีกว่าอยู่แล้วครับ ไร้รอยต่อ ทอเต็มผืน แต่รู้สึกจะไม่เหมาะกับนีสัยคนไทยแฮะ
เพราะส่วนมาก เสื้อ ลูกแหวน ชุดเดียว เสียวตั้งแต่ตอนทำยันลูกบวช
เคล็ดลับง่ายๆ ในการใช้เสื้อเคลือบสารพิเศษ ต่างๆ ก็คือ ทำตามข้อกำหนดของผู้ผลิตให้ได้ อย่างเช่น มี จยย. ยี่ห้อหนึ่งกำหนดให้ เปลี่ยนลูกสูบแหวน ทุกๆ 20,000 กิโลเมตร ฯลฯ
เสื้อเคลือบ พวกนี้รู้ไหมครับว่ามัน แพ้อะไร ของพวกนี้ แพ้ของคมๆ แหลมๆ นะครับ โดยเฉพาะแหวนที่มีความคม เพราะผ่านการใช้งานมายาวนาน
ขอบแหวนทุกๆยี่ห้อ ทั้งปลอกและไม่ปลอก เข้าลบมุมแหวนก็เพราะเหตุนี้แหล่ะครับ
แล้วก็ อันนี้ความเห็นส่วนตัว ไม่มีหลักฐาน เหมือนเดิม ผมมองว่า การที่หลายๆ ค่ายๆ พยายามพัฒนาเทคโนโลยี สารเคลือบผิวพวกนี้มีเหตุผล
ประมาณนี้
อย่างแรก ไม่มีอะไรจะขาย
อย่างที่สอง ขยายขีดจำกัดเครื่องยนต์
จริงๆมันก็แค่ พยายามหา อะไรที่มันฝืดน้อยๆ เสียพลังงานน้อยๆ แล้วก็ เกิดอยากทะลึ่งหมุนซัก 16,000 -18,000 แล้วไม่ต้องพัฒนา สารหล่อลื่นให้มันเกาะผิวโลหะได้ดีขึ้น เพราะ ตัวมันเองก็ลื่น
หรือ .... จะเคยคิดถึงกันไหมหนอ ในเครื่องยนต์สองจังหวะ มีข้อด้อยหนึ่งข้อ ที่ให้ตายก็สู้เครื่องสี่จังหวะ ไม่ได้ก็คือ เอาเชื้อเพลิงเพียวๆไปเผาไม่ได้
มันก็คล้ายๆ ทำไม ต้องพัฒนาเครื่องระบายความร้อนด้วยน้ำออกมานั่นแหล่ะครับ ถ้ารู้จักถ่างตา หาอะไรอ่านกันบ้างก็จะรู้นะครับ ว่ามันคืออะไร
หลายๆคนรังเกียจเสื้อปลอก รวมถึงผมด้วย ปัญหาหลักๆ ก็ หนึ่งวัสดุที่เอามา ทำปลอก สองความเนียนของรูต่างๆ ว่ามันเหมือนเดิมไหม แค่นั้นเองครับ
หรือง่ายๆ ซื้อมาแล้วให้ความมั่นใจไม่ได้ว่า มันจะตีมาเหมือนเดิม
ส่วนเสื้อไม่ปลอก ปัญหาที่พบเจอมาก คือ ขอบขึ้นขาวครับ ขึ้นเป็นวงๆ ที่มันขึ้นเป็นวงๆ ก็เพราะ ไม่ยอมเปลี่ยนแหวน ตามระยะ ที่เขากำหนดแหล่ะ
จริงๆ คนส่วนใหญ่ไม่ได้รังเกียจเสื้อปลอกหรอกครับ แต่รังเกียจเสื้อปลอกที่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำมามากกว่านะ
แมร้ๆๆได้ใจเลย เด็กชาย โหน่ง +1
เก็บข้อมูลกำลังหามาครอบครองใหม่อีกสักคัน :(
แล้วแต่บุญพาวาสนาส่ง......ค้นหาเนื้อคู่